ส่องความรวย ‘แอน จักรพงษ์’ ธุรกิจพันล้าน เจ้าของมิสยูนิเวิร์สคนปัจจุบัน
เปิดรายได้ ธุรกิจพันล้านที่มาความรวยของ “แอน จักรพงษ์” เจ้าของมิสยูนิเวิร์ส (MUT) คนใหม่ ขึ้นแท่นสตรีข้ามเพศที่รวยที่สุดแห่งเอเชีย กับอาณาจักร JKN
เรียกว่าสวยและรวยมากจริง ๆ กับ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” เจ้าของธุรกิจเครือ “JKN GLOBAL MEDIA” มูลค่าธุรกิจหลายพันล้านบาท จากการนำเข้า หนัง ละคร ลิขสิทธิ์เข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย ล่าสุดไม่หยุดความปัง ซื้อลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ เวทีมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe)ไปครอบครอง สานฝันแฟนนางงามไทย ขึ้นแท่นนักธุรกิจสาวข้ามเพศที่รวยอันดับต้น ๆ ในเอเชียจวบจนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แอน จักรพงษ์ ได้ปรากฏตัวเป็นที่สนใจบนสื่อมวลชนอีกครั้งกรณี แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ พร้อมทำหนังสือถึง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่าไม่สามารถจ่ายหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ 609 ล้านได้ตามกำหนด และทำให้หุ้น JKN ตกต่ำลง ในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566 นั่นเอง
ทั้งนี้ทีมงาน เดอะ ไทยเกอร์ จะขอพาย้อนรอยประวัติธุรกิจของ แอน จักรพงษ์ สตรีข้ามเพศที่รวยเป็นอันดับ 3 ของโลก และอันดับ 1 ในเอเชีย (จัดอันดับโดย “นิตยสารฟอร์บส์” ของสหรัฐอเมริกา) ว่ามีทรัพย์สินอะไร จำนวนเท่าไหร่ในครอบครองบ้าง
เปิดรายได้ธุรกิจ “แอน จักรพงษ์” สตรีข้ามเพศ ร้วยอันดับ 3 ของโลก
ตอบข้อสงสัย แอน จักรพงษ์ ทำไมรวยเป็นมหาเศรษฐี ทั้งนี้สาวแอน จักรพงษ์ เป็นเจ้าของธุรกิจ JKN มีมูลค่าทรัพย์สิน 210 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 6.3 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 170 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 5.1 พันล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากความสำเร็จของธุรกิจหลักทั้ง 3 ประเภท ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ JKN กรุ๊ป เป็นบริษัทสื่อและบันเทิงชั้นนำของไทย ที่มีธุรกิจครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่
- นำเข้าและส่งออกลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากทั่วโลก
- เป็นเจ้าของช่องทีวีดิจิทัล JKN18 และ JKN CNBC
- เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล (Miss Universe)
สำหรับธุรกิจนำเข้าและส่งออกลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากทั่วโลกนั้น JKN ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยในปี 2565 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจนี้กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 800 ล้านบาท โดยความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีคอนเทนต์ที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตคอนเทนต์ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ JKN ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาส 2/2566 ก็พบว่ามีกำไรทุกปี
- ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท
- ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท
- ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท
- ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 608 ล้านบาท
- ไตรมาส 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท
นอกจากนี้ JKN กรุ๊ป และบริษัทรายย่อย ยังดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ มุ่งเน้นการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้ 1. ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในประเทศไทย 2. ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ 3. ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้า 4. ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 5.ธุรกิจการบริหารจัดการลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล (MU 2023)
