จับจริง 3 สาวแสบ เปิดเพจรับแลกสิทธิ์ คนละครึ่งพลัส เป็นเงินสด ฟันหัวคิว 10-20%

ตำรวจ ปอศ. เปิดปฏิบัติการ ‘รับ-แลก-ลวง’ บุกจับ 3 ผู้ต้องหา เปิดเพจรับแลกสิทธิ์ ‘คนละครึ่งพลัส’ เป็นเงินสด เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากร่วมมือเจอคดีฉ้อโกงทั้งคู่
เปิดฉากวันแรกของการใช้จ่ายโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ก็เกิดปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการทุจริตทันที เมื่อตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้บุกเข้าจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ฉวยโอกาสโพสต์ชักชวนให้ประชาชนนำสิทธิ์ คนละครึ่งพลัส มาแลกเป็นเงินสด
จากการสืบสวนพบว่า 1 ใน 3 ผู้ต้องหา ไม่ได้มีร้านค้าประกอบกิจการอยู่จริง แต่ใช้วิธีลงทะเบียนปลอมเข้ามาเพื่อหวังทุจริตในโครงการโดยเฉพาะ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดต่อล่อซื้อผ่านทาง LINE ก่อนจะเข้าจับกุมได้ทั้งหมด 3 ราย ได้แก่
1. น.ส.วันทนีย์ อายุ 24 ปี จับกุมได้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่งภายในพื้นที่ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
2. น.ส.ทิพย์เทวี อายุ 31 ปี จับกุมได้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่งภายในพื้นที่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
3. น.ส.นาตาชา อายุ 26 ปี จับกุมได้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่งภายในพื้นที่ ต.เนินกว้าว อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
พร้อมยึดของกลางเป็น โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง
ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวถึงพฤติการณ์ว่า ทั้ง 3 รายไม่ใช่ขบวนการเดียวกัน แต่ต่างคนต่างลงทะเบียนเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่งพลัส แล้วโพสต์ Facebook เพื่อชักชวนให้คนมาแลกรับสิทธิ์หลังวันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไป ที่รัฐบาลจะเติมเงินให้ใช้งานคนละครึ่งพลัสเป็นครั้งแรก เพียงแค่ผู้สนใจเอาสิทธิ์มาแลก กับเงินสดจากร้าน ส่วนร้านก็จะเอาสิทธิ์ไปเรียกรับเงินจากรัฐบาล ทั้งๆ ที่ไม่มีการซื้อขายกันจริง โดยร้านค้าจะหักส่วนแบ่งประมาณ 10-20%
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเห็นโพสต์ Facebook ลักษณะดังกล่าว จึงได้ดำเนินการทักติดต่อพบว่า ผู้ต้องหาจะให้ติดต่อข้อมูลผ่านทาง LINE และนัดหมายมาแลกรับสิทธิ์กัน ทางตำรวจจึงได้ดำเนินการเข้าจับกุมก่อนที่จะเริ่มโครงการจริง ๆ ดังนั้น ทั้งหมดจึงถูกดำเนินคดีในส่วนของการโฆษณา เพราะยังไม่ได้เริ่มดำเนินการรับแลกจริง ๆ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การว่า เป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง แต่มีเพียง น.ส.วันทนีย์ ได้ให้การรับสารภาพ ว่าต้องการหารายได้พิเศษ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 รายให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 รายเพิ่งกระทำความผิดในโครงการเฟสนี้เป็นครั้งแรก ยังไม่พบการกระทำความผิดในโครงการคนละครึ่งหรือโครงการอื่นของรัฐเฟสก่อนหน้า
ทางด้าน นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ย้ำว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ของโครงการฯ และเข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ ทั้ง “ผู้รับแลก (ร้านค้า)” และ “ผู้ที่นำสิทธิ์ไปแลก” นอกจากนี้ จะถูกตัดสิทธิ์จากโครงการอื่น ๆ ของรัฐ และต้องคืนเงินทั้งหมดอีกด้วย
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ ฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเพียงเพราะเห็นแก่เงินส่วนต่างเล็กน้อย และหากพบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กระทรวงการคลังหรือตำรวจหรือผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขข้อสงสัย! “คนละครึ่งพลัส” ใช้จ่ายค่าบริการ ร้านนวด-ร้านเสริมสวย ได้หรือไม่?
- วิธีสร้าง QR รับเงินคนละครึ่งพลัส แอปฯ ถุงเงิน สำหรับร้านค้า ทำตามนี้เงินเข้าแน่นอน
อ้างอิงจาก : FB ตำรวจสอบสวนกลาง
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





