ข่าว

สาวพ้อหนัก แพ้สารเคมี ขอร้านมิชลินเปลี่ยนสูตรอาหาร แต่ถูกปฏิเสธ

กำลังเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อยู่ขณะนี้ สำหรับกรณีของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่โพสต์ข้อความร่ายยาวถึงเรื่องการไปรับประทานอาหาร ณ ร้านมิชลินสตาร์ ทว่าเจ้าตัวกลับแพ้สารเคมีหลายชนิด ทำให้ร้านปฏิเสธที่จะให้บริการโดยใช้เหตุผลว่าวัตถุดิบของทางร้านกว่า 90% มีสารเคมีเหล่านั้นปะปนอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้เปรียบเทียบว่าร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์นั้นมีต้นทุนในการรังสรรค์เมนูที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมี แต่กลับไม่สามารถทำได้เหมือนอย่างร้านอื่น ๆ ที่ได้เคยไปทานมาก่อนหน้านี้ พร้อมกับกล่าวชื่นชมกิจการร้านอาหารของตัวเองที่วัตถุดิบไม่มีการปนเปื้อนสารเคมีและสามารถบอกแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้ทุกชิ้น

แพ้สารเคมี ร้านมิชลิน

แพ้สารเคมี ร้านมิชลิน

ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวก็ได้เขียนข้อความเพิ่มเติมหลังจากถูกกระแสโจมตีระลอกแรกด้วยว่า ซอสสำหรับประกอบอาหาร หรือวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำอาหาร เช่น เส้นพาสต้า ก็ทำเองกับมือทุกอย่าง และปิดท้ายด้วยการให้ข้อมูลว่าซอสปรุงอาหารแต่เดิมนั้นสร้างมาจากของกินในครัว ไม่ได้ถูกปรุงแต่งผ่านแล็บเพื่อลดต้นทุน

แพ้สารเคมี ร้านมิชลิน

จึงทำให้ซอสที่ปรุงเองไม่มีการใส่สารเคมีใด ๆ เหมือนซอสที่ถูกปรุงแต่งขึ้นผ่านกระบวนการผลิตในโรงงาน และยังมีการคอมเมนต์ให้ข้อมูลสารเคมีที่ตนเองแพ้เพิ่มเติมอีกด้วยว่ามีเบกกิ้งโซดา สารกันบูด สารคงตัว สารทำให้เนื้อเปื่อย และสารทำให้เนื้อเด้ง

ดราม่าแพ้สารเคมีในอาหาร ร้านมิชลินสตาร์

ดราม่าแพ้สารเคมีในอาหาร ร้านมิชลินสตาร์

อย่างไรก็ดี หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์ ก็มีบรรดาชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับทางร้านอาหารที่เลือกจะปฏิเสธลูกค้าด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารมีสารเคมีที่ลูกค้าแพ้ ถือว่าเป็นความโปร่งใสของทางร้านที่ไม่หลอกลวงผู้บริโภค

นอกจากนี้ก็ได้มีชาวเน็ตบางคนแนะนำให้ทางเจ้าของเฟซบุ๊กต้นเรื่องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจการแพ้อาหาร และการแพ้อาหารแบบแฝง เนื่องจากมีหลายคนสืบทราบมาว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้อ้างว่าตนเองแพ้สารเคมีที่ใส่ในอาหารแต่ไม่เคยเข้ารับการตรวจอาการแพ้เลย

อีกทั้งหลายคนยังโฟกัสถึงประเด็นที่ลูกค้าไม่ได้แจ้งอาการแพ้อาหารกับทางร้านตั้งแต่ตอนจอง รวมไปถึงการโพสต์ข้อความในเชิงตำหนิร้านอาหารอื่นก่อนจะวกมาชื่นชมร้านอาหารของตัวเอง พร้อมกันนี้ก็มีการให้ข้อมูลความรู้เรื่องสารเคมี โดยกล่าวว่าทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นสารเคมี แม้แต่น้ำก็นับว่าเป็นสารเคมี ส่วนสิ่งที่ไม่ใช่สารเคมีมีเพียงอย่างเดียวคือสุญญากาศสัมบูรณ์ หรือแม้แต่เบคดิ้งโซดาเองที่เป็นโซเดียมกับคาร์บอเนต ซึ่งมีอยู่ในเซลล์ร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว

ล่าสุดโพสต์ดังกล่าวของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ถูกลบออกไปแล้วหลังมีกระแสโจมตีจากชาวเน็ตอย่างหนักหน่วง แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีอาการแพ้จริงหรือไม่ ทางเดอะไทยเกอร์ขอแนะนำว่าหากรับประทานอาหารใด ๆ แล้วรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ ก็ควรจะไปหาหมอเพื่อตรวจภูมิแพ้และรับการรักษาจึงจะดีที่สุด ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้เนื่องจากอาการภูมิแพ้อาจสร้างความอันตรายถึงชีวิตได้

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button