- ปี 2562 มีรายได้รวม 1,170 ล้านบาท
- ปี 2563 มีรายได้รวม 1,682 ล้านบาท
- ปี 2564 มีรายได้รวม 1,805 ล้านบาท
- ปี 2565 มีรายได้รวม 2,670 ล้านบาท
- ไตรมาส 2 ปี 2566 มีรายได้รวม 1,500 ล้านบาท
JKN ยังคงมีมูลค่ากิจการ หรือมาร์เก็ตแคปของหุ้น JKN ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย อยู่ในระดับ 2-5 พันล้านบาท โดยตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาส 2/2566 ดังนี้
- ปี 2562 มีมาร์เก็ตแคป 2,889 ล้านบาท
- ปี 2563 มีมาร์เก็ตแคป 4,677 ล้านบาท
- ปี 2564 มีมาร์เก็ตแคป 4,920 ล้านบาท
- ปี 2565 มีมาร์เก็ตแคป 2,960 ล้านบาท
- ไตรมาส 2 ปี 2566 มีมาร์เก็ตแคป 1,753 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 มีการเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สิน พบว่า มีสินทรัพย์รวมกว่า 12,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,433 ล้านบาท หรือ 13.36% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) โดยทรัพย์สินหลักของบริษัทประกอบด้วย
- เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 112.50 ล้านบาท ลดลง 67.63%
- ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 2,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.40%
- ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 451 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.12%
- ลิขสิทธิ์รายการ 6,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.60%
- เครื่องหมายการค้า 1,334 ล้านบาท ลดลง 0.10%
สำหรับสินทรัพย์ที่มีการเติบโตสูงสุดคือลิขสิทธิ์รายการ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5,113 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 6,371 ล้านบาทในปี 2566 คิดเป็นการเติบโตถึง 25.60% โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากความสำเร็จของธุรกิจนำเข้าและส่งออกลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากทั่วโลก ซึ่งบริษัทมีคอนเทนต์ที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตคอนเทนต์ทั่วโลก
ส่วนสินทรัพย์ที่มีการเติบโตลดลงคือเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ซึ่งลดลงจาก 347.50 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 112.50 ล้านบาทในปี 2566 คิดเป็นลดลง 67.63% โดยลดลงจากการใช้เงินลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และชำระหนี้สิน
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เหลือของ JKN อยู่ที่ 112.50 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้ากว่า 67.63% โดย JKN รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุนจำนวน 1,589.18 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์รายการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ JKN ในการขยายธุรกิจคอนเทนต์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การใช้เงินสดในกิจกรรมลงทุนที่สูงมากเมื่อเทียบกับกำไรที่ได้ในแต่ละปี อาจทำให้ JKN ประสบปัญหาทางการเงินในอนาคตได้
- ปี 2562 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน 974 ล้านบาท
- ปี 2563 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน 2,020 ล้านบาท
- ปี 2564 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน 2,259 ล้านบาท
- ปี 2565 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน 2,847 ล้านบาท
ประวัติ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าทางสถานีโทรทัศน์ของทางกลุ่มบริษัท จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เนื้อหารายการประเภทซีรีส์ การ์ตูน สารคดี จากหลากหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ อินเดีย จีน ฟิลิปปินส์ และสหรัฐ
JKN เริ่มแรกมี แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ นั่งแท่นผู้บริหาร ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้นเพียง 1,000,000 บาท เริ่มแรกบริษัทดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ อาทิ ดีวีดีชุดเสื้อยิ้มให้พ่อ, น้ำดื่มตราภัทรพัฒน์ เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าภายใต้สิทธิ์ของ “บริษัท เจเคเอ็น แลนด์มาร์ค จำกัด”
