ถกสนั่น! ชาวเน็ตดันแฮชแท็ก #อย่าโทษเกม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หลังหลายฝ่ายเปรย เด็ก 14 มือยิงพารากอน ติดเกมแบทเทิลรอยัล ชี้ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบเล่นเกมแล้วอยากยิงคนอื่น
จากกรณีเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือเด็กชาย วัยเพียง 14 ปี โดยมีอาวุธคือปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก 19 เบื้องต้นพบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บทั้งหมด 5 ราย โดย 2 ใน 5 มีอาการสาหัส
หลังจากที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมคนร้ายวัย 14 ปีสำเร็จ ก็ได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบในบ้านของผู้ก่อเหตุ พบมีกระสุนปืนซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก อีกทั้งในโทรศัพท์มือถือยังพบคลิปที่ผู้ก่อเหตุ ฝึกซ้อมการใช้อาวุธปืน และสนทนากับเพื่อนเรื่องเกมแบทเทิลรอยัล
ต่อมาได้เกิดกระแสในโลกออนไลน์ อ้างว่าเด็กวัย 14 ปี ก่อเหตุเพราะติดเกมแนวแบทเทิลรอยัล ซึ่งเป็นเกมลักษณะที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเป็นคนสุดท้าย เช่น พับจี (PUBG) ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่พอใจ มองว่าเป็นการโทษเกมและไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
ดันให้แฮชแท็ก #อย่าโทษเกม ทะยานติดเทรนด์ใน X (ทวิตเตอร์) ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยหลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าตนก็เล่นเกม แต่ไม่ได้มีความคิดอยากไปทำร้ายใคร พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของคนร้าย อาทิ
“มีอะไรโทษเกมไว้ก่อน มันไม่ใช่อยู่ที่เกมครับมันอยู่ที่คน ไม่งั้นคนเล่นเกมทุกคนจะต้องมาก่อเหตุดิ K ครับ มีข่าวแนวนี้ทีไรโทษเกมไว้ก่อน สภาพพพ”
“กูรถามจริงเครื่องกระสุนครบมือขนาดนี้แน่ใจนะว่าป่วยจิตแล้วอย่ามาอ้างเรื่องเกม”
“คนติดเกมจริงๆ อ่ะ ซื้อไอเท็ม เติมกาชาก็หมดตัวแล้ว ไม่มีเงินเหลือไว้ซื้อปืuหรอก”
“นี่เห็นคนติดเกมไปเป็นนักกีฬา เป็นนักบิน เป็นเจ้าของธุระกิจ เป็นดาราเยอะแยะ ลองโทษอย่าอื่นดูบ้าง เช่น ตัวคนทำผิด”
“สื่อกำลังหันหน้าไปทางเดียวกัน คือโฟกัสเรื่องคนร้ายชอบเล่นเกม ติดเกม เล่นเกมแนวยิง บลาๆ แต่ไม่ดูพฤติการของคนร้ายเลย เหยื่อเป็นหญิงถึง 6 ราย ตัวเลขแบบนี้อาจมีนัยยะสำคัญในการวิเคราะห์คนร้าย ยิ่งในไทยเรื่อง femicide ยังไม่เป็นที่ให้ความสำคัญเท่าไหร่ ควรมองมิตินี้ด้วย”
