เรื่องที่คุณไม่รู้ของ “โค้ชยะ ณัฐพนธ์” อดีตมือเซตเหรียญทอง สู่โค้ชทีมหญิงไทยชุด VNL 2024
ประวัติ โค้ชยะ ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค อดีตมือเซตทีมชาติ สู่กุนซือผู้ปลุกปั้นตำนานวอลเลย์บอลหญิงไทย
หากเอ่ยถึงชื่อ “โค้ชยะ” ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค ในวัย 57 ปี คงไม่มีแฟนวอลเลย์บอลคนไหนไม่รู้จัก เพราะนี่คือชายผู้เป็นเสมือนลมใต้ปีกของนักตบลูกยางสาวไทย ที่พาทีมชาติไทยก้าวสู่เวทีระดับโลกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
จุดเริ่มต้นในฐานะนักกีฬาวอลเลย์บอล
โค้ชยะ มีชื่อสมัยเกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2509 ว่า ปิยะ ศรีสมุทรนาค เขาคลุกคลีอยู่ในเส้นทางลูกยางตั้งแต่ก่อนมาเป็นโค้ช เริ่มต้นจากการเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย ในตำแหน่งมือเซตมากความสามารถ รุ่นเดียวกับ โค้ชอ๊อด เกียรติพงศ์ รัชตะเกรียงไกร
โค้ชยะผ่านสมรภูมิซีเกมส์มาถึง 7 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ พ.ศ. 2538 ถึง 2544 เป็นกำลังสำคัญที่นำทีมคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ณ กรุงเทพฯ ปี พ.ศ. 2538
บทบาทการเป็นโค้ชผู้ฝึกสอน
หลังจากอำลาพื้นยางในฐานะผู้เล่น เขาได้ผันตัวสู่บทบาทผู้ฝึกสอนทีมชาติหญิงไทยอย่างเต็มตัว ความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของเขา ทำให้ทีมลูกยางสาวไทยพัฒนาฝีมือขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนสามารถคว้าสิทธิ์เข้าแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์คัพได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2550
ไม่เพียงเท่านั้น โค้ชยะยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ พาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2014 ซึ่งเป็นเหรียญรางวัลแรกในประวัติศาสตร์ของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยในเอเชียนเกมส์อีกด้วย
ความสำเร็จของโค้ชยะไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เขายังคงพัฒนาศักยภาพของทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่อง จนในปี พ.ศ. 2556 เขานำทีมวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงไทยคว้าแชมป์เอเชียมาครองได้สำเร็จ
โค้ชยะเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่ยึดติดหัวโขนหรือตำแหน่ง เมื่อโค้ชอ๊อดเริ่มทำทีมหญิงชุด 7 เซียน โค้ชยะก็ลดบทบาทมาเป็นผู้ช่วยโค้ช คอยเป็นกำลังสำคัญซัพพอร์ตให้ทีมหญิงสมบูรณ์ที่สุด
เมื่อครั้งโค้ชอ๊อดอำลาหลังพลาดหวังไปโอลิมปิก 2016 โค้ชด่วนขึ้นมาแทน โค้ชยะก็ยังคงคอยสนับสนุนเป็นผู้ช่วยไม่ไปไหน
เมื่อซีเกมส์ปี 2565 โค้ชยะได้หวนกลับไปคุมทีมชายอีกครั้งหนึ่ง แทนที่ของ “โค้ชยุ่น” นาวาอากาศโท มนต์ชัย สุภจิรกุล
ล่าสุด ต้นปี 2567 เมื่อโค้ชด่วน ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ลาออกกะทันหัน โค้ชยะได้รับความไว้วางใจให้กลับมาคุมทีมชาติหญิงอีกครั้งในศึกวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก 2024 ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของเขาในการนำทีมไทยสู่โอลิมปิก
เป็นโค้ชชุดวอลเลย์บอลหญิง VNL 2024 ไม่ใช่งานง่าย
ความท้าทายของหนึ่งในสุดยอดโค้ชไทยแห่งสโมสรสุพรีม คือการต้องมารับช่วงต่อกะทันหัน มีเวลาค่อนข้างจำกัดในการฝึกซ้อมทีม โค้ชยะจึงต้องใช้ไหวพริบและทักษะอย่างมาก ในการพาทีมหญิงไทย ไปถึงเป้าหมายที่หวังให้ได้
แม้ว่า 4 นัดแรก ทีมชาตืไทยจะแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย โค้ชยะ ได้กล่าวว่าปัญหาของทีมไทยตอนนี้เป็นเรื่องของรายละเอียด “เสียเองค่อนข้างง่าย บางทีเราได้บอลมา แต่รุกเองไม่ได้ อันนี้คือสิ่งที่ต้องไปพัฒนา” ความสูงก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสะกัดกั้นอีกทีมยาก “พอเขารับได้เขายกสูงไว้ก่อนเลย แล้วเขาก็ตีเหนือบล็อก เลือกที่จะตีหรือหยอดได้ อันนี้ก็ถือเป็นจุดอ่อนที่แก้ไม่ได้ เพราะเขาสูงจริงๆ”
“ปัญหาอีกส่วนหนึ่งก็คือ การรับลูกเสิร์ฟของเราที่เสียมากเกินไปในบางช่วง ถ้าเราสามารถเปลี่ยนเสิร์ฟ รับแล้วรุกกลับไปให้ได้ คะแนนมันจะไม่ขาดขนาดนี้”
ถ้าใครติดตามวอลเลย์บอลหญิงไทยมาตั้งแต่ยุค 7 เซียน ก็จะเห็น 3 ทหารเสือ โค้ชอ๊อด โค้ชยะ โค๊ชด่วน เคียงคู่ร่วมฝ่าฝันมาด้วยกันตลอด จากทีมไม้ประดับในเอเชีย ผลักดันจนไปยืนแถวหน้าของโลกได้อย่างภาคภูมิ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากความทุ่มเท รักในวอลเลย์บอลอย่างแท้จริง