รีวิวเขาหลัก 2 วัน 1 คืน เที่ยวสไตล์วัยทำงาน หยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็จัดทริปเที่ยว – กิน – ดูแลตัวเองได้ บุกทะเลใต้ ตะลอนร้านมิชลิน ชาร์จพลังที่พังงา
ประเทศไทยไม่ได้มีดีแค่จังหวัดเดียวฉันใด เขาหลัก พังงา ก็ไม่ได้มีดีแค่ทะเลฉันนั้น แม้ว่าจะเป็นหน้ามรสุม แต่ก็ยังมีความน่าประทับใจอีกมากรอให้คุณไปสัมผัส
หากใครเป็นวัยทำงาน งบถึง อยากให้รางวัลตัวเองในวันหยุดอันน้อยนิดด้วยอาหารเน้นวัตถุดิบท้องถิ่น รสชาติดีระดับบิบกูร์มองด์ มิชลินไกด์ ไทยแลนด์ และการท่องเที่ยวแบบรักสุขภาพ หรือ Meaningful Wellness เที่ยวแบบไม่เปลืองแรง แถมยังได้ชาร์จพลังกายและใจ รับรองว่าคุณต้องถูกใจรีวิวทริปเขาหลัก 2 วัน 1 คืนที่นำมาแบ่งปันในครั้งนี้แน่นอน
รีวิวเขาหลัก พังงา เที่ยวแค่ 2 วัน 1 คืน ช่วยฟื้นร่างกายได้เต็มที่
ทริปวันที่ 1 : ออกแรงตะลุยแหล่งท่องเที่ยว
เริ่มต้นออกเดินทาง
ครั้งนี้เราได้มีโอกาสเดินทางร่วมกับทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบิน Bangkok Airways เพื่อใช้เวลาเดินทางให้น้อยที่สุด และได้เที่ยวให้คุ้มที่สุด นั่งเครื่องเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งก็เดินทางไปถึงท่าอากาศยานภูเก็ต จากนั้นนั่งรถตู้ต่อไปที่เขาหลัก จังหวัดพังงาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็ถึงจุดหมายแรกของเราแล้ว
เนื่องจากช่วงเดือนกรกฎาคมที่เราได้เดินทางเป็นหน้ามรสุม ดังนั้นจึงเจอฝนตกปรอย ๆ เกือบตลอดทริป ถ้าใครมีโอกาสเดินทางช่วงนี้อย่าลืมเตรียมเสื้อกันฝน พกร่มกันไปด้วย แต่ขอบอกเลยว่าฝนที่ตกไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลงเลยแม้แต่น้อย
ประเดิมเติมท้องที่ห้องอาหารตะโกลา
Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas คือจุดหมายแรกของทริปนี้ ความประทับใจเริ่มตั้งแต่ Welcome Drink จิบแรกที่ได้ชิม รสชาติเครื่องดื่มชาผลไม้เปรี้ยว ๆ มีเจลลี่หวาน ๆ ให้เคี้ยว ทำเอาตื่นเลยทีเดียว
ขณะรอรับประทานอาหารที่ห้องอาหารตะโกลา ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงแรม ทางเทวาศรมก็ได้จัดกิจกรรมต้อนรับ 2 อย่างให้เลือกทำตามใจชอบ ใครเป็นสายรักสุขภาพกาย ที่นี่มีสาธิตการทำลูกประคบ รวมถึงเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำ ลงมือเองตั้งแต่ขึ้นรูปผ้าเพื่อนำสมุนไพรใส่ รวมถึงเรียนวิธีการผูกปม พร้อมนำไปใช้จริง
สำหรับใครเป็นสายเครื่องดื่มต้องไม่พลาดการจิบชาชงสด แนะนำว่าหากใครชอบชาหอม ๆ กลิ่นวานิลลา ชารอยบอสคือสิ่งที่คุณพลาดไม่ได้เด็ดขาด
