ข่าว

คาใจ ตำรวจขายไอโฟนได้ 1.8 แสน แต่ได้เงินกลับมา 1.2 แสน หลังเด็กขโมยเงินซื้อไอโฟน

ครอบครัวคาใจ ตำรวจขายไอโฟนได้ 1.8 แสน แต่ได้เงินกลับมา 1.2 แสน จากกรณีที่เด็กขโมยเงิน 7 แสนซื้อไอโฟนแจกเพื่อน 11 เครื่อง

จากกรณีเด็กหญิง ม.2 ขโมยเงินคุณครู ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ที่กู้จากสหกรณ์มา 7 แสนบาท เพื่อเอาไปซื้อไอโฟนแจกเพื่อน 11 เครื่อง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามโทรศัพท์กลับมาได้ แล้วเอาไปขายนำเงินมาคืนคุณครู จำนวน 1.2 แสนบาท

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพบกับแม่ของคุณครูที่ถูกขโมยเงิน โดยได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่เด็กหญิงเดินเข้ามาข้างบ้าน แล้วไปลักเงินโดยได้เปิดตู้หน้าห้อง แต่ไม่พบของมีค่า หลังจากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้อนนอน และเปิดโต๊ะพบเงินสด 7 แสนบาท ที่ห่อผ้าและใส่กระเป๋าสะพายซุกอยู่ในตู้ จึงหยิบเงินดังกล่าวไป

หลังจากนั้นตนได้รับแจ้งว่า โทรศัพท์ไอโฟน 11 เครื่อง ตำรวจนำไปขายได้เงินมา 183,000 บาท แต่เงินที่ตำรวจคืนให้กับลูกสาวตน คือ 124,200 บาท ซึ่งเป็นยอดเงินภายหลังจากที่ทนายความหักเงินไปแล้ว 10 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 13,800 บาท ซึ่งตนพร้อมสามี และลูกคาแคลงใจเรื่องจำนวนเงินที่ได้คืนจากตำรวจมาก

ทั้งนี้ภายหลังได้ข้อมูลจาก ฝ่ายสืบสวน สภ.ห้วยคต จึงนำตัวเด็กหญิง 14 ปีผู้ก่อเหตุ มาเข้าสู่กระบวนการซักถาม ตามกระบวนการที่มีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพร่วมด้วย กระทั่งเด็กยอมรับว่าเข้าไปลักเงิน 7 แสนบาท ที่บ้านหลังดังกล่าวไปจริง โดยนำเงินไปให้แฟนหนุ่ม อย่างไรก็ตามแฟนหนุ่มของเด็กหญิงรายนี้ ปฏิเสธว่า ได้เงินมาแค่ 3 แสนบาท ส่วนอีก 3 แสนบาทแบ่งให้อีกคนไป

หลังจากนั้นกลุ่มเด็กได้พากันไปเที่ยวที่โลตัส อ.หนองฉาง ไปซื้อโทรศัพท์ไอโฟนรวม 11 เครื่อง ตำรวจจึงไปอายัดไอโฟนได้คืนมาทั้งหมด 11 เครื่อง พร้อมให้เจ้าของร้านมารับซื้อคืน เพื่อนำเงินส่งคืนเจ้าของ โดยได้เงินมาคืนให้ครูที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว 1.2 แสนบาท ส่วนทีเหลือเงินอีก 5.8 แสนบาท อยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ยกับผู้ปกครองของเด็ก

ครูสาวช็อก นักเรียนข้างบ้าน แอบขโมยเงิน 7 แสน ซื้อไอโฟนแจกเพื่อน

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button