ปัจจุบัน เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ยังคงมีผู้ถือหุ้นใหญ่สุดอย่าง แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ที่ 53.16% มีจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด 322,923,173 หุ้น
ช่องนิว 18 หรือ JKN18
วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2564 เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ได้เข้าควบคุมการออกอากาศช่อง นิว 18 (News18) ก่อนที่ในวันที่ 9 เมษายนปีเดียวกัน JKN จะเข้าซื้อหุ้นสามัญจดทะเบียนของบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสต์ จำกัด ผู้รับใบอนุญาตของช่องนิว 18 รวมถึงอาคารสำนักงานของช่องและอุปกรณ์การออกอากาศทั้งหมดจากกลุ่มผู้บริหารของเดลินิวส์ คิดเป็นมูลค่า 1,060,000,000 บาท
ทำให้ดีเอ็น บรอดคาสต์ กลายเป็นบริษัทย่อยของ JKN โดยจะมีการเปลี่ยนชื่อบริษัทผู้รับใบอนุญาต และจะมีการเปลี่ยนชื่อสถานีเป็น “เจเคเอ็น 18” ได้ประกาศแผนการตลาดของตนในรูปแบบใหม่เป็น “Content Commerce Company” โดยดึงเนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มผู้บริโภคมาต่อยอดสู่ธุรกิจพาณิชย์
เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย เข้า SET
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.63 แอน จักรพงษ์ ได้โชว์ศักยภาพความแข็งแกร่งของ JKN ย้ายเข้าเทรดในกระดาน SET จากเดิมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เสริมศักยภาพความแข็งแกร่งทางด้านฐานะทางการเงิน รองรับการรุกขยายธุรกิจจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคอาเซียนก่อนขยายไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
ความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้ตลอดระยะเวลา 3 ปี (2560-2562) JKN เติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งในมุมของรายได้และกำไรสุทธิโดยมีรายได้รวม 1,156 ล้านบาทในปี 2560 เพิ่มเป็น 1,422 ล้านบาทในปี 2561 และเพิ่มเป็น 1,710 ล้านบาทในปี 2562 ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มเป็น 227.7 ล้านบาทในปี 2561 และ252.88 ล้านบาทในปี 2562 ไม่เรียกว่ารวยมากก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
Project Runway Thailand
เมื่อเดือนมีนาคม 2565 แอน จักรพงษ์ หลังคว้าลิขสิทธิ์ Project Runway เรียลลิตี้สายแฟชั่นจากสหรัฐอเมริกามาผลิตและออกอากาศเป็นเวอร์ชั่นไทยครั้งแรกในชื่อ Project Runway Thailand เพื่อผลักดันไทยดีไซเนอร์สู่รันเวย์ระดับโลก
Project Runway ไม่เพียงแต่เพื่ออุตสาหกรรมแฟชั่นและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์แก่เยาวชนและแวดวงการศึกษาของไทยในการเปิดโลกทัศน์ ค้นหา และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทำงานภายใต้เงื่อนไขและกรอบเวลาที่จำกัด รวมถึงความกดดันอื่น ๆ
Shark Tank Thailand
แอน จักรพงษ์ ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในดิลเลอร์รายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 2 รายการเรียลลิตี้โชว์เชิงธุรกิจเชิญนักลงทุนประสบความสำเร็จหมื่นล้านที่กระหายการลงทุนรวมตัวกันเรียกว่า “Sharks (ชาร์ค)” ร่วมลงทุนกับผู้เข้าแข่งขันไปกว่า 30 ล้านบาท ปัจจุบันมีหุ้นอยู่กับหลายบริษัทที่เข้าร่วมดิล
Miss Universe – มิสยูนิเวิร์ส
ล่าสุดกับธุรกิจใหม่ของ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กับการซื้อกิจการ มิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe) ด้วยเงินสูงถึง 800 ล้านบาท ทำให้เธอนั้นครอบครองกรรมสิทธิ์จัดงานมิสยูนิเวิร์สแต่เพียงผู้เดียว 100% สานฝันแฟนนางงามไทยไปอีกก้าว อีกทั้งยังทำให้หุ้นของ JKN Global Media ซึ่งแอนเป็นผู้บริหารใหญ่อยู่นั้น พุ่งขึ้นเป็นกราฟสีเขียวไม่หยุดอีกด้วย
สนใจลงโฆษณา บทความ Backlink กับ Thaiger ติดต่อคุณโอ๋ orakarn@thethaiger.com