จากนั้นก็ถึงคิวของอาหารมื้อแรกที่เขาหลัก ณ ห้องอาหารตะโกลา ซึ่งชื่อนี้เพี้ยนมาจากคำว่า ตะกั่วป่า นั่นเอง โดยพระเอกหลักของมื้อนี้ก็คือวัตถุดิบในท้องถิ่นพังงา รสชาติอาหารแต่ละจานทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตะโกลา ถึงได้รางวัลบิบกูร์มองด์ แม้จะเป็นเมนูที่สามารถหาทานได้ไม่ยากอย่าง ต้มส้มปลา ไก่ย่างสมุนไพร ปลานึ่งสามรส แกงเขียวหวานไก่ แต่รสชาติของปลาไม่มีความคาวแม้แต่น้อย อร่อยทุกจานจริง ๆ
ส่วนที่เราประทับใจที่สุดก็คือ ขนมสาคูต้น ซึ่งเป็นเม็ดสาคูที่มาจากต้นจริง ๆ หากใครเคยกินสาคูที่เป็นแป้งมาตลอด รสชาติของสาคูแท้จะทำให้คุณรู้สึกอร่อยจนแสงออกตาเลย ยิ่งทานคู่กับกะทิอุ่น ๆ งานนี้ชามที่ 2 ที่ 3 ต้องมาแล้ว
ต้มไข่ออนเซ็นกลางสายฝนที่ธารน้ำพุร้อนปลายพู่
หลังจากท้องอิ่มก็ได้เวลาเดินทางต่อ ที่เที่ยวเขาหลักที่เราได้แวะไปเยือนที่ถัดมาก็คือ ธารน้ำพุร้อนปลายพู่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากที่พักประมาณ 1 ชั่วโมง จุดเด่นของที่นี่ก็คือบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ติดกับธารน้ำเย็น ซึ่งเราสามารถต้มไข่ในบ่อพุน้ำร้อน รวมถึงนั่งแช่ขาเพิ่มความสบายก็ได้
เมื่อไปถึงก็เรียกได้ว่านั่งชิมไข่ลวกไป หลบฝนไปกันเลยทีเดียว บรรยากาศน้ำพุร้อนตอนที่ฝนตกให้ความรู้สึกสบายไปอีกแบบ ถึงจะมีแอ่งน้ำเฉอะแฉะบ้าง แต่ก็ได้เห็นวิวหมอกสวย ๆ ที่ปกคลุมยอดเขา เหมือนได้เที่ยวเมืองหนาวที่ไม่ต้องพึ่งเสื้อกันหนาวเลยล่ะค่ะ
หากวัยทำงานคนไหนรู้สึกปวดแข้งปวดขา กลัวว่าจะต้องมาลุยปีนป่าย ก็ขอบอกไว้ก่อนว่าที่นี่เที่ยวง่ายสุด ๆ แค่เดินจากที่จอดรถนิดเดียวก็เจอบ่อน้ำพุแล้ว การได้เห็นบ่อน้ำร้อนมีไอลอยโชย อยู่ถัดจากธารน้ำเย็นไปเพียงก้าวเดียว เป็นภาพที่น่าประทับใจและทำให้เห็นว่าธรรมชาติของเราน่ามหัศจรรย์ไม่น้อยเลย
ท้าคลื่นลมที่หาดดังขึ้นชื่อของเขาหลัก Memories Beach
หากแวะมาเที่ยวเขาหลักจะพลาด Memories Beach ไปไม่ได้เลย กับกิจกรรมเล่นเซิร์ฟ โต้คลื่นวัดพลังกายและความสมดุลของร่างกาย ถึงจะต้องเล่นเซิร์ฟกลางสายฝน แต่นักท่องเที่ยวหลายคนก็ไม่หวั่น เพราะอยู่ภายใต้การดูแลของครูที่ฝึกสอน เหมาะมากโดยเฉพาะเหล่ามือใหม่หัดเล่นเซิร์ฟ การมาประเดิมสนามที่ Memories Beach ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยค่ะ
รับลม ชิมเล ชมการแสดงควงไฟ ที่ Karkinos Beach Club
