ประวัติ ‘เปาป้อม วัชรินทร์’ เสียชีวิต ในวัยเพียง 33 ปี กรรมการมวยและครูมวยชื่อดัง ผู้ชี้ขาดบนเวทีชาวไทยคนแรกและหนึ่งเดียวในสังเวียน ONE ลุมพินี ที่ได้รับการยอมรับจากแฟนมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติ
เปิดประวัติ ‘เปาป้อม’ หรือ ‘สิบตำรวจเอก วัชรินทร์ รัชนิพนธ์’ หนึ่งในผู้ตัดสินอายุน้อย ที่ผ่านประสบการณ์ชี้ขาดบนสังเวียนมาอย่างโชกโชน และได้รับการยกย่องทั่วทั้งวงการมวยในฐานะกรรมการที่ตัดสินได้อย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรมตามกติกา และเฉียบขาด ว่องไว ในเข้าเซฟนักกีฬาในทุกจังหวะที่สำคัญที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีระหว่างการแข่งขัน
กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 22.00 น. พ.ต.ท.นุสรณ์ กฤติยะโชติ สว. (สอบสวน) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งพบศพตำรวจเสียชีวิตภายในห้องพักคอนโดฯ ซอนลาดพร้าว111 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงประสานแพทย์นิติเวช แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. สุพล ค้ำชูรอง ผบก.น.4 พ.ต.อ. ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุภายในห้องพักชั้น 7 ตึกเอ พบศพ ‘ส.ต.อ. วัชรินทร์ รัชนิพนธ์’ หรือ ‘เปาป้อม’ อายุ 33 ปี ผบ.หมู่จเรตำรวจ นอนหงายอยู่บนเตียงนอน มีบาดแผลกระสุนปืนยิงเข้าขมับซ้าย มีอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ใต้ข้อศอกแขนขวา
พ.ต.อ. ธนาพันธ์ เผยว่า ที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือร่องรอยการงัดแงะ ภรรยาผู้เสียชีวิต อายุ 37 ปี ระบุ ผู้เสียชีวิตอยู่บ้านคนเดียว ส่วนภรรยาออกไปทำงานที่ธนาคาร กลับมาถึงประมาณ 4 ทุ่ม เปิดประตูเข้าไปพบสามีเสียชีวิตแล้ว สามีไม่ได้มีปัญหาเรื่องหนี้สิน แต่มักจะเครียดจากการทำงาน และมีภาวะโรคซึมเศร้า อย่างไรก็ตาม จะมีการส่งศพของผู้เสียชีวิต ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
ในวันนี้ Thaiger ได้รวบรวมข้อมูลประวัติการทำงานของ ‘เปาป้อม วัชรินทร์’ กรรมการมวยชื่อดังท่านนี้ ว่าจะมีเรื่องราวและการทำงานอะไรที่น่าสนใจบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็เข้ามาอ่านในนี้กันได้เลยค่ะะ
ประวัติ ‘เปาป้อม วัชรินทร์’ กรรมการมวยและครูมวยชื่อดัง
‘เปาป้อม’ หรือ ‘สิบตำรวจเอก วัชรินทร์ รัชนิพนธ์’ ปัจจุบันอายุ 33 ปี หนึ่งในผู้ตัดสินอายุน้อยที่ผ่านประสบการณ์บนสังเวียนมาอย่างโชกโชน โดยเปาป้อมเริ่มต้นเส้นทางนี้ด้วยการเป็นนักมวยตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ใช้ชื่อว่า ‘สิงห์สยาม ศักดิ์สมหมาย’ ด้วยความสามารถที่โดดเด่นทำให้เปาป้อมได้เข้าร่วมเวทีมาตรฐานในเมืองกรุง
ในช่วงมัธยมปลาย เปาป้อมได้ย้ายเข้ามาเรียนที่กรุงเทพ จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ‘แดดสี่ (ศักดิ์ชัยวัฒน์) ส.สุวรรณภักดี’ ผ่านการชกมากกว่า 150 ไฟต์ ก่อนจะอำลาสังเวียนในวัย 18 ปี เพราะได้รับบาดเจ็บหนัก จนเวลาผ่านไปจนถึงช่วงที่เรียนจบปริญญาตรี เปาป้อมได้กลับมาเอาดีด้านมวยไทยอีกครั้ง ด้วยการรับงานเป็นครูสอนมวยไทย ก่อนจะเข้าอบรมเป็นกรรมการของสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย
ในปี 2566 เปาป้อมได้สอบเข้ามาเป็นผู้ตัดสินของเวทีลุมพินี และได้เป็นกรรมการมวยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยตลอดระยะเวลาการทำงานในฐานะกรรมการ เปาป้อมได้รับรางวัลการันตีความสามารถมากมาย ได้แก่ รางวัลกรรมการขวัญใจมหาชนของชมรมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย, รางวัลผู้ตัดสินยอดเยี่ยมของสนามมวยเวทีลุมพินี และรางวัลผู้ตัดสินดีเด่นของการกีฬาแห่งประเทศไทย 2 ปีซ้อน
เปาป้อม ได้กลายเป็นที่ยอมรับจากแฟนมวยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในฐานะกรรมการที่ตัดสินได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามกติกา และเฉียบขาดในทุกจังหวะที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีระหว่างการแข่งขัน
โดยเฉพาะในจังหวะที่นักมวยโดนน็อก เปาป้อมมักจะสามารถพุ่งตัวเข้าไปเบรก หรือเซฟนักมวยไม่ให้ล้มศีรษะกระแทกพื้นได้บ่อยครั้ง จนแฟนหมัดมวยทั้งชาวไทยและต่างประเทศมักจะชื่นชมการเข้าช่วยป้องกันนักมวยของผู้ตัดสินอยู่บ่อยครั้ง
จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของเปาป้อม ทำให้บิ๊กบอส ‘ชาตรี ศิษย์ยอดธง’ แห่ง ONE จึงดึงตัวมาเป็นกรรมการชี้ขาดบนเวทีในศึก ONE ลุมพินี ทั้งที่ปกติแล้วเวทีดังกล่าวจะใช้กรรมการต่างชาติทั้งหมด ทำให้เปาป้อมถือเป็นชาวไทยคนแรกและคนเดียวที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินในศึก ONE ลุมพินี ตั้งแต่นัดปฐมฤกษ์ เมื่อ 20 มกราคม ที่ผ่านมานั่นเอง
