เปรียบเทียบ ‘หวยเกษียณ’ กับ ‘หวยรัฐบาลไทย’ ต่างกันอย่างไร เช็กเงื่อนไขรางวัล คุณสมบัติผู้ซื้อ แนวทางเสี่ยงโชคที่เหมาะกับตัวเรา?
หวย หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นรูปแบบการเสี่ยงโชคยอดนิยมของคนไทย แต่ท่ามกลางยุคที่การออมเงินเป็นเรื่องท้าทายเช่นนี้ รัฐบาลไทยจึงได้เสนอทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจให้กับประชาชน นั่นคือ “หวยเกษียณ” หรือ “สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” การออมเงินควบคู่ไปกับการลุ้นโชค ที่นอกเหนือจากหวยรัฐบาลไทยแบบเดิม ๆ
หวยเกษียณ มีความแตกต่างจากหวยรัฐบาลอยู่ไม่น้อย แต่จะแตกต่างอย่างไรบ้างนั้น บทความนี้จะพาคุณไปเปรียบเทียบรายละเอียดของทั้งสองรูปแบบกรเสี่ยงโชค เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าหวยแบบไหนเหมาะกับคุณ
‘หวยเกษียณ’ ขจัดปัญหาไร้เงินออกยามแก่
“สลากเกษียณ” และ “หวยเกษียณ” เป็นนวัตกรรมเชิงนโยบายที่นำเอาลักษณะการชอบเสี่ยงดวง มาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออม เพื่อแก้ไขปัญหาคนไทยแก่แต่จน หรือไร้เงินเก็บยามแก่
เมื่อซื้อสลากถูกกฎหมาย เงินไม่หาย ในอนาคตก็กลายเป็นเงินออมยามเกษียณ เมื่อถูกรางวัลได้เงินเลย แต่หากไม่ถูกเงินทั้งหมดในการซื้อสลากจะถูกเก็บเป็นเงินออมยามเกษียณ โดยจะสามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมดออกมาได้ตอนเกษียณ หรือเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แต่หากถูกรางวัลก็สามารถนำเงินออกมาใช้ได้ทันที
ใครซื้อ ‘หวยเกษียณ’ ได้บ้าง
สลากฯ จะออกโดยกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท กำหนดให้ซื้อได้ทุกวัน แต่จำกัดการซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน เปิดให้ซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น กอช. โดยขายให้กับ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ดังนี้
- สมาชิกกอช.
- ผู้ประกันตนมาตรา 40
- แรงงานนอกระบบ
ซื้อหวยเกษียณจากที่ไหน
หวยเกษียณสามารถซื้อได้ผ่านแอปพลิเคชันของ กอช. โดยการซื้อสลาก 1 ครั้ง จะมีสิทธิลุ้นรางวัลเพียงครั้งเดียว หากต้องการลุ้นใหม่ต้องซื้อเพิ่ม
รูปแบบการออกรางวัล
ประกาศผลการออกรางวัลสัปดาห์ละครั้ง ในวันศุกร์ เวลา 17.00 น. คาดว่าจะเริ่มในปี 2568 โดยแบ่งออกเป็น 2 รางวัล ดังนี้
- รางวัลที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาท มีทั้งหมด 5 รางวัล
- รางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
อย่างไรก็ดี ในแต่ละงวด สลากที่กองสลากฯออกมา 1 ชุด จะมีทั้งหมด 1,000,000 ฉบับ และในจำนวนนั้นมีรางวัลทั้งหมด 14,168 รางวัล คิดเป็นมูลค่าเงินรางวัลทั้งหมด 48,000,000 บาท
‘หวยรัฐบาลไทย’ แนวทางเสี่ยงโชคยอดฮิต
“หวย” หรือ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” เป็นรูปแบบการเสี่ยงโชคที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งผู้เสี่ยงทายจะต้องเลือกซื้อลอตเตอรี่หมายเลขหวยที่ต้องการ เพื่อนำไปรอลุ้นการออกรางวัล
