แฟนตกใจ ภาพล่าสุด มาลวินา สมาร์เซก บีหลังทีมชาติโปแลนด์ กลับมาติดทีมสู้ศึก VNL 2024 ดูผอมกว่าเดิมมาก หลังหายหน้าไปนาน ห่วงเกิดอะไรขึ้น
วันนี้ 10 พฤษภาคม 2567 รายงานเกาะติดมหกรรมลูกโยงโลก วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก 2024 ที่จะเริ่มแข่งขันสนามแรก 14 นี้ พร้อมด้วย 16 ชาติชั้นนำของโลก โปแลนด์เป็นหนึ่งได้ทีมมาแรงที่ได้ตั๋วโอลิมปิกและลุ้นแชมป์ทัวร์นี้ เสริมเขี้ยวเล็บสำคัญ ได้ มาลวินา สมาร์เซก บีหลังตัวเก่งกลับมาในรอบหลายปี หลังจากเผชิญดราม่าผลพวงจะสงครามรัสเซียบุกยูเครน
แต่ภาพล่าสุดของสมาร์เซก ที่กำลังถ่ายภาพโปรโมทการแข่งขัน ทำเอาแฟนๆ ต่างตกใจและกังวลระคนกัน ด้วยรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เห็นหลายปีก่อน ลูกยางสาววัย 27 ปี ดูผอมลงมาก แขนขา กล้ามเนื้อดูเล็กลง จนหลายคนอดเป็นห่วงสุขภาพไม่ได้
สำหรับ มาลวินา สมาร์เซก ผู้เล่นหมายเลข 17 ได้ตัดสินใจถอนตัวจากทีมชาติไป ช่วงสงครามรัสเซียยูเครนปะทุ เนื่องจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตัวเธอย่างหนักหน่วง ตอนนั้นเธอเล่นให้กับสโมสรโลโคโมทีฟ คาลินินกราด ลีกรัสเซีย โปแลนด์บ้านเกิดอยู่ฝ่ายตรงกับปูติน
หลังจากเกิดเหตุการณ์รุกรานยูเครน หลายนักกีฬาชาวต่างชาติต่างตัดสินใจอำลาสโมสรในรัสเซียเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านสงคราม
มีรายงานว่า เกิดความตึงเครียดระหว่างสมาร์เซกกับสโมสรโลโคโมทีฟ คาลินินกราด เมื่อเธอแสดงความประสงค์ต้องการยกเลิกสัญญากับสโมสรด้วยเหตุผลทางศีลธรรมที่ขัดแย้งกับสงคราม แต่ทางสโมสรกลับปฏิเสธที่จะปล่อยตัวเธอ ส่งผลให้เกิดข้อพิพาททางสัญญา จนสมาร์เซก ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวหนีออกจากรัสเซียกลับบ้านเกิดโปแลนด์
จากนั้นเธอก็ตัดสินใจปฏิเสธทีมชาติ กระทั่งปี 2024 จึงพร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้ง ทัวร์นาเมมนต์แรก VNL 2024 เมื่อแฟนๆ ได้เห็นสมาร์เซกครั้งแรกในรอบหลายปี ก็เลยเป็นห่วงกับรูปลักษณ์ที่ไม่ชินตา
ล่าสุดสื่อต่างประเทศได้รายงานสัมภาษณ์เปิดใจของสมาร์เซก ซึ่งอาจทำให้เรารู้ว่าเธอต้องเผชิญมรสุมอะไรบ้างหลังจากกลับจากรัสเซีย “เจอทั้งคำด่าทอและคำสาปแช่งให้ตายทั้งครอบครัว
มาลวินา สมาร์เซก เล่าประสบการณ์อันเลวร้ายที่เธอต้องเผชิญหลังตัดสินใจย้ายกลับมาเล่นวอลเลย์บอลในบ้านเกิด โดนกระแสต่อต้านและคำด่าทอจากแฟนบอลบางกลุ่มที่ไม่พอใจกับการตัดสินใจของเธอ โดยเฉพาะในช่วงที่เธอเซ็นสัญญากับเดเวลอปเรส
“พวกเขาโห่ไล่ฉัน ตะโกนว่า ‘กลับไปรัสเซียซะ’ มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ฉันรู้สึกเหมือนถูกทับถมด้วยแรงกดดัน” สมาร์เซก กล่าว
เธอยังเผยอีกว่า เธอเคยเผชิญกับคำอวยพรให้ตายทั้งครอบครัว ผ่านโซเชียลมีเดีย
“การอ่านข้อความพวกนั้น มันเป็นอะไรที่ฉันไม่อยากเห็น มันไม่ยุติธรรมเลยที่ครอบครัวของฉันต้องมาเผชิญกับอะไรแบบนี้ เพียงเพราะฉันเป็นนักวอลเลย์บอล” สมาร์เซก กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
อย่างไรก็ตาม สมาร์เซก พยายามมองโลกในแง่ดี เธอเชื่อว่า ยังมีคนดีๆ อยู่ในโลกมากกว่า และเธอจะไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดันเหล่านี้
“ฉันเรียนรู้ที่จะอดทน ฉันรู้ดีว่าคนเหล่านี้มักจะกล้าแสดงออกในโลกออนไลน์เท่านั้น ในชีวิตจริงพวกเขาอาจไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าฉัน” สมาร์เซก กล่าว
“ฉันหวังว่าเรื่องราวของฉันจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ ว่า ทุกคนล้วนมีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง และควรได้รับการเคารพ” สมาร์เซก กล่าวทิ้งท้าย