หลังจากออกแรงแล้วก็ได้เวลาเติมท้องอีกครั้งที่ร้านอาหาร Karkinos Beach Club ซึ่งตั้งอยู่ภายใน Memories Beach ความเก๋ของมื้อนี้ขอยกให้จานข้าวผัดสับปะรดซึ่งยกสับปะรดมาทั้ง (ครึ่ง) ลูก แถมยังจุดไฟมาให้อย่างยิ่งใหญ่
จากนั้นก็ลุกไปย่อยด้วยการรับชมการแสดงควงกระบองไฟริมหาดอันเลื่องลือ เห็นเปลวไฟพุ่งแล้วรู้สึกแสบหลังแทนเลย พี่ ๆ เพราะนักควงไฟแต่ละคนเอาเรื่องสุด ๆ สู้ได้ไม่มีกลัวทั้งพลุทั้งไฟ
ร่ำลาค่ำคืนนี้กันที่ La Vela Khao Lak
อยากออกตัวแรง ๆ ว่าประทับใจที่พักที่ ลา เวลา เขาหลัก มาก ๆ หากใครมีโอกาสไปพัก ขอแนะนำให้เลือกห้องชั้น 1 เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวระเบียงห้องพักแบบ Pool Access พื้นที่ห้องกว้างขวาง ทั้งห้องน้ำและห้องนอน ถ้ามีโอกาสแวะมาเขาหลักอย่าลืมปักพิกัดที่พักที่ ลา เวล่า กันให้ได้เลย เพลินจริง ๆ จนลืมถ่ายรูปป้ายโรงแรมมาเลยทีเดียว
ทริปวันที่ 2 : ชาร์จพลังและบำบัดร่างกาย
ผ่อนคลายยามเข้ากับโยคะและเพนต์ผ้าบาติก
แม้จะเป็นวันเดินทางกลับแต่กิจกรรมเราก็ยังไม่มีแผ่ว เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ด้วยการทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งจัดเต็มอาหารนานาชาติ ทั้งเอเชียและตะวันตก มีอาหารให้เลือกสรรเพียบ ทีเด็ดคือไข่เบเนดิกต์ ซึ่งเป็นไข่บนขนมปัง ซึ่งอยากให้ทุกคนได้ลองชิมดูสักครั้ง และอย่าลืมแบ่งสัดส่วนกระเพาะให้ดี ไม่อย่างนั้นทานเพลินจนเดินไม่ไหวแน่นอน
ส่วนตัวเราทานอร่อยจนลืมกดถ่ายภาพเก็บไว้ ตอนนี้เลยมีแต่รสชาติความอร่อยมาเล่าสู่กันฟัง เสียดายที่ไม่มีภาพมาช่วยยืนยันความน่ากิน
ใช่วงเช้าทางลา เวล่ามีกิจกรรม 2 อย่างให้เลือกทำก็คือ โยคะ บริหารร่างกายและจิตใจ และกิจกรรมเพนต์ผ้าบาติก ศิลปะบำบัด เรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นวันพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ได้ดีต่อใจมากจริง ๆ
ลิ้มรสชาติท้องถิ่นพังงาที่ ในเหมือง เขาหลัก
หลังจากเช็กเอาต์ก็ได้เวลามาเติมท้องกันต่อที่ตำนานร้านอาหารมิชลิน 6 ปีซ้อน ในเหมือง เขาหลัก ความปังของร้านในเหมืองคือทุกอย่างบนโต๊ะปลอดสารพิษ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะแต่ละเมนูจะใช้วัตถุดิบที่ปลูกเองตามธรรมชาติ รวมถึงของป่า นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทานอาหารที่ร้านในเหมือง จึงเท่ากับคุณได้สัมผัสรสชาติท้องถิ่นพังงา
เมนูอาหารเรียกได้ว่าอร่อยน่าประทับใจทุกจาน ทั้งต้มกะทิสายบัว ใบเหลียงผัดไข่ แต่จานที่เราอยากแนะนำก็คือ แกงส้มในเหมือง ซึ่งเป็นแกงส้มใส่ลูกชก พืชท้องถิ่นของจังหวัดนครศรีธรรมราช กระบี่ และ พังงาเท่านั้น
