Line Newsไลฟ์สไตล์

Google Doodle เฉลิมฉลอง วัน “กาแฟแฟลตไวท์” ไขความต่างกับ “ลาเต้” ยังไง

วันนี้ 11 มีนาคม 2567 Google Doodle เฉลิมฉลอง วันเครื่องดื่ม กาแฟแฟลตไวท์ “Flat White” ด้วยภาพการ์ตูนกราฟิกเคลื่อนไหวแสนน่ารัก บนช่องค้นหา กูเกิล เสิร์ช พร้อมเปิดที่มาเกร็ดความรู้ วันสำคัญของเมนูยอดฮิต ขวัญใจคอกาแฟทั่วโลก มีความน่าสนใจอะไรบ้าง

ต้อนรับเช้าวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 อันสดใส ด้วยกาแฟร้อน ๆ จาก กูเกิล ดูเดิล (Google Doodle) เนื่องในวันยกย่องเครื่องดื่มเมนูสุดพิเศษอย่าง แฟลตไวท์ (Flat White) กาแฟช็อตที่มีความเข้มข้นมากกว่าเอสเพรสโซ่ แต่เพิ่มความละมุนด้วยนมร้อนสีครีม จนกลายเป็นหนึ่งในเมนูกาแฟติดเทรนด์ฮิตบรรดา คาเฟอีนเลิฟเวอร์

ทั้งนี้ เมื่อเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ www.google.com จะปรากฏภาพ กูเกิล ดูเดิล บริเวณด้านบนช่องการค้นหา เป็นรูปกราฟิกแก้วกาแฟเปล่า จากนั้น ก็จะมีเครื่องใส่ช็อตกาแฟมุมล่างซ้าย ค่อย ๆ มีภาพสีน้ำตาลของผงเมล็ดกาแฟ และถ้วยสตรีมนมข้างบนด้านขวา หมุนขยับ พร้อมกับเทเครื่องดื่มกาแฟ ลงในรูปแก้วใบใหญ่ตรงกลาง

จากนั้นท้ายที่สุด จึงเผยให้เห็นใบหน้าของตัวการ์ตูน น้องแฟลตไวท์ ยิ้มตอบรับเราด้วยความน่ารักสดใส เรียกว่ามีวันสำคัญเป็นของตัวเองได้ขนาดนี้ บอกเลยว่าประวัติความเป็นมาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เข้ามาอ่านในนี้กันได้เลยครับ

Google doodle วันแฟลตไวท์ 2567

เปิดที่มา แฟลตไวท์ ต่างกับ ลาเต้ อย่างไร

สำหรับเรื่องราวน่าสนใจของกาแฟ แฟลตไวท์ หรือที่คนไทยมักรู้จักในชื่ออีกเมนูที่มีลักษณะคล้ายกันคือ แฟลตไวท์ ลาเต้ เป็นเครื่องดื่มกาแฟความนิยมอันดับต้น ๆ ของโลก ที่มีต้นกำเนิดมาจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รสชาติสัมผัสจะอยู่ตรงกลางระหว่างเอสเพรสโซ่เข้มข้นกับลาเต้ที่มีความครีมของนมเยอะ ผสมผสานเข้ากันกลายเป็นกาแฟเมนูใหม่สูตรพิเศษชนิดนี้

ในส่วนของเบสเป็นเอสเพรสโซ่ กาแฟแฟลตไวท์ จะใช้เอสเพรสโซ่เพียงช็อตเดียว หรือสองช็อตเป็นรสชาติหลัก เพื่อทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้ม จากนั้นจึงใส่นมร้อน ซึ่งปกติจะใช้นม 2 ส่วนต่อเอสเพรสโซ่ 1 ส่วน สิ่งนี้สร้างเนื้อสัมชาติเนียนนุ่มโดยไม่กลบรสชาติกาแฟ

Google doodle วันแฟลตไวท์

หัวใจสำคัญของ Flat White ที่สมบูรณ์แบบอยู่ที่เนื้อสัมผัสของนม ต่างจากกาแฟลาเต้ที่มีฟองนมหนากว่า เสน่ห์ของ กาแฟนมร้อน แฟลตไวท์ มาจากความสมดุลที่ลงตัว ส่งผลให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นกว่าลาเต้ แต่ยังคงมีความเนียนนุ่ม ดื่มง่ายกว่าเอสเพรสโซ่เพียวๆ นี่คือสิ่งที่คอกาแฟชื่นชอบ

แม้ว่า แฟลตไวท์ กับ ลาเต้ จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็สามารถจำแนกได้จากความแตกต่างเรื่องการใช้นมร้อน คือ กาแฟแฟลตไวท์ จะใช้เอสเพรสโซ่ 1 ช็อต + นมร้อน ส่วน คาเฟ่ลาเต้ คือ เอสเพรสโซ่ 1 ช็อต + นมร้อน + โฟมนม นั่นเอง

วันนี้ Google doodle flat white ประวัติ

สรุปความต่างระหว่างกาแฟสองชนิดนี้

ขนาด: แก้วลาเต้มักจะใหญ่กว่า ประมาณแก้วลาเต้ร้อนไซส์ปกติ ทั้งนมและกาแฟเลยเยอะตามไปด้วย ส่วนแฟลตไวท์จะมาในแก้วที่เล็กกว่าหน่อย (ประมาณแก้วคาปูชิโน่) เน้นรสชาติกาแฟเข้มข้นเต็มๆ มากกว่า

ฟองนมนุ่มนวล: ทั้งสองอย่างมีนมที่ผ่านการสตรีมจนร้อน แต่ลาเต้จะมีฟองนมหนานุ่มอยู่ด้านบน เหมือนปุยเมฆเล็กๆ ส่วนแฟลตไวท์จะมีฟองนมแบบบางๆ เรียกว่าไมโครโฟม เน้นให้เนื้อสัมผัสกาแฟนุ่มลื่นกำลังดี ไม่ฟูจนเกินไป

เข้มแค่ไหน: เอสเปรสโซ่คือพระเอกของทั้งสองสูตร โดยลาเต้ส่วนใหญ่จะใส่แค่หนึ่งช็อต ในขณะที่แฟลตไวท์มักจะใส่สองช็อตเข้าไปเลย ใครชอบกาแฟเข้มถึงใจ ต้องแฟลตไวท์เท่านั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button