จริงหรือไม่ 15 ความเชื่อคนโบราณ จากทั่วมุมโลก วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้ว
เปิดเผยความจริง 15 ความเชื่อของคนโบราณ จากทั่วทุกมูมโลก จริงหรือไม่ ความจริงเป็นยังไงกันแน่ วิทยาศาตร์พิสูจน์แล้ว
หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินความเชื่อโบราณกันมาบ้าน บางอย่างก็ฟังแล้วตั้งคำถามในหัวว่ามันมีจริงหรอ ในสมัยก่อนวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนปัจจุบัน ทำให้ผู้คนต่างพากันเชื่อแบบผิด ๆ ไปต่าง ๆ นา ๆ ความเชื่อเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง รวบรวมมาให้แล้ว
เรื่องที่ 1 ผีอำ
อาการยอดนิยมที่ทุกคนต้องเคยผ่านกันมาแล้ว จริง ๆ แล้ว คืออาการของคนที่นอนกึ่งหลับกึ่งตื่น เป็นช่วงที่ร่างกายและอวัยวะของคนหยุดทำงานแล้วบางส่วน ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือพูดคุยได้ จึงทำให้เกิดความกลัว และตามมาด้วยการนำไปโยงกับเรื่องศาสนาและผี ซึ่งอาการผีอำจริง ๆ แล้วคือ Sleep paralysis
เรื่องที่ 2 ห้ามชี้รุ้งกินน้ำเพราะนิ้วกุด
ห้ามชี้รุ้งกินน้ำเพราะจะทำให้นิ้วกุด ความเชื่อที่ว่าการชี้ไปที่รุ้งกินน้ำจะทำให้นิ้วกุดเป็นเพียงความเชื่อโบราณที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนเลย รุ้งกินน้ำเกิดจากแสงอาทิตย์หักเหผ่านละอองน้ำในอากาศ ทำให้เกิดเป็นสีสันสวยงาม การชี้ไปที่รุ้งจึงไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราแต่อย่างใด
เรื่องที่ 3 ผึ้งทำรังในบ้านจะทำให้เกิดความหายนะ
ผึ้งเลือกทำรังในบ้านมักมีสาเหตุมาจากการที่พบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น มีช่องว่างหรือโพรงให้เข้าไปทำรังได้ การมีรังผึ้งในบ้านนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างบ้านแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอันตรายจากการถูกผึ้งต่อยได้อีกด้วย ดังนั้นควรหาทางป้องกันไม่ให้ผึ้งเข้ามาทำรังในบ้าน และหากพบรังแล้วควรรีบแจ้งผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าไปทำรังตามศาลเจ้า พระพุทธรูป คนก็จะแห่กันไปจุดธูปขอหวย ขอเลขเด็ด
เรื่องที่ 4 ปักตะไคร้แล้วฝนจะไม่ตก
สาวพรหมจรรย์ปักตะไคร้กลับหัวแล้วฝนจะไม่ตก ความเชื่อที่ว่าการปักตะไคร้จะทำให้ฝนหยุดตกเป็นความเชื่อที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนเลย เพราะการเกิดฝนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยทางธรรมชาติหลายอย่าง เช่น ความชื้นในอากาศ อุณหภูมิ และลม การปักตะไคร้จึงไม่สามารถหยุดฝนที่ตกลงมาได้
เรื่องที่ 5 ต้นไม้ออกลูกเป็นแกะ
เป็นความเชื่อที่เกิดจากความเข้าใจผิดในยุคกรีก ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าลูกแกะเป็นผลของต้นไม้ และถ้าเราเอาแกะไปปลูกอย่างถูกวิธีเราก็จะได้ต้นแกะ ที่เราสามารถเก็บลูกแกะเป็นผลผลิตได้ ความเชื่อนี้มาจากบันทึกฉบับหนึ่งของอินเดียที่เขียนถึงต้นฝ้ายไว้ว่าเป็นต้นไม้ที่ออกผลเป็นขนนุ่ม แล้วชาวกรีกที่เป็นคนแปลบันทึกนั้นเข้าใจผิดว่าหมายถึงขนแกะ หลังจากนั้นความเชื่อนี้ก็ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น นักพฤกษศาสตร์ในยุคศตวรรษที่ 17 ของยุโรปยังมีการถกเถียงกันว่าแกะขยายพันธุ์แบบพืชด้วยวิธีใด ใช้การตอนกิ่งหรือติดตา
