ข่าวการเมือง

สรุปสาระสำคัญ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ฉบับ สว.โหวตผ่าน

เปิดข้อกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับที่ผ่านในประเทศไทย หลัง สว.มีมติเห็นชอบ บังคับใช้หลังประกาศราชกิจจานุเบกษา 120 วัน สิ้นสุดการต่อสู้เรียกร้องเพื่อสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมปูทางสู่สังคมที่หลากหลาย

จากเส้นทาง 23 ปี สู่ ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านวาระ 3 ด้วยมติ เอกฉันท์ 400 เสียง ในวันพุธที่ 27 มีนาคม 2567 พร้อมเตรียมส่งให้วุฒิสภาฯ แล้วจึงจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตัดสิ้นชี้ขาดในขั้นต่อไป ส่งผลให้ในตอนนี้ ประเทศไทย กลายเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นประเทศแห่งที่ 3 ในทวีปเอเชีย ที่ผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมต่อจาก ไต้หวัน และเนปาล

Advertisements

กระทั่งเมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 14:51 ที่ประชุมวุฒิสภา ได้ลงมติเห็นชอบใน พรบ.สมรสเท่าเทียม โดยจากผู้ร่วมลงมติจำนวน 152 คน มีผู้เห็นชอบ 130 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง งดออกเสียง 18 เสียง ซึ่งจากมีการบังคับใช้

สรุปร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม สว.โหวตผ่าน

เปรียบเทียบร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ฉบับที่ผ่านวาระ 3 ชั้นกรรมาธิการ ด้วยมติเอกฉันท์ 400 เสียง จะมีรายละเอียดแตกต่างจาก กฎหมายสมรสปัจจุบัน กฎหมายสมรสเท่าเทียม ฉบับร่าง ครม. และฉบับที่ สว.โหวตผ่านแล้วอย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน

กฎหมายสมรสปัจจุบัน ฉบับ สว.โหวตผ่าน

1. สถานะทางกฎหมาย : “คู่สมรส” คือมีสิทธิ และหน้าที่ตามกฎหมาย

2. ให้อายุการสมรสเป็น 18 ปี จากเดิม 17 ปี

Advertisements

3. คำว่า “ชาย” และ “หญิง” ถูกแทนที่ด้วย “บุคคล”

4. กำหนดให้การสมรสหรือแต่งงานครอบคลุมบุคคลทุกเพศ ไม่จำกัดแค่เพศชายและเพศหญิง

5. การรับบุตรบุญธรรม

กฎหมายสมรสเท่าเทียม ฉบับผ่านชั้นกรรมาธิการ

1. การหมั้น : ผู้หมั้น และผู้รับหมั้น

2. เพศ : บุคคลทั้งสองฝ่าย

3. อายุผู้ที่ทำการสมรส : อายุ 18 ปี

4. สถานะหลังจดทะเบียนสมรส : 120 วัน นับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

5. การบัญญัติคำว่า บุพการีลำดับแรก : ในกฎหมายให้มี สิทธิ และหน้าที่เทียบเท่าบิดามารดา

6. ระยะเวลาบังคับใช้ : –

7. แก้ กม.แพ่งฯ บิดามารดากับบุตร : –

8. บัญญัติให้สิทธิตามกฎหมายอื่น : บัญญัติไว้ (มาตรา 66/1)

9. บัญญัติให้หน่วยงานอื่นแก้ กม. : ภายใน 180 วัน

กฎหมายสมรส ร่าง ครม.

1. การหมั้น : ผู้หมั้น และผู้รับหมั้น

2. เพศ : บุคคลทั้งสองฝ่าย

3. อายุผู้ที่ทำการสมรส : อายุ 17 ปี

4. สถานะหลังจดทะเบียนสมรส : 120 วัน นับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

