ข่าว

อาจารย์เจษฎา ตอบแล้ว ไม่ควรตัด-โกนขนสุนัข สายพันธุ์ขน 2 ชั้น เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

ไขข้องใจ ‘อาจารย์เจษฎา’ ตอบชัด ไม่ควรตัด-โกนขนสุนัข โดยเฉพาะสายพันธุ์ขน 2 ชั้น นอกจากจะไม่ช่วยคลายร้อน ยังเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง

จากกรณีที่เจ้าของสุนัขหลาย ๆ คนสงสัยเกี่ยวกับการโกนขนสัตว์เลี้ยงช่วยคลายร้อนว่าสามารถช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายสุนัขได้จริงหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้บนโซเชียลได้มีการแชร์ภาพถ่ายอุณหภูมิความร้อนของสุนัข พร้อมเตือนว่าการตัดโกนขนให้เป็นทรงคล้ายสิงโต (lion cut shave) ไม่ดีต่อสุนัข เพราะจะทำให้อุณหภูมิที่หลังในบริเวณที่ไม่มีขน อาจพุ่งสูงถึง 30 องศาเซลเซียส แตกต่างกับบริเวณที่ยังมีขนอยู่ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 24 องศาเซลเซียสเท่านั้น ซึ่งจะขัดแย้งกับความเชื่อทั่วไปที่ว่า “ขนหนา ๆ จะทำให้สุนัขร้อน”

ล่าสุด (19 เมษายน 2567) อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์อธิบายคลายสงสัยในประเด็นดังกล่าว ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ระบุว่า หลังตรวจสอบจากผลวิจัยต่าง ๆ พบว่า น่าจะเป็นเรื่องจริง ที่ผิวหนังในส่วนไร้ขนจะมีอุณหภูมิสูงกว่าส่วนที่มีขนปกคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสุนัขกลุ่มที่มีขน 2 ชั้น หรือที่เรียกว่า “double-coated dog breed” เพราะการที่โกนขนจนเหลือแต่ขนสั้น ๆ ทั้ง 2 ชั้นจะส่งผลให้ระบายความร้อนได้แย่ลง

ไม่ควรตัด-โกนขนสุนัข สายพันธุ์ขน 2 ชั้น
ภาพจาก : อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์

“สุนัขสายพันธุ์ที่มีขนแบบ double-coat 2 ชั้น ก็เช่น พันธุ์โกลเด้น (Golden Retriever), พันธุ์ปอม (Pomeranian), พันธุ์ลาบราดอร์ (Labrador Retriever), พันธุ์ปั๊ก (Pug), พันธุ์อากิตะ (Akita) , พันธุ์ฮัสกี้ (Huskie) , พันธุ์อาลาสก้า มาลามุท (Alaskan Malamute) ฯลฯ

ขนของสุนัขแต่ละพันธุ์นั้น มักจะมีคุณสมบัติและหน้าที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ที่มันถูกเพาะเลี้ยงคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์มาตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่น สุนัขพันธุ์เทอเรีย (Terrier) มักจะมีขนเรียบ ที่ช่วยให้พวกมันขุดดินจนเป็นหลุมเล็ก ๆ ได้โดยไม่ทำให้ขนของมันไปพันติดกับรากไม้และก้อนหิน

ขณะที่สุนัขสายพันธุ์ที่อยู่ใกล้น้ำและภูเขา เช่น พันธุ์ลาบราดอร์ (Labrador) และพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard) จะมีขนหนา ที่กันน้ำ หิมะ และน้ำแข็งได้ เพื่อให้ไม่เปียก

บางครั้งผู้ที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ที่มีขนแบบ double-coat เห็นว่าสุนัขของตนเกิดการผลัดขน มีขนร่วงเป็นจำนวนมาก จึงอาจจะคิดว่า ถ้าไปช่วยโกนขนให้มันก็น่าจะทำให้การผลัดขนเกิดขึ้นได้ดีขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว การโกนขนสุนัขที่เป็นพวก double-coat นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

เพราะการโกนขนเป็นการตัดเอาขนชั้นนอกทิ้งไป ซึ่งเป็นชั้นที่ช่วยป้องกันสุนัขจากแสงแดด การโกนขนจึงกลับการเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่สุนัขจะร้อนจนเกินไป เกิดอาการผิวไหม้แดด หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การเป็นมะเร็งผิวหนังได้

ไม่ควรตัด-โกนขนสุนัข

ขนชั้นนอกที่มีเส้นยาว ๆ และปกคลุมร่างกายอย่างหลวม ๆ นั้น ยังทำให้ลมเย็นไหลผ่านผิวหนังและช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่าการที่โกนขนจนเหลือแต่ขนเกรียน ๆ สั้น ๆ ของทั้ง 2 ชั้น ซึ่งกลับทำให้ระบายความร้อนได้แย่ลง

สุนัขสายพันธุ์ที่มีขนชั้นเดียว (single-coat) นั้น เราสามารถจะโกนขนมันซ้ำ ๆ ได้ เนื่องจากการโกนขนไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลง “เนื้อสัมผัส (texture)” ของขนโดยรวมของพวกมัน ขนของมันก็ยังคงกลับมางอกยาวขึ้นเรื่อย ๆ ได้ ในขณะที่ขนของสุนัข สายพันธุ์ที่เป็นขนแบบ double-coat จะงอกขึ้นมาถึงแค่ความยาวระดับหนึ่ง และก็จะหยุดงอกต่อ

ส่วนเนื้อสัมผัสของขนของสุนัขพวก double-coat นั้น กลับเปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่โดนโกนขน โดยขนชั้นนอกที่เป็นขนปกคลุมป้องกัน (guard hair) เมื่อเคยถูกโกนแล้ว จะเปลี่ยนเป็นขนที่หยาบขึ้น และทำให้พวกดอกหญ้า / กิ่งไม้เล็ก ๆ ติดตามขนได้ง่าย

ยิ่งกว่านั้น ถ้าสุนัขมีอายุมากหรือไม่สุขภาพไม่ดี ขนของมันก็อาจจะไม่งอกกลับมาเหมือนเดิมหลังจากโกน การโกนขนยังทำให้สุนัขมีผิวหนังบริเวณเส้นขนพันกัน และมีอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย ยิ่งถ้าเอาสุนัขไปอาบน้ำ ก็จะยิ่งมีปัญหาเส้นขนพันกันแน่นขึ้นอีก และทำให้สุนัขไม่สบายตัวมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น ถ้าคิดว่าจะโกนขนสุนัขของคุณก็ควรที่จะต้องปรึกษาช่างตัดขนสุนัขมืออาชีพ (หรือสัตวแพทย์) เสียก่อน เพราะช่างมืออาชีพจะมีประสบการณ์มาพอ ที่จะทราบว่าควรจะให้บริการสุนัขของคุณ ด้วยวิธีไหนถึงจะดีที่สุด”

เช่นนั้นแล้ว การจะช่วยระบายความร้อนให้กับสุนัขสายพันธุ์ขน 2 ชั้นได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดก็คือ การปล่อยไปตามธรรมชาติ หรือหากต้องการโกนขนก็ควรจะใช้ปรึกษาช่างตัดขนมืออาชีพ เพราะการโดกนขนไม่เพียงแต่จะทำให้การระบายความร้อนแย่ลงแล้ว ยังอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งในสุนัขอีกด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button