กลายเป็นดราม่าสำหรับสาววายทันที หลังนักแสดงดัง “ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล” ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นผู้จัดละคร โดยกำลังคุมโปรเจ็กต์ซีรีส์วายเรื่อง Deep Night The Series ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ลงภาพบรรยากาศการแคสติ้งนักแสดงชายใน TikTok tanya_liyah ทว่างานนี้ทำเอาสาววายหลายคนถึงกับสะดุด หลังเจอธัญญ่าใช้คำเรียกนักแสดงชายว่า ผัว-เมีย
ในคลิปวิดีโอต้นเรื่อง สาวธัญญาได้หันมาพูดคุยกับกล้องว่ากำลังคัดเลือกนักแสดงอยู่ โดยแยกเป็นฝั่งผัวกับฝั่งเมีย หากใครถนัดรับบททั้งผัวและเมียก็ให้นั่งตรงกลาง แต่ทั้งนี้ในคลิปก็ได้มีการชี้แจงไว้ด้วยว่าจะขอใช้คำว่าผัวเมีย แทนคำว่าพระเอก-นายเอก เพราะเป็นคำง่าย ๆ แล้วก็อยากให้บรรยากาศการแคสติ้งผ่อนคลายมากขึ้น
@tanya_liyah แคสนักแสดงซีรี่ย์วายเรื่อง Deep night the series วันแรก..เมาผู้ชายมากค่ะ😂😂 #ธัญญ่า #ธัญญ่าธัญญาเรศ #tiktokคนบังเทิง #ซีรี่ย์วาย #DeepNightCastingByTanya #DeepNightTheSeries
แต่หลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป กลับมีสาววายบางกลุ่มที่ไม่พอใจกับการเรียกนักแสดงว่าผัวเมีย โดยมีการคอมเมนต์ใต้คลิปขอให้สาวธัญญ่าเปลี่ยนมาใช้คำเรียกว่า พระเอก-นายเอก หรือ ใช้คำว่าพระแทนผัวและใช้คำนายแทนเมีย จะเหมาะสมกว่า ซึ่งทางสาวธัญญ่าเองก็เข้ามาขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่ช่วยแนะนำเกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวในสังคม LGBTQ+
ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวไม่ได้หยุดเพียงแค่ในแพลตฟอร์ม TikTok เท่านั้น เมื่อมีผู้ใช้ทวิตรายหนึ่งนำคลิปของสาวธัญญ่าออกมาทวิตพร้อมด้วยแคปชั่น “ใครไม่อึ้งกูอึ้งค่ะ” จึงเหมือนเป็นการจุดประเด็นการใช้คำเรียกคู่พระนายในซีรีส์วายขึ้นมาอีกครั้ง โดยบางคนมองว่าอาจเปลี่ยนไปใช้คำเรียก คู่รัก ตัวละครเอก หรือตัวเอก แบบนี้ยังดูเหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตบางรายก็เข้ามาแย้งว่าควรใช้เรียกผัวเมีย หรือ รุกรับ ให้เป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ได้เป็นการด้อยค่าหรือเป็นคำหยาบคายแต่อย่างใด ความว่า “ผัวกับเมีย รุกกับรับ หรือได้หมด พูดออกมาเลย คำพวกนี้มันไม่ได้ด้อยค่า มันไว้บอกรสนิยม มันไม่ได้หยาบคายด้วย เว้นแต่คุณอายที่จะเรียกตัวเองว่าเมียหรืออายที่จะเรียกตัวเองว่าผัว หรือ รุกกับรับ นั้นคือคุณต้องเช็คแล้วว่าคุณผิดพลาดตรงไหน คุณไม่เคารพรสนิยมตัวเองรึเปล่า บลาๆ”
นอกจากนี้ก็ยังมีชาวเน็ตบางคนมองว่าเป็นเรื่องปกติมากที่จะใช้คำเรียกคู่รัก LGBTQ+ ว่าผัวกับเมีย อีกทั้งในแคสติ้งนักแสดงครั้งนี้ก็ยังแบ่งกลุ่มเป็นคนที่สามารถเล่นได้ทั้งบทผัวและเมีย ซึ่งก็ตรงกับในโลกความเป็นจริงของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศว่าบางคนก็ไม่นิยามตัวเองว่าเป็นฝ่ายใด
สำหรับประเด็นการใช้คำบ่งบอกอัตลักษณ์ทางเพศของ LGBTQ+ นั้นค่อนข้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้แต่คนในคอมมูเดียวกันเองก็อาจมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการยอมรับในตัวตนของบุคคลว่าเขาสะดวกใจจะให้สังคมเรียกแบบไหน ซึ่งในประเด็นนี้ก็คงต้องดูกันต่อไปในระยะยาว