มีนักเขียนชื่อดังในยุคนั้นยังเขียนในบันทึกการท่องเที่ยวอินเดียว่าที่นั่นมีต้นไม้มหัศจรรย์ที่ออกผลเป็นลูกแกะตัวน้อยที่ปลายก้าน และเมื่อแกะหิวก็จะกดก้านลงมาเพื่อกินหญ้าที่พื้น ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านักเขียนเขียนแบบล้อเลียนหรือไม่
เรื่องที่ 6 พระจันทร์เต็มดวงทำให้เราบ้าได้
พระจันทร์เต็มดวงส่งผลต่อพฤติกรรมของเรา และทำให้เราบ้าได้ ความเชื่อที่ว่าพระจันทร์เต็มดวงส่งผลให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นเป็นความเชื่อที่ได้รับการยึดถือมาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะมีการกล่าวอ้างว่าตำรวจหลายแห่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงดังกล่าว แต่ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์กลับไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนความเชื่อนี้ การศึกษาจำนวนมากได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเกี่ยวกับอัตราการเกิดอาชญากรรมในช่วงพระจันทร์เต็มดวงและช่วงอื่น ๆ ผลการวิเคราะห์พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างทั้งสองปัจจัย แต่อาจเป็นปัจจัยอื่น เช่น การที่มีผู้คนออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้นในช่วงวันหยุด
เรื่องที่ 7 พระจันทร์มีด้านมืด
ความเชื่อที่ว่าดวงจันทร์มีด้านมืดถาวรนั้นเกิดจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการโคจรของดวงจันทร์รอบโลก แม้ว่าจะมีบางส่วนของดวงจันทร์ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้จากโลก แต่ส่วนนั้นไม่ได้มืดตลอดเวลา ดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองและโคจรรอบโลก ทำให้เราเห็นดวงจันทร์ในมุมที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ปรากฏการณ์ข้างขึ้นข้างแรมจึงเกิดขึ้น
เรื่องที่ 8 โลกแบน
แม้ปัจจุบันจะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากมายที่ยืนยันว่าโลกมีรูปร่างเป็นทรงกลม เช่น ภาพถ่ายจากอวกาศที่แสดงให้เห็นเส้นขอบฟ้าโค้ง แต่ก็ยังมีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งที่ยึดมั่นในความเชื่อว่าโลกแบน พวกเขามักอ้างอิงแผนที่โลกแบบเก่าและปฏิเสธข้อมูลจากองค์กรอวกาศ เช่น นาซ่า โดยมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎีสมคบคิด
เรื่องที 9 การเจาะเลือดเสียทิ้ง
ความเชื่อที่ว่าการเจาะเลือดสามารถรักษาโรคได้เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต ผู้คนเชื่อว่าโรคเกิดจากวิญญาณชั่วร้ายหรือความไม่สมดุลของของเหลวในร่างกาย การเจาะเลือดจึงถูกนำมาใช้เป็นวิธีการรักษาหลักมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาของวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่าการเจาะเลือดไม่ได้ช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องที่ 10 น้ำดื่มผสมกัมมันตรังสี
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสรรพคุณของกัมมันตภาพรังสีในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้เกิดกระแสผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารกัมมันตรังสี เช่น น้ำดื่มที่โฆษณาว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ แม้ว่าในภายหลังจะพบว่าสารกัมมันตภาพรังสีเป็นอันตรายต่อสุขภาพและไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรคใด ๆ
เรื่องที่ 11 แร่ใยหินสารพัดประโยชน์
