บันเทิง

‘ทนายนิด้า’ แจงยิบ คดีช่างภาพข่มขืนนางงามยกฟ้อง เผยเหตุผลที่เป็นทนายความ

เป็นประเด็นที่สังคมจับตามองกันอย่างมากสำหรับคดีช่างภาพข่มขืนนางงาม โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2564 หลังผู้ประกวดเวทีมิสยูเวิร์สไทยแลนด์ 2021 จำนวน 2 ราย เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกช่างภาพชื่อดังประจำกองประกวดกระทำการลวนลามและข่มขืน เป็นเหตุให้ช่างภาพคนดังกล่าวถูกตำรวจจับและติดคุกทันทีเป็นเวลา 2 เดือน โดยมีรายงานว่ายังมีเหยื่อที่ถูกช่างภาพรายนี้กระทำอนาจารกว่าอีก 10 คน

และเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ช่างภาพที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ก็ได้รับการปล่อยตัวแล้ว เนื่องจากศาลชั้นต้นยกฟ้อง 1 คดี เหลือ 2 คดีที่ต้องสู้ต่อ

Advertisements

ในปัจจุบันช่างภาพรายนี้ได้ผันตัวไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับนางงามมิสแกรนด์ปราจีนบุรี 2023 ซึ่งผลการตัดสินยกฟ้องนี้เองที่ทำให้สังคมมองว่าคดีอาจพลิกหรือไม่

ล่าสุดวันที่ 16 เมษายน 2566 ทางด้านทนายนิด้าผู้ดูแลคดีความดังกล่าวให้กับเหยื่อ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวถึงรายละเอียดเรื่องการยกฟ้องในศาลชั้นต้นว่าผลที่ศาลตัดสินออกมานั้นเนื่องจากศาลมองว่าเหยื่อสมยอมมากกว่า แต่ก็จะสู้ขอุทธรณ์ต่อไปเพราะคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด และคดีนี้อาจจบในขั้นของศาลฎีกา

นอกจากนี้ทนายนิด้าก็ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทำเคสคดีข่มขืนด้วยว่าเป็นคดีที่ยากที่สุด เนื่องจากต้องอาศัยพยานแวดล้อม ซึ่งทนายนิด้าเองก็จะพยายามให้ความช่วยเหลือแก่เหยื่อเต็มที่ แต่อย่างไรก็ดี ก็ต้องออกโรงเตือนลูกความด้วยว่าคดีมีทั้งแพ้และชนะ และการทำคดีข่มขืนก็มีสิทธิ์เสี่ยงโดนฟ้องกลับอีกด้วย

ทั้งนี้ทนายนิด้าก็ได้เผยเหตุผลที่ทำให้เลือกอาชีพทนายความอีกด้วยว่าเธอเองก็เคยมีประสบการณ์ถูกล่วงละเมิดทางเพศมาก่อน และปิดท้ายด้วยการเป็นกำลังใจให้เหยื่อล่วงละเมิดทุกคนลุกขึ้นสู้ ความว่า

“#คดีข่มขืนนางงาม ที่ว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องแล้วมาบอกว่าคดีพลิก

Advertisements

พลิกในความหมายของนิด้าคือเรื่องเอากันไม่เคยเกิดขึ้นนะคะ แต่ในความเป็นจริงแล้วเกิดขึ้นจริง เอากันจริง โดยเราบอกว่าเราไม่ได้ยินยอม ตั้งใจไปถ่ายแบบไม่ได้ไปเอา ทางจำเลยสู้เรื่องว่ามาถ่ายแบบแล้วก็ตั้งใจเอากันด้วย จึงถือเป็นการยินยอม ไม่ใช่การข่มขืน

ประเด็นที่ศาลวินิจฉัยจึงสู้กันแค่ในเรื่องยอมหรือไม่ยอมแค่นั้นเอง ศาลมองว่ายอมก็ยกฟ้อง ศาลมองว่าไม่ยอมก็ลงโทษ ซึ่งในคดีนี้ศาลชั้นต้นให้น้ำหนักไปในทางยอมก็ยกฟ้องไป

