การเงินเศรษฐกิจ

เกณฑ์เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เช็กกลุ่มที่โดนตัดสิทธิ์ หลังแจ้งวันใช้เงินรอบใหม่

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าล่าสุด โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยืนยัน รัฐบาลแจกให้แน่นอน ช่วงปลายปี 2567 พร้อมรายละเอียดกลุ่มที่โดนตัดสิทธิ์รับเงินในโครงการ

ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต หรือ เงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยจะดำเนินการ เติมเงินให้แก่ประชาชนคนไทยช่วงปลายปี ประมาณเดือนตุลาคม-ธันวาคม พ.ศ. 2567 โดยยืนยันว่า คนมีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน หรือเงินฝากมากกว่า 5 แสนบาท คือกลุ่มที่จะโดนตัดสิทธิ์รับเงินในโครงการแจกเงิน

อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายที่ตนเองเป็นประธาน จะสรุปเพื่อนำส่งคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ในในวันที่ 10 เมษายน 2567 พร้อมเคาะข้อสรุปรายละเอียดเงื่อนไขเกี่ยวกับ เงินดิจิทัลวอลเล็ตให้มากขึ้น

เกณฑ์เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ต้องมีรายได้ไม่เกิน 70000 บาท

ไทม์ไลน์แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบกำหนดการ แจกเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาท ตามที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ได้แถลงความคืบหน้าเอาไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

27 มีนาคม 2567 ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล

29 มีนาคม 2567 ปิดรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ภาควิชาการ ภาคประชาชน กลุ่มหอการค้า กลุ่มสภาอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อนำมาสรุปและประกอบการพิจารณา

10 เมษายน 2567 ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ เพื่อสรุปรายละเอียดโครงการทั้งหมด ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ

เดือนกรกฎาคม.-กันยายน 2567 เปิดลงทะเบียนร้านค้าและประชาชนเพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2567) เติมเงิน 10,000 บาทให้กับประชาชน ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตครั้งแรก

เงื่อนไข “เงินดิจิทัล 10000”

1. รัฐบาลจะมอบสิทธิการใช้จ่าย 1 หมื่นบาท ให้กับคนไทยที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท

2. สำหรับผู้ที่มีรายได้เกิน 70,000 บาท แต่เงินฝากน้อยกว่า 5 แสน และผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 70,000 บาท แต่มีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท ก็จะไม่ได้รับสิทธิเงินดิจิทัลในครั้งนี้ แต่จะได้ใช้สิทธิโครงการ E-refund แทน, คนที่มีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน หรือเงินฝากมากกว่า 5 แสนบาท จะไม่ได้รับสิทธิ์

3. สามารถซื้อของหรือ ใช้ภายในอำเภอตามที่อยู่บนบัตรประชาชน

4. เงินต้องใช้ครั้งแรกภายใน 6 เดือน

5. ใช้สำหรับซื้อของอุปโภคบริโภคเท่านั้น ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นหรือแลกเป็นเงินสดได้

6. ไม่สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ และ ไม่สามารถซื้อสินค้าอบายมุข เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่

7. ไม่สามารถซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด เพชร พลอย ทองคำ อัญมณี

8. ไม่สามารถนำเงินดิจิทัลไปชำระหนี้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน และไม่สามารถใช้เงินดิจิทัล จ่ายค่าเทอมได้

สรุปแล้วว่า เมื่อได้เงินมาแล้วช่วงปลายปี 2567 จะต้องใช้เงินครั้งแรกภายใน 6 เดือน ไม่เช่นนั้นเงินจะถูกดึงกลับเข้าระบบ เมื่อใช้จ่ายแล้วจะต้องใช้ให้หมดภายใน เดือนเมษายน 2570

อ่านข่าวการเงินที่เกี่ยวข้อง

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button