20 มี.ค. 67 “วันวสันตวิษุวัต” ปรากฏการณ์ เวลากลางวันยาวเท่ากลางคืน
ชวนรู้จัก “วันวสันตวิษุวัต” ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 มีนาคม 2567 ปรากฏการณ์เวลากลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน
ใกล้เข้ามาทุกที สำหรับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ กลางวันยาวเท่ากลางคืน หรือ “วันวสันตวิษุวัต” ที่จะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 ซึ่งนับเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรกของปีนี้ และล่าสุด (18 มีนาคม 2567) NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์ให้ความรู้ถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี อันนับเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงของประเทศในซีกโลกใต้
“วันวสันตวิษุวัต (วะ-สัน-ตะ-วิ-สุ-วัด) หรือชื่อภาษาอังกฤษ Vernal Equinox เป็นการที่ช่วงเวลากลางวันยาวเท่ากับกลางคืน คำว่า “Equinox” มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน 2 คำ คือ Aequus แปลว่า เท่ากัน และ Nox แปลว่า กลางคืน ดังนั้น Equinox หมายถึงวันที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน
ตรงกับคำว่า “วิษุวัต” แปลว่า “จุดราตรีเสมอภาค” จุดที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลกพอดี ซึ่งวันที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันนี้ จะเกิดขึ้นเพียง 2 ครั้งต่อปี คือในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ เรียกว่า วันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) และในช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่า วันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox)
ในแต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฏในตำแหน่งต่างกัน เปลี่ยนตำแหน่งไปประมาณวันละ 1 องศา ตั้งแต่เดือนธันวาคม ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนจากจุดใต้สุดขึ้นมาทางเหนือเรื่อย ๆ จนถึงตำแหน่งที่ตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลก ในวันที่ 20 มีนาคม 2567 ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกและจะตกทางทิศตะวันตกพอดี
สำหรับประเทศไทย วันดังกล่าวดวงอาทิตย์ขึ้นเวลาประมาณ 06:22 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18:28 น. (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) นับเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงของประเทศในซีกโลกใต้
การที่แกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณไม่เท่ากัน ส่งผลให้มีอุณหภูมิต่างกัน รวมถึงระยะเวลากลางวันและกลางคืนก็ต่างกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ ขึ้นบนโลก
ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตก ของดวงอาทิตย์ ในครั้งถัดไปตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน 2567 เป็นวันครีษมายัน (ครีด-สะ-มา-ยัน) (Summer Solstice) ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนของประเทศทางซีกโลกเหนือ และเริ่มต้นฤดูหนาวของประเทศในซีกโลกใต้”
อย่างไรก็ดี นอกจากปรากฏการณ์การขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ในครั้งถัดไปที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน หรือที่เรียกว่าวันครีษมายันแล้ว ในช่วงเดือนกันยายน ปรากฏการณ์ก็จะเกิดขึ้นในอีกครั้งโดยจะเรียกว่าวันศารทวิษุวัต และครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคมในชื่อว่าวันเหมายัน
ข้อมูลจาก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง