ขึ้นราคาน้ำตาล กก.ละ 2 บาท มีผลวันนี้ แม่ค้าบ่นลูกค้าหายไปครึ่งหนึ่ง ที่ชัยนาทชาวบ้านแห่ซื้อหมดห้าง

Pacharaเผยแพร่: 15 พ.ย. 2566 16:32 น.| อัปเดต: 15 พ.ย. 2566 16:32 น.

69 Less than a minute

พ่อค้าแม่ค้าบ่นทำลูกค้าหายไปครึ่งหนึ่ง หลังมติคณะรัฐมนตรี ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 2 บาท มีผลบังคับใช้วันนี้ 15 พฤศจิกายน เป็นวันแรก ที่ชัยนาทชาวบ้านแห่ซื้อหมดห้าง ร้านค้าปลีก ร้านขนม เตรียมปรับขึ้นราคาเหตุแบกรับต้นทุนไม่ไหว

วันที่ 15 พ.ย.2566 หนึ่งวันให้หลังจากที่เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ออกมาเปิดเผยถึง ผลมิตในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 2 บาท ล่าสุดจากการสำรวจความคิดเห็นรปะชาชน ตลอดจนการลงพื้นที่ตรวจสอบบรรยากาศการซื้อขายน้ำตาลในวันนี้ ก็พบว่า มีปัญหาคนแห่ไปกว้านซื้อจนหมดสต๊อก เช่นเดียวกับที่บรรดาร้านค้าปลีก ไปจนพ่อค้า-แม่ค้าจำนวนมาก ออกมาให้ข้อมูล ต้องประสบชะตากรรมลูกค้าหายไปกว่าครึ่งหนึ่งหลังจากมีการเคาะมติปรับขึ้นราคาสินค้าบริโภคชนิดนี้อออกมาล่าสุด

อ้างอิงข้อมูลจาก มติชน ระบุ บรรยากาศการซื้อขายน้ำตาลทราที่ห้างดังในเมืองชัยนาทซึ่งวันนี้ การปับราคามีผลบังคับใฝช้วันแรก ปรากฏพบว่า ชั้นวางน้ำตาลทรายว่างเปล่าไม่มีสินค้าจำหน่ายแม้แต่ถุงเดียว มีเพียงป้ายที่แจ้งการขายก่อนหน้านี้ว่า จำกัดครอบครัวละไม่เกิน 3 ถุง และราคาขายเดิมเมื่อวานก่อนปรับราคา ก.ก.ละ 24 บาท

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของห้างฯ ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังประกาศปรับราคาน้ำตาลของครม. ก็มีลูกค้าพากันมาซื้อน้ำตาลทรายกันจำนวนมากจนหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว ยืนยันว่าทางห้างไม่ได้มีการกักตุนน้ำตาลทรายแต่อย่างใด แต่ที่น้ำตาลขาดชั้นวางเป็นเพราะการขนส่งที่ยังมาไม่ทันต่อความต้องการ

ขณะที่ ไทยพีบีเอส สถานีโทรทัศน์เพื่อประชาชน ก็รายงานว่า บรรดาร้านค้าปลีกและร้านขนมเตรียมปรับขึ้นราคาเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว หลังราคาน้ำตาลทรายปรับขึ้น 2 บาทต่อกิโลกรัมตามมติ ครม. รวมถึงน้ำตาลเริ่มหายากและขาดตลาดแล้ว

ร้านค้าปลีกและร้านขนมเตรียมปรับขึ้นราคาเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว หลังราคาน้ำตาลทรายปรับขึ้น 2 บาทต่อกิโลกรัมตามมติ ครม. รวมถึงน้ำตาลเริ่มหายากและขาดตลาดแล้ว#ราคาน้ำตาล #น้ำตาลทราย #น้ำตาลขึ้นราคา #น้ำตาล #ภูมิธรรม #ข่าวที่คุณวางใจ #ThaiPBSnews #ThaiPBS pic.twitter.com/vFD7yNiQMN

— Thai PBS News (@ThaiPBSNews) November 15, 2023