ข่าว

ทนายเดชา ฝากถึงตร. เวลาผู้หญิงแจ้งความถูกทำร้าย อย่าบอกเรื่องผัวเมียไปเคลียร์กันเอง

เดชา ฝากถึงตำรวจ ถอดบทเรียนคดีน้องนุ่น ถูกผัวซ้อมจนเสียชีวิต เวลาผู้หญิงไปแจ้งความถูกทำร้ายร่างกาย อย่าปัดพ้นตัว บอกเป็นเรื่องผัวเมียไปเคลียร์ ไปตกลงกันเอง เพราะรู้อีกทีอาจเป็นศพไปแล้ว

วันที่ 21 ก.พ. 67 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ นักกฎหมาย อายุ 60 ปี กล่าวผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ทนายคลายทุกข์” เกี่ยวกับกรณีสะเทือนขวัญ น้องนุ่น ชลลดา หญิงสาววัย 27 ปี ถูกนายทอย ศิริชัย สามีของตัวเองซ้อมทำร้ายร่ากายจนเสียชีวิตต่อหน้าลูกสาววัยเพียง 1 ปี กับ 7 เดือน ก่อนพยายามเผาอำพรางศพทิ้งกลางป่าสวนยางที่ จ. ปราจีนบุรี

ทนายเดชา กล่าวว่า คดีแบบนี้เป็นความรุ่นแรงในครอบครัว ลักษณะการฆ่าคนตายแบนี้ ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ ต่อหน้าลูกตัวเองก็จขอให้รับเวรรับกรรม ขอแสดงความเสียใจต่อน้องน่น ใครที่มีสามี คำรับสารภาพไม่น่าเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดี น่าจะเจอโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตเพราะฆ่าคนตายโหดร้ายทารุณ ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้

นอกจากนี้ ยังกล่าวขอบคุณนักข่าวจากรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ทีวี ที่ช่วยไขคดีจนไปเจอศพปริศนาที่ จ.ปราจีนบุรี ก่อนทราบต่อมาว่า คือ โครงกระดูกของน้องนุ่น ซึ่งทนายเดชายอมรับตามตรงว่า นักข่าวเก่ง เก่งกว่าตำรวจอีก ทำงานได้เร็ว

นายเดชา ยังกล่าวต่อว่า คดีนี้ตนเองสงสารเด็ก เพราะตอนนี้ไม่มีผู้ปกครองแล้วเด็กจะอยู่ยาก หลังจากพ่อติดคุก แม่ตาย ยายของเด็กต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนเพื่อตั้งผู้ปกครอง แนะนำยายต้องไปจ้างทนายเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ และให้ยายเป็นผู้ปกครองของเด็ก เพราะถ้าไม่มีผู้ปกครอง เด็กจะเข้าเรียนลำบาก เพราะเด็กยังเป็นผู้เยาว์

ขณะเดียวกัน ก็ยังแนะนำไปถึงใครที่สามี มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมเช่นนี้ขอให้เลิกลาไปเสียหรือแยกกันอยู่ไว้จะดีกว่า เพราะกฎหมายครอบครัวถ้าสามีเป็นคนใจร้าย สามารถแยกบ้านอยู่ได้ ด้วยการไปยื่นคำร้องต่อศาล ห้ามสามีเข้ามาอยู่ใกล้ ใครมีปัญหาให้โทรมาหาตน ถ้าผัวชอบทำร้ายร่างกาย และฝากตำรวจช่วยดำเนินการด้วย ไม่ใช่มองแค่ว่าเป็นเรื่องผัวเมีย เพราะอีกทีอาจกลายเป็นศพแล้ว.

 

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button