สุขภาพและการแพทย์อีเว้นท์

‘ถั่งเช่า’ 5 เรื่องจริงของยาบำรุงจีน สรรพคุณเป็นเลิศ ควรรู้ก่อนทาน

รู้จักสรรพคุณ ถั่งเช่า และ ถั่งเช่าสกัด ยาจีนบำรุงกำลังที่หลายบ้านนิยม เปิดข้อดี ประโยชน์ อันตราย และข้อควรระวังของสมุนไพรชนิดนี้ รู้ก่อนทานเป็นดี

ช่วงหนึ่งสมุนไพรจีนชื่อ ถั่งเช่า กลายเป็นกระแสนิยมของเหล่าคนรักสุขภาพทั่วประเทศไทย จนกระทั่งในปัจจุบันความนิยมยังไม่ลดลงแม้แต่น้อย หลายคนเลือกรับประทานถั่งเช่าเป็นประจำ เพื่อใช้เป็นยาจีนบำรุงสุขภาพ และเป็นธรรมดาของทุกสิ่งบนโลกนี้ที่มีข้อดี ย่อมต้องมีข้อควรระวัง มาร่วมติดตาม 5 เรื่องจริงของพืชสมุนไพรชนิดนี้ก่อนรับประทาน ไปพร้อมกับทีมงาน Thaiger กันเลย

Advertisements

รู้ไว้ใช่ว่า 5 เรื่องจริงของ ถั่งเช่า สมุนไพรจีนยอดนิยมเพื่อสุขภาพ

1. ถั่งเช่า มีอีกชื่อว่า หญ้าหนอน

ถั่งเช่า (Chinese Golden Grass) เป็นยาสมุนไพรจีนที่เป็นทั้งพืชและสัตว์ กล่าวคือถั่งเช่าเกิดจากหนอนผีเสื้อและเห็ดที่แห้งแล้ว กล่าวคือช่วงฤดูหนาว หนอนผีเสื้อมักจะลงไปจำศีลอยู่ใต้หิมะ หลังจากหิมะละลายมันจะขึ้นมาดูดกินสปอร์ที่อยู่ในดิน ทำให้สปอร์เหล่านี้ดูดสารอาหารจากตัวหนอนและกลายเป็นเห็ดที่งอกออกจากตัวของหนอนผีเสื้อนั่นเอง

ถั่งเช่า ถั่งเช่าสกัด

โดยตัวหนอนผีเสื้อ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus Oberthiir ส่วนเห็ดบนตัวหนอนที่มีชื่อว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Saec.

ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน และมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในอดีตถั่งเช่าเป็นสมุนไพรสำหรับจักรพรรดิ เนื่องจากเป็นของที่หายากและมีราคาแพง

Advertisements

2. ถั่งเช่ามี 2 ชนิด

ถั่งเช่ามีด้วยกันทั้งหมด 2 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีสรรพคุณทางยาและประโยชน์ที่ต่างกัน ได้แก่ ถั่งเช่าสีทอง และ ถั่งเช่าทิเบต

  • ถั่งเช่าสีทอง เป็นเห็ดที่มีสรรพคุณเป็นกลาง
  • ถั่งเช่าทิเบต หรือ ถั่งเช่าตัวหนอน เป็นถั่งเช่าสายพันธุ์ที่ดี หายาก มีราคาแพง มีฤทธิ์ร้อน หากจะรับประทานควรเลือกรับประทานถั่งเช่าชนิดนี้

3. สรรพคุณถั่งเช่า

ถั่งเช่ามีสรรพคุณทางยามากมาย แต่ถั่งเช่าชนิดที่มีประโยชน์คือ ถั่งเช่าทิเบต ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคความดัน อ่อนล้า เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดการเสื่อมของไต ชะลอวัย รวมถึงช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ

ในขณะที่ ถั่งเช่าสีทอง จะมีสรรพคุณทางยาน้อยกว่า ค่อนข้างเน้นไปทางสรรพคุณทางอาหารคล้ายกับเห็ดทั่วไป

ถั่งเช่า ถั่งเช่าสกัด

4. ใครบ้างที่ไม่ควรรับประทานถั่งเช่า

แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากรับประทานมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ อีกทั้งถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ดังนั้นอาจจะไม่เหมาะกับร่างกายของทุกคน โดยกลุ่มที่ควรระวังในการรับประทานถั่งเช่า ได้แก่

  • ผู้ที่แพ้เห็ด เนื่องจากถั่งเช่ามีส่วนประกอบของเห็ด
  • ผู้ที่ทานยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด
  • ผู้ที่กำลังรับยากดภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง
  • ผู้ป่วยเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เนื่องจากถั่งเช่ามีคุณสมบัติลดน้ำตาลในเลือดได้
  • เด็ก ผู้ให้นมบุตร และสตรีมีครรภ์

5. กินถั่งเช่าเยอะทำให้ไตวายจริงหรือไม่

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าถั่งเช่าไม่ได้เหมาะสำหรับร่างกายของทุกคน รวมถึงสรรพคุณทางยาบางประการของถั่งเช่าทิเบต อาจมีส่วนกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้รับประทานได้

ส่วนกรณีถั่งเช่าทำให้ไตวายนั้น อาจเกิดจากการรับประทานถั่งเช่าติดต่อกันเป็นเวลานานมากเกินไป รวมถึงการรับประทานถั่งเช่าชนิดอื่นที่ไม่ใช่ถั่งเช่าทิเบต ดังนั้นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว รวมถึงบุคคลทั่วไป ควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อถั่งเช่ามารับประทาน

ถั่งเช่า ถั่งเช่าสกัด

สำหรับใครที่มีสุขภาพดีอยู่แล้ว การรับประทานถั่งเช่าอาจจะไม่จำเป็นสำหรับคุณเท่าใดนัก

แต่หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ห้ามรับประทานถั่งเช่าดังที่กล่าวไปข้างต้น รวมถึงอยากหันมาดูแล ใส่ใจสุขภาพด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ การเลือกซื้อถั่งเช่ามารับประทานก็เป็นทางเลือกสุขภาพที่น่าสนใจ

หากสนใจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากถั่งเช่า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส-ถั่งเช่า เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ siam-supplement.com ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย อย. จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

กดติดตามเพจเฟซบุ๊ก Thaiger เพจใหม่ ไม่พลาดทุกข่าวสาร คลิกที่นี่

Lalita C.

นักเขียนคอนเทนต์ SEO แห่งทีมไทยเกอร์ไทย คลุกคลีกับการเขียนตั้งแต่สมัยเรียน ชอบการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ติดตามข่าวสารจากโลกออนไลน์ นำมาสรุป เล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย ผ่านมุมมองน่าสนใจที่คนมักจะมองข้าม ทั้งข่าวบันเทิง บทความ งานเขียนแนวไลฟ์สไตล์ รวมถึงทุกอย่างที่อยากให้นักอ่านได้รู้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button