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นทั้งคนบริหารและพัฒนาสูตรอาหาร เขาบอกว่าแกงส้มในเหมืองใช้เวลาพัฒนาสูตรถึง 3 เดือนเลยทีเดียว ซึ่งรสชาติที่ได้ชิมนั้นต้องบอกว่าอร่อยยกนิ้ว สมแล้วกับการใช้เวลากว่า 1 ไตรมาสเพื่อผลิตเมนูอาหารที่อร่อยจัดจ้าน คนทานเผ็ดต้องชอบแบบเมนูแกงส้มนี้
รีเฟรชร่างกาย ส่งท้ายทริปที่ Aleenta Phuket & Phang Nga Resort & Spa
ก่อนจะกลับ เราได้มาปิดท้ายด้วยการทำสปาที่ Aleenta Phuket & Phang Nga Resort & Spa ใครไม่ใช่สายนวดไม่ต้องห่วง เพราะเราสามารถเลือกระดับน้ำหนักมือของผู้นวดได้ตามใจ รวมถึงการนวดจะแตกต่างออกไปตามธาตุของแต่ละคน
ลองเปิดใจทำสปาดูสักครั้งแล้วจะรู้เลยว่าความเบา สบาย และการได้พักผ่อนที่แท้จริงเป็นอย่างไร ส่วนตัวเราเองรู้สึกเพลินจนหลับไปเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ที่ Aleenta ยังมีกิจกรรมฝึกสมาธิผ่อนคลายจิตใจ ถ้าได้ทำครบจะรู้เลยว่าความเบาสบายมันเป็นแบบนี้นี่เอง
จากนั้นก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็นส่งท้าย ก่อนนั่งรถกลับจากเขาหลัก พังงา เพื่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อเตรียมเดินทางกลับ สิ้นสุดทริป 2 วัน 1 คืนที่อัดแน่นด้วยกิจกรรมเพื่อสุขภาพตามคอนเซปต์ Meaningful Wellness อย่างแท้จริง
หากพูดถึง ’ทะเลใต้’ หนึ่งในจังหวัดที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ จะต้องมีชื่อ ‘พังงา’ อยู่ด้วยอย่างแน่นอน แต่หน้ามรสุมเช่นนี้ทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่ไปเที่ยว เพราะคิดว่ายังไงก็คงไปเสียเที่ยวเปล่า แต่หวังว่ารีวิวทริปเขาหลัก 2 วัน 1 คืนนี้ จะทำให้คุณได้ไอเดียใหม่สำหรับทริปเที่ยวครั้งใหม่กันนะคะ
อยากให้ลองลบภาพจำของคำว่า เที่ยวแพงในประเทศไทย สู้ออกไปเที่ยวต่างประเทศดีกว่า เพราะจริง ๆ แล้วเมืองไทยมีอะไรดี ๆ ซุกซ่อนอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ อีกมาก รวมถึงการท่องเที่ยวที่รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ดังนั้นหากใครพอมีกำลังทรัพย์ อยากเที่ยวแบบกินอิ่มหนำ ได้ฟื้นฟูร่างกายเต็มร้อย รับรองเลยว่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Meaningful Wellness ที่พังงาจะตอบโจทย์คุณได้ แล้วคุณจะได้สัมผัสคำว่า Amazing Thailand ว่าแท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไรแน่นอน
ขอบคุณรูปภาพจาก : Amazing Thailand Health and Wellness (TAT)
