คุมเข้ม 10 วันอันตรายปีใหม่ 2568 ลดอุบัติเหตุได้ไหม ย้อนสถิติ 5 ปี จังหวัดไหนเกิดเหตุบ่อย
ย้อนสถิติ 5 ปี พ.ศ. 2563 ถึง 2567 เผยตัวเลข 7 วันอันตรายปีใหม่ อุบัติเหตุ-เจ็บ-ตาย เพียบ ปี 2568 คุมเข้ม 10 วัน เปิดศูนย์ป้องกัน หวังลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย
ใกล้ถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง โดยเฉพาะช่วง 7 วันอันตราย ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ปีนี้รัฐบาลเพิ่มความเข้มข้น ขยายเวลาคุมเข้มเป็น 10 วัน ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุให้เหลือน้อยที่สุด พร้อม 3 มาตรการ “งดดื่ม-ตั้งด่านชุมชน-ตรวจแอลกอฮอล์” คุมเข้ม ดีเดย์ 27 ธ.ค. 67 – 5 ม.ค. 68
เช็กจำนวนสถิติย้อนหลัง 5 ปี ปีไหนเกิดขึ้นบ่อยสุด-น้อยสุด
ทีมข่าวเฉพาะกิจ เดอะไทยเกอร์ ได้รวบรวมข้อมูล สถิติย้อนหลัง 5 ปี “7 วันอันตราย” ช่วงเทศกาลปีใหม่ พบตัวเลขอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต จำนวนมาก ดังนี้
ปีใหม่ 2563
เกิดอุบัติเหตุ 3,421 ครั้ง บาดเจ็บ 3,499 คน เสียชีวิต 373 ราย “สงขลา” ครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บสูงสุด ขณะที่ “กรุงเทพมหานคร” เสียชีวิตมากสุด 15 ราย สาเหตุหลักมาจาก “ดื่มแล้วขับ” และ “ขับรถเร็ว” ส่วนใหญ่เกิดกับ “รถจักรยานยนต์” ในช่วงเวลา 16.01-20.00 น.
ปีใหม่ 2564
เกิดอุบัติเหตุ 3,333 ครั้ง บาดเจ็บ 3,326 คน เสียชีวิต 392 ราย “เชียงใหม่” ครองแชมป์ทั้งเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บสูงสุด ส่วน “เชียงราย” เสียชีวิตสูงสุด 18 ราย “ขับรถเร็ว” แซงขึ้นเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง ตามด้วย “ดื่มแล้วขับ” และ “ตัดหน้ากระชั้นชิด” รถจักรยานยนต์ยังครองแชมป์ โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในช่วงเวลา 16.01-20.00 น.
ปีใหม่ 2565
เกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง บาดเจ็บ 2,672 คน เสียชีวิต 333 ราย “เชียงใหม่” ยังครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ส่วน “เชียงใหม่” และ “กาญจนบุรี” บาดเจ็บสูงสุดเท่ากัน ด้าน “กรุงเทพมหานคร” กลับมาครองแชมป์เสียชีวิตสูงสุด 22 ราย สาเหตุหลัก “ขับรถเร็ว” ตามด้วย “ตัดหน้ากระชั้นชิด” และ “ดื่มแล้วขับ” รถจักรยานยนต์ยังคงเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในช่วงเวลา 18.01-19.00 น.
ปีใหม่ 2566
เกิดอุบัติเหตุ 2,440 ครั้ง บาดเจ็บ 2,437 คน เสียชีวิต 317 คน “สุราษฎร์ธานี” ครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด “กาญจนบุรี” มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ส่วน “เชียงราย” เสียชีวิตสูงสุด 15 คน สาเหตุหลักยังคงเป็น “ขับรถเร็ว” และ “ตัดหน้ากระชั้นชิด” รถจักรยานยนต์ยังครองแชมป์ โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในช่วงเวลา 16.01-17.00 น.
ปีใหม่ 2567
เกิดอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง บาดเจ็บ 2,307 คน เสียชีวิต 284 คน “กาญจนบุรี” ครองแชมป์ทั้งเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บสูงสุด ขณะที่ “กรุงเทพมหานคร” เสียชีวิตสูงสุด 19 ราย “ขับรถเร็ว” เป็นสาเหตุหลัก โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดกับรถจักรยานยนต์ ในช่วงเวลา 07.01-08.00 น.
จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ “7 วันอันตราย” ย้อนหลัง 5 ปี (2563-2567) ที่คุณให้มา สามารถสรุปได้ดังนี้
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด
- เชียงใหม่ ครองแชมป์ 2 ปี (ปีใหม่ 2564 และ 2565)
- กาญจนบุรี ครองแชมป์ 1 ครั้ง (ปีใหม่ 2567)
- สงขลา ครองแชมป์ 1 ครั้ง (ปีใหม่ 2563)
- สุราษฎร์ธานี ครองแชมป์ 1 ครั้ง (ปีใหม่ 2566)
สรุปว่า ปีใหม่ 2563 มีจำนวนอุบัติเหตุมากที่สุด ส่วนปีใหม่ 2567 มีจำนวนอุบัติเหตุน้อยที่สุด ในรอบ 5 ปี (2563-2567)
หมายเหตุ ข้อมูลนี้อ้างอิงจากสถิติ “7 วันอันตราย” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามที่คุณให้มาเท่านั้น ไม่ได้นับรวมอุบัติเหตุตลอดทั้งปี
รบ. เปิดศูนย์ฯ สกัดอุบัติเหตุปีใหม่ คุมเข้ม 10 วัน
จากสถิติปีใหม่ 2567 พบว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 284 ราย โดยสาเหตุหลักมาจากการดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง และมีผู้บาดเจ็บ 2,307 คน
ดังนั้น ในปีใหม่ 2568 นี้ รัฐบาลจึงมุ่งมั่นลดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนให้น้อยลงกว่าทุกปี ด้วยการขยายเวลา “วันอันตราย” ที่ต้องเฝ้าระวังเพิ่มเป็น 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 พร้อม 3 แนวทางปฏิบัติ เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ ดังนี้
– รณรงค์งดดื่มสุรา เน้นการรณรงค์ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์
– ตั้งด่านชุมชน-ครอบครัว เพิ่มการตั้งด่านชุมชนและด่านครอบครัว นอกเหนือจากด่านของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสกัดกั้นผู้ดื่มสุราไม่ให้ออกมาขับขี่บนท้องถนน โดยจะขยายไปยังชุมชนต่างๆ ให้มากขึ้น
– ตรวจแอลกอฮอล์เข้มข้น บังคับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกราย หากพบว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนด จะดำเนินการสอบสวนขยายผลทุกกรณี โดยกำชับผ่านกรุงเทพมหานคร และศูนย์ความปลอดภัยทางถนนทุกจังหวัด
ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ 5 ปีย้อนหลัง “รถจักรยานยนต์” ยังคงเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ตามด้วยสาเหตุ ขับรถเร็ว และ ดื่มแล้วขับ ซึ่งปีใหม่ 2568 นี้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อลดความสูญเสียบนท้องถนน และสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา รัฐบาลเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ยกระดับคุมเข้ม ขยายเวลาเฝ้าระวังเป็น 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 พร้อมรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ-ง่วงไม่ขับ” หวังลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้น้อยที่สุด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการฯ โดยระบุว่า ปีนี้มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน จึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวัง พร้อมขอความร่วมมือประชาชน ร่วมกันลดอุบัติเหตุ โดยยึดหลัก “ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ” อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มงวด โดยปีนี้ตั้งเป้าลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้น้อยที่สุด พร้อมกำชับให้มีการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมซ้ำรอย
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อมตลอดช่วง 10 วันอันตราย โดยเน้นย้ำให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงและจุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมทั้งวางเครือข่ายเชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษ M6 และ M81 และบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
มูลนิธิเมาไม่ขับ วอนรณรงค์ลดอุบัติเหตุทุกวัน ชี้เป้าลด 5% เป็นไปไม่ได้
ขณะที่ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า มาตรการรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล 7-10 วัน เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการรณรงค์ลดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาล เพราะที่ผ่านมา การรณรงค์ในช่วงเทศกาลสามารถลดอุบัติเหตุได้มากถึงเท่าตัว เมื่อเทียบกับวันปกติที่มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 40 คน
นพ.แท้จริง ยังกล่าวอีกว่า เป้าหมายของรัฐบาลที่จะลดอุบัติเหตุทางถนนลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมานั้น เป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ยาก พร้อมย้ำถึงรากเหง้าของปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนว่า ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน และระบบอุปถัมภ์ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เซฟเก็บไว้! รวมเบอร์โทรฉุกเฉิน อุ่นใจตลอดทริปปีใหม่ ตำรวจ-กู้ภัย-รถพยาบาล
- 191 : แจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย ทุกกรณี
- 1193 : ตำรวจทางหลวง ดูแลความปลอดภัยบนทางหลวง
- 1586 : กรมทางหลวง สอบถามข้อมูลเส้นทาง แจ้งเหตุบนทางหลวง
- 1146 : กรมทางหลวงชนบท ดูแลเส้นทางในความรับผิดชอบ
- 1192 : แจ้งรถหาย ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์
- 1543 : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สอบถามข้อมูล แจ้งเหตุบนทางด่วน
- 1197 : ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) สอบถามสภาพจราจร แจ้งเหตุ
- 1137 : วิทยุ จส.100 แจ้งเหตุ ประสานงาน ขอความช่วยเหลือ
- 1669 : สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เรียกรถพยาบาล กู้ชีพ
- 1155 : ตำรวจท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว
- 1646 : ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร บริการการแพทย์ฉุกเฉิน
- 1490 : บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) สอบถามข้อมูลการเดินทาง แจ้งเหตุรถโดยสารสาธารณะ
- 1690 : การรถไฟแห่งประเทศไทย สอบถามข้อมูลการเดินทาง แจ้งเหตุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็กเส้นทาง ปิดถนน สวนสนาม-ถวายสัตย์ปฏิญาณตนทหารรักษาพระองค์ 2567
- ครม. ไฟเขียว ทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ขึ้นฟรี 4 เส้นทาง 26 ธ.ค. – 2 ม.ค. 68