ตอนนี้คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ คดียังไม่ถึงที่สุด เพิ่งยื่นอุทธรณ์ไปเมื่อตอนต้นเดือนนี้ จึงพูดอะไรเกี่ยวกับรายละเอียดของคดีมากกว่านี้ไม่ได้เพราะมีเรื่องละเมิดอำนาจศาลอยู่ ติดคุกได้สูงสุด 6 เดือน และสภาทนายความชุดนี้จริงจังเรื่องมรรยาททนายความมากด้วย จึงต้องระมัดระวังให้มากขึ้น

แต่ที่แน่ๆ นิด้าเพิ่งรู้เหมือนกัน ว่ากล้องวงจรปิดมี เพราะในศาลนิด้ารีเควสมากอยากให้เอามาให้เห็นเหตุการณ์แต่ต้น ว่าก่อนเอากันมีที่มาที่ไปอย่างไร เจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ติดตั้งไว้ จึงมาแต่ภาพนิ่งที่อีกฝ่ายถ่ายไว้โดยกล้องถ่ายภาพของตนเอง ซึ่งไม่สามารถเล่าเรื่องราวแต่ต้นก่อนเอาได้ ไม่มีเสียง นิด้าก็เลยไม่สามารถเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้าชัดเจนขึ้นแบบไม่สามารถโต้แย้งได้

ส่วนเรื่องการเรียกค่าเสียหาย เป็นไปตามมาตรา 44/1 เป็นกระบวนการของศาลให้สิทธิผู้เสียหายในคดีอาญาเรียกค่าเสียหายเข้าไปในคดีได้ ไม่เคยเจรจานอกรอบทั้งก่อนศาลมีคำพิพากษาและเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว อีกทั้งค่าเสียหายดังกล่าวไม่มีผลเป็นการแลกกับการถอนฟ้องหรือแถลงไม่ติดใจเอาความคดีอาญาในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ไม่ว่าจะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้หรือไม่ก็ตาม คดีอาญาก็จะดำเนินต่อไป ขอให้รายละเอียดไว้เพียงเท่านี้นะคะ

ต่อมาจะพูดในส่วนของหลักการทั่วไป ในฐานะที่ทำคดีข่มขืนมาพอสมควร และปฏิเสธไปก็พอสมควรด้วยเหตุไม่มีพยานหลักฐานใดเลยมากไปกว่าคำบอกเล่าเพียงอย่างเดียว จะบอกว่าธรรมชาติของคนเอากันคือเอากัน 2 คนไม่ให้คนเห็น ดังนั้นไม่มีทางที่คดีข่มขืนจะหาประจักษ์พยานยืนยันได้ว่าก่อนเอาเหยื่อ จะดิ้นต่อท้องร้องต่อยปากอย่างไร หรือจะทำอะไรหากไม่ยินยอม หรือระหว่างทางเหตุการณ์เป็นอย่างไร

ดังนั้น 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ใช้พยานหลักฐานแวดล้อมทั้งนั้นมาประกอบร่างให้ศาลเชื่อให้ได้ เช่น คนเราเจ็บไข้ได้ป่วยไปหาหมอ จะอยากไปเอากับหมอไหม เป็นนางแบบตั้งใจไปถ่ายแบบส่งงานจะอยากไปเอากับตากล้องไหม หลังเกิดเหตุรีบประพฤติปฏิบัติตัวไปในทิศทางใด เล่าเหตุการณ์ให้คนที่ไว้ใจฟังไหม มีการเรียกเงินเรียกทองให้เข้าใจว่าแบล็คเมล์ไหม

พยานแวดล้อมดังกล่าวจะเป็นคำตอบว่าอาจจะยอมหรือไม่ยอมก็ได้ แต่ทางไหนน่าจะเป็นมากกว่าก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลพิจารณาจากร่างทั้งหมดที่ประกอบขึ้นมาในสำนวนคดีนั้นให้ศาลเห็น

เหยื่อบางคนก็ไม่ได้โชคดีเก็บหลักฐานอะไรไว้ได้มากพอ หรือถูกต้องถูกวิธี ดังนั้นในการทำคดีทั้งหมด คดีความผิดเกี่ยวกับเพศคือยากที่สุดแล้ว แต่ส่วนตัวรับรู้และเข้าใจในความเจ็บปวดของเหยื่อได้เสมอ ดังนั้นคดีประเภทนี้แทบจะไม่เคยปฏิเสธในการว่าความให้เลย แต่อย่างน้อยในสำนวนคดีนั้นจะต้องมีหลักฐานแวดล้อมให้นิด้าพอเชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงประกอบเรื่องราวที่ลูกความเล่า