คุณสมบัติผู้ซื้อ ‘สลากกินแบ่งรัฐบาล’
สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ หวยรัฐบาลไทย ออกโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รูปแบบสลากเป็นแบบลอตเตอรี่ กำหนดราคาขายไว้ที่ 80 บาท โดยผู้ซื้อจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
เลือกซื้อได้ทั้งลอตเตอรี่และสลากดิจิทัล
ผู้เสี่ยงโชคที่อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ สามารถเลือกซื้อลอตเตอรี่ได้จากร้านค้าที่ร่วมโครงการ และซื้อสลากดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง
- ซื้อสลากจากร้านค้าที่ร่วมโครงการ ผู้ซื้อจะได้รับสลากจากร้านค้าโดยตรง และสามารถนำไปลุ้นผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ทันที
- ซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ หรือ สลากดิจิทัล ผ่านแอปฯ เป๋าตัง โดยวิธีการก็คือ 1. เปิดแอปเป๋าตัง คลิกที่เมนู “บริการ” ต่อมาคลิกเลือกเมนู “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ที่อยู่ภายในโครงการและมาตรการรัฐ และจากนั้นกดเลือก “ซื้อสลากดิจิทัล” และต้องชำระเงิน ผ่าน G-Wallet โดยจะเลือกซื้อสลากได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน แต่ในวันออกสลากจะสามารถซื้อได้ถึง 14.00 น. เท่านั้น
รูปแบบการออกรางวัล
สลากกินแบ่งรัฐบาลจะประกาศผลรางวัลทุกวันที่ 1 และ 16 ของแต่ละเดือน แต่จะมีเพียงแค่ 3 งวดต่อปีเท่านั้นที่จะออกรางวัลในวันอื่น ได้แก่
- งวดวันที่ 1 มกราคม เปลี่ยนไปออกรางวัลในวันที่ 30 ธันวาคม ปีก่อนหน้าแทน เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่
- งวดวันที่ 16 มกราคม เปลี่ยนไปออกรางวัลในวันที่ 17 มกราคม เพราะตรงกับวันครู
- งวดวันที่ 1 พฤษภาคม เปลี่ยนไปออกรางวัลในวันที่ 2 พฤษภาคม เนื่องจากตรงกับวันแรงงานแห่งชาติ
ความต่างระหว่าง ‘หวยเกษียณ’ และ ‘หวยรัฐบาล’
ด้วยเหตุนี้จึงสรุปได้ว่า ‘หวยรัฐบาล’ เป็นการเสี่ยงโชคแบบดั้งเดิมที่เน้นการลุ้นรางวัลทันที เป็นรูปแบบการเสี่ยงโชคที่เมื่อไม่ถูกรางวัลก็จะไม่ได้รับเงินคืน แต่ในส่วนของ ‘หวยเกษียณ’ เป็นทางเลือกใหม่ที่มุ่งเน้นการออมเงินระยะยาวควบคู่ไปกับการเสี่ยงโชค โดยมีจุดเด่นคือ เงินที่ไม่ถูกรางวัลจะไม่สูญเปล่า แต่จะถูกนำไปสะสมไว้จนกว่าจะถึงวัยเกษียณ (อายุครบ 60 ปี) เพื่อเป็นแหล่งเก็บเงินไว้ใช้ในยามแก่เฒ่า
ทั้งนี้ นอกจากเงินซื้อสลากจะไม่สูญเปล่าแล้วนั้น ราคาซื้อสลากเสี่ยงโชคยังถูกกว่าหวยรัฐบาลถึง 30 บาท ทั้งยังออกรางวัลบ่อยกว่า นั่นจึงหมายความว่ามีโอกาสลุ้นโชคได้มากกว่า เพียงแต่โอกาสถูกรางวัลก็จะน้อยกว่า เพราะในแต่ละงวดจะมีเพียง 10,005 รางวัลเท่านั้น
สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจออมเงิน โดยที่เงินส่วนนั้นสามารถต่อยอดเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ การเลือกซื้อรูปแบบหวยเกษียณนั้นจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง