ข่าวภูมิภาค

ซอยด๊อกแถลงชื่นชมวอทช์ด็อก กรณีแก๊งโบโบ้ข่มขืนสุนัข

ภาพ: ผู้ต้องหาหัวหน้ากลุ่มโบโบ้ (ขวา) กำลังให้ปากคำกับตำรวจที่บ้านพักของตน (ภาพจาก Watchdog Thailand)

จากกรณีที่ กลุ่มวอทช์ด็อก ไทยแลนด์เข้าแจ้งความกับสภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เกี่ยวกับนาย บอม หลบมุม หัวหน้าแก๊งโบโบ้ กลุ่มกระทำชำเราสุนัข ที่มีการเผยแพร่คลิปอนาจารภายในกลุ่มและเปิดรับสมาชิกกลุ่มไลน์ด้วยราคา 200 บาท แลกกับการดูคลิปนั้น ล่าสุด กลุ่มองค์กรพิทักษ์สัตว์อย่างวอทช์ด็อก และซอยด๊อกได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

กลุ่มวอทช์ด็อกซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย เผยว่านอกจากจะมีค่าใช้จ่าย 200 บาทในการชมคลิปอนาจารดังกล่าวแล้ว ในแต่ละเดือน สมาชิกกลุ่มยังสามารถจ่ายเงินเพิ่มสำหรับเซ็กซ์หมู่กับสุนัขถึง 10 ตัวได้อีกด้วย โดยทางกลุ่มวอทช์ด็อกกล่าวว่านายบอม มีพฤติกรรมตระเวนรับสุนัขจรไปดูแลอาบน้ำทำความสะอาด โดยอ้างว่าทำไปเพื่อช่วยเหลือสุนัข

ทางกลุ่มใช้เวลารวบรวมหลักฐานในคดีนี้นับปีเพื่อหาแหล่งที่อยู่ของนายบอม ซึ่งตั้งอยู่ในร้านจำหน่ายสุราในอ.สันกำแพง ก่อนที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม หลังจากที่วอทช์ด็อกได้เผยแพร่ความคืบหน้าการจับกุมในแฟนเพจก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องให้มีบทลงโทษขั้นรุนแรงกับการกระทำของแก๊งโบโบ้

ตัวแทนกลุ่มวอทช์ด็อกเผยว่า นายบอมและแก๊งโบโบ้ ทำผิดถึงสองพรบ. ได้แก่ พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์พ.. 2557 มาตรา 20 ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พรบ.คอมพิวเตอร์พ.. 2560 มาตรา 14 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“มันทุกข์ใจ ขยะแขยง และสงสารหมา กรณีนี้ไม่รวมอีกหลายชีวิตทั่วประเทศ เพราะบุคคลเหล่านี้ตั้งกลุ่มนัดหมายกันมานานมากมายหลายปีแล้วตัวแทนกลุ่มวอทช์ด็อกกล่าว

“เราพยายามติดตามมาตลอดค่ะ แต่เพราะไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเทคโนโลยี เราพยายามประกาศขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่มีเบาะแสหรือความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะผู้เคยสมัครเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่ม แต่แม้จะได้เบาะแสแล้ว แต่กลุ่มเหล่านี้ก็จะปิดๆ เปิดๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ให้เราจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน และนี่แหละคือสิ่งที่ก่อให้เกิดความทุกข์ใจและหวังว่าสักวัน คนโง่และคนโลภที่กระทำทารุณกรรมต่อสัตว์จะต้องเปิดช่องให้เราได้”

“และแล้ววันนั้นก็มาถึง เราจึงประสานตำรวจทันที พร้อมแฝงตัวเข้าเป็นสมาชิกแล้วติดตามสืบหาสถานที่อยู่ด้วยวิธีการของตำรวจ จึงทำให้บุกจับถึงบ้านได้ภายในวันเดียว”

ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มวอทช์ด็อกได้แสดงความรู้สึกยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐเป็นอย่างดี ทำให้การจับกุมประสบความสำเร็จ

“มีความสุขมากๆ ค่ะ และมีความสุขยิ่งขึ้นเมื่อได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้บังคับการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะขยายผลจับกุมบุคคลที่เหลือในกลุ่ม ซึ่งเรามีประวัติและทะเบียนราษฎร์พร้อมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังพูดออกไปไม่ได้ เพราะจะทำให้ไหวตัว แค่ข่าวจับนายบอมหัวหน้ากลุ่ม พวกนี้ก็ไหวตัวมากแล้ว และคงจะหยุด Facebook หรือ Twitter กันไปสักพักหนึ่งค่ะ”

“แต่เราจะติดตามจากข้อมูลเดิมที่เราเก็บไว้ต่อไปแน่นอนค่ะ”

คดีแก๊งโบโบ้นี้ เป็นคดีร้ายแรงในพรบ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ คดีที่ 4 แล้วในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ยังมีคดีที่ดีเจสาวเชือดและควักเครื่องในลูกแมวทั้งเป็น ซึ่งเชื่อว่าเป็นการกระทำเพื่อแลกเงินจากเว็บใต้ดิน

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ชายสองคนจากสองคดีที่ฆ่าสุนัขของเพื่อนบ้านตายเพราะบันดาลโทสะ ซึ่งวอทช์ด็อกก็กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับทั้งสามกรณีนี้เช่นกัน

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ในฐานะผู้ให้ทุนสนับสนุนวอทช์ด็อก ไทยแลนด์ แสดงความชื่นชมในความทุ่มเททำงานอย่างต่อเนื่องในคดีทารุณกรรมสัตว์ทุกๆ คดี

ทั้งนี้ โดยแรกเริ่มเดิมที วอทช์ด็อก ไทยแลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปีพ.. 2554 ในฐานะหน่วยงานลับของมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยเพื่อต่อสู้กับขบวนการค้าเนื้อสุนัขที่ส่งเนื้อสุนัขจากประเทศไทยไปขายยังประเทศเวียดนาม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 7 ปีในการยุติขบวนการดังกล่าว แต่หลังจากนั้นวอทช์ด็อกก็ยังคงเดินหน้าต่อสู้กับการกระทำทารุณต่อสุนัขและแมวต่อไป

นายจอห์น ดัลลีย์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ได้เห็นหัวหน้าแก๊งโบโบ้ถูกเปิดโปง

“แต่เป็นเรื่องน่าเศร้า เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ในประเทศไทยเท่านั้น การกระทำเช่นนี้เป็นอาชญากรรมที่ส่วนใหญ่แล้วสัตว์จะต้องจบชีวิตลงเพียงเพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่คนโรคจิต”

“การกระทำอนาจารนี้มีมานานแล้ว และสุดท้ายก็ถูกจับได้เสียที เราหวังว่าศาลจะไม่ปราณีต่อผู้กระทำผิด”

ขณะที่ผู้อำนวยการฝ่ายสวัสดิภาพสัตว์ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ประจำกรุงเทพมหานคร น.สพ.ตันติกร รุ่งพัฒนะ กล่าวว่า การร่วมเพศกับสุนัขนั้น ส่งผลกระทบทางร่างกายของสุนัขอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังมีผลต่อสุขภาพ ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายบอม หัวหน้าแก๊งโบโบ้ ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และกล่าวว่าหนึ่งในสุนัขที่ปรากฏในวีดิโอ ถูกวางยาและเสียชีวิตไปแล้ว ในขณะที่สุนัขอีกตัว เป็นสุนัขของเพื่อนบ้าน ขณะนี้ตำรวจจึงยังไม่สามารถหาตัวสุนัขที่ถูกข่มขืนได้แต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button