และถ้าอยู่ในวิสัยที่สามารถช่วยแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในแง่มุมไหนให้ได้ก็จะทำ ที่นี้ก็เหลือแต่ว่าศาลเชื่อไหมแล้ว โดยในคดีอาญาต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นจนปราศจากความสงสัยให้ได้ ศาลจึงจะพิพากษาลงโทษจำเลย โดยสุภาษิตที่ว่า ปล่อยคนชั่วไป 10 คน ดีกว่าเอาคนดี 1 คนเข้าคุก

และผลในการทำคดีข่มขืนมีทั้งคดีที่แพ้และชนะ โดยส่วนใหญ่ก็จะใช้แพทเทิร์นเดียวกันในการทำงาน และตั้งใจที่สุดแล้วในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อทุกคน อีกทั้งยังต้องให้กำลังใจลูกความในการถูกขู่ฟ้องกลับด้วยเสมอในกรณีแพ้คดี นับตั้งแต่เริ่มต้นคดี ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุผลให้เหยื่อที่ถูกข่มขืนกระทำชำเราถูกปิดปากมาแต่ต้น นอกเหนือจากต้องแบกรับกับความเจ็บแค้นและความอับอาย และนิด้าเชื่อว่าเหยื่อเกินครึ่ง เลือกที่จะให้เรื่องนี้ตายไปกับตัวเองโดยไม่ทำอะไรต่อไป

อย่างไรก็ตามในฐานะอาชีพทนายความเรายอมรับทุกคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่ว่าทำคดีแพ้แล้วไม่ยอมรับ

#ทนายความที่ไม่เคยแพ้คดีมีแต่ทนายที่ไม่เคยว่าความ

ไม่เห็นด้วยกับศาลชั้นต้นก็อุทธรณ์ไป ซึ่งคดีนี้เชื่อว่าคงสู้กันไปถึงศาลฎีกา และผลจะออกมาเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับเสมอ เพราะเชื่อว่าทนายความของทุกฝ่ายก็เต็มที่ๆ สุดแล้วในทุกคดีของตน

สุดท้ายนี้ นิด้าในฐานะคนที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศมาหลายครั้งก่อนเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจมาเรียนกฎหมาย เป็นกำลังใจให้เหยื่อที่ถูกข่มขืนกระทำชำเราทุกคน ยืนหยัดต่อสู้ ไม่ว่าจะสู้ในมิติไหนก็ตาม ไม่ว่าสู้แล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ถ้าเชื่อใจ มั่นใจในความถูกต้อง ตั้งใจ จริงใจ ทนายคนนี้ไม่เคยทอดทิ้งลูกความ เคียงข้างเสมอและตลอดไปจนสุดทาง!!!

#ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย”

ทนายนิด้า คดีช่างภาพข่มขืนนางงาม
ภาพจาก : ทนายนิด้า
ทนายนิด้า คดีช่างภาพข่มขืนนางงาม
ภาพจาก : ทนายนิด้า

เรียกได้ว่าเป็นคดีที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับสองเวทีประกวดสาวงามยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ จึงทำให้แฟนคลับสาวงามจากทั้งสองเวทีจับตาดูคดีนี้กันอย่างใกล้ชิด และรอคอยว่าบทสรุปของเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป หากมีประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว เดอะไทยเกอร์จะนำมารายงานให้ทุกท่านทราบในทันที

ทนายนิด้า
ภาพจาก : ทนายนิด้า

ทนายนิด้าแจงคดีช่างภาพข่มขืนนางงาม

ทนายนิด้า
ภาพจาก : ทนายนิด้า
ทนายนิด้าแจงคดีช่างภาพข่มขืนนางงาม
ภาพจาก : ทนายนิด้า
ทนายนิด้า
ภาพจาก : ทนายนิด้า
ทนายนิด้าแจงคดีช่างภาพข่มขืนนางงาม
ภาพจาก : ทนายนิด้า

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button