ในยุคเอ็ดเวอเดียน แร่ใยหินได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากมีคุณสมบัติโดดเด่น เช่น ทนไฟ ทนความร้อน และทนทานต่อสารเคมี ทำให้ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด ทั้งวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ในบ้าน และสิ่งทอ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการค้นพบว่าแร่ใยหินก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ประเทศส่วนใหญ่จึงได้มีการห้ามใช้แร่ใยหิน
เรื่องที่ 12 การช่วยตัวเองทำให้อกแบน
สมัยก่อน คนเชื่อกันว่าการช่วยตัวเองเป็นเรื่องผิดและทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงมากมาย เช่น โรคจิตหรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะถูกเตือนว่าถ้าช่วยตัวเอง หน้าอกจะไม่โต และอาจหมดประจำเดือนเร็วกว่าปกติ ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อที่ผิดพลาดและไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนเลย
เรื่องที่ 13 ออสเตรเลียไม่มีจริง พลเมืองเป็นนักแสดง
ออสเตรเลียไม่มีจริง และพลเมืองในประเทศเป็นนักแสดง แม้จะมีหลักฐานมากมายที่ยืนยันว่าออสเตรเลียมีอยู่จริง แต่ก็ยังมีทฤษฎีสมคบคิดที่แพร่หลายว่าออสเตรเลียนั้นเป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้นมา ทฤษฎีดังกล่าวอ้างว่าอังกฤษไม่ได้ส่งนักโทษไปยังออสเตรเลียตามที่เป็นที่รู้กัน แต่กลับสังหารนักโทษเหล่านั้นทิ้ง ความเชื่อนี้ดูขัดแย้งกับความเป็นจริงที่สายการบินนับไม่ถ้วนมีเที่ยวบินไปยังออสเตรเลียทุกวัน และผู้คนสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวที่ออสเตรเลียได้อย่างอิสระ
เรื่องที่ 14 วัคซีนไม่มีจริง
ผลสำรวจล่าสุดเผยให้เห็นว่าความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับวัคซีนยังคงเป็นปัญหาสำคัญในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา แม้จะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าวัคซีนช่วยป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงได้มากมาย แต่ความลังเลในการรับวัคซีนก็ยังคงมีอยู่สูง การกลับมาแพร่ระบาดของโรคไอกรนหลังจากที่เคยหายไปจากสังคมเป็นเวลานาน เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการไม่ให้ความสำคัญกับวัคซีนนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพของทั้งบุคคลและสังคม
เรื่องที่ 15 สัตว์ประหลาดลอคเนสส์มีจริง
เรื่องราวของเนสซี สัตว์ประหลาดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เป็นตำนานที่โด่งดังมาอย่างยาวนาน ภาพถ่ายที่ถูกอ้างว่าเป็นภาพของเนสซี ทำให้หลายคนเชื่อว่ามีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้จริง ๆ แต่ความจริงแล้ว ภาพถ่ายเหล่านั้นส่วนใหญ่ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นภาพปลอมแปลง การสำรวจทางวิทยาศาสตร์หลายครั้งก็ไม่พบหลักฐานที่ยืนยันการมีอยู่ของเนสซี สิ่งที่ผู้คนเห็นอาจเป็นเพียงแค่ปลาขนาดใหญ่หรือสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ
อ้างอิง: science.howstuffworks.com
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- นักวิทยาศาสตร์ไทย ชื่อเสียงระดับโลก เปิดเส้นทางอาชีพสายวิทย์ฯ รายได้ดีไหม
- 10 สิ่งประดิษฐ์พลิกโฉมโลก จากอดีต-ปัจจุบัน มีวิวัฒนาการอย่างไรบ้าง
- 50 แคปชั่น วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2567 คำคมฮา เอาใจเด็กเนิร์ด