5. ระยะเวลาบังคับใช้ : –

6. แก้ กม.แพ่งฯ บิดามารดากับบุตร : –

7. บัญญัติให้สิทธิตามกฎหมายอื่น : –

8. บัญญัติให้หน่วยงานอื่นแก้ กม. : ภายใน 180 วัน

กฎหมายสมรสปัจจุบัน

1. การหมั้น : ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง

2. เพศ : ชาย-หญิง

3. อายุผู้ที่ทำการสมรส : อายุ 17 ปี

4. สถานะหลังจดทะเบียนสมรส : สามีภริยา / คู่สมรส

5. ระยะเวลาบังคับใช้ : –

6. แก้ กม.แพ่งฯ บิดามารดากับบุตร : –

7. บัญญัติให้สิทธิตามกฎหมายอื่น : –

8. บัญญัติให้หน่วยงานอื่นแก้ กม. : –

ทั้งนี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. …. หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม วาระที่ 2-3 หลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายครบแล้ว 68 มาตรา ด้วยคะแนนเสียง 400 ต่อ 10 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง

กฎหมายสมรสเท่าเทียมไทย ฉบับที่ผ่าน เปรียบเทียบกับฉบับ ครม

สมรสเท่าเทียม กฎหมายแก้ปัญหาการแต่งงานคนเพศเดียวกัน

สมรสเท่าเทียมเป็นร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สมรสเท่าเทียม หรือ ร่างแก้ ป.พ.พ. ที่ยืนอยู่บนแนวคิดการเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะเรื่องการสมรสของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQIA+ ในสังคมไทย

เดิมมีหลักการคือให้บุคคลสองคนที่เป็นเพศเดียวกัน สามารถสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยร่างกฎหมายฉบับที่นำเข้าวาระการประชุมนี้ นำเสนอโดยพรรคก้าวไกล โดยมีรายละเอียดสรุปเข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

– สามารถหมั้นและสมรสกันได้ทุกเพศ สถานะทางกฎหมายของบุคคลทั้งสองฝ่ายที่สมรสกัน จะถูกเรียกว่า คู่สมรส

– อนุญาตให้หมั้นได้ โดยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์

– สามารถจดทะเบียนสมรสได้ โดยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หากมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่

– สามารถจดทะเบียนกับชาวต่างชาติได้

– การมอบของหมั้น ฝ่ายผู้หมั้นจะมอบให้แก่ผู้รับหมั้น หรือทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนของหมั้นกันได้

– การมอบสินสอด ฝ่ายผู้หมั้นมอบให้แก่บิดามารดาของผู้รับหมั้น หรือสามารถมอบให้แก่บิดามารดาของทั้งสองฝ่ายได้

– สามารถใช้นามสกุลร่วมกันได้

– สามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้

– สามารถรับมรดกของคู่สมรสอีกฝ่ายได้

– สามารถจัดการทรัพย์สินร่วมกัน

– การเข้าถึงสิทธิตามกฎหมายของคู่สมรส จะได้กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ เช่น สิทธิในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล, การรับประโยชน์ทดแทนจากประกันสังคม

– สามารถอุ้มบุญได้

– สามารถเซ็นอนุญาตรักษาพยาบาลอีกฝ่ายได้

– สามารถจัดการศพของอีกฝ่ายได้

ขั้นตอนสู่การประกาศใช้กฎหมาย พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม

1. สภาผู้แทนราษฎรลงมติรับร่างหลักการ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม

2. จากนั้นจะมีการแต่งตั้งกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม

3. ลำดับต่อไป สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติเห็นชอบ หากผลโหวตออกมาว่าไม่เห็นชอบ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะตกไป

4. หากสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม จะถูกส่งต่อให้สมาชิกวุฒิสภาลงมติเห็นชอบ

5. จากนั้นจะมีการแต่งตั้งกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม

6. สมาชิกวุฒิสภาจะลงมติ หากเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม จะถูกส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ

*กรณีสมาชิกวุฒิสภาลงมติไม่เห็นชอบ จะมีการส่งคืนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยับยั้งไว้ 180 วัน หากเห็นชอบอีกครั้งร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ก็จะถูกนำส่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากไม่ชอบก็จะตกไป

7. หากร่างกฎหมาย พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ไม่ขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญ จะมีการส่งให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธย

8. ลำดับสุดท้ายคือออกประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา บังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายสมรสเท่าเทียมไทย ฉบับที่ผ่าน

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button