แนะนำ วิธีกินอาหารเลี่ยงโรคไต ฉบับอัปเดตล่าสุด 2566 สายสุขภาพไม่ควรมองข้าม เพราะโรคไตไม่ใช่เรื่องตลก แก้ปัญหาจากต้นเหตุด้วยอาหารที่ดี
คำกล่าวที่ว่า “You are what you eat” ดูจะกลายเป็นคติเตือนใจของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการรักษาสุขภาพไตให้แข็งแรง เพราะปัจจุบัน โรคไต กลายเป็นภาวะร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก แม้แต่สถิติล่าสุดของคนไทย 2565 พบว่า 1 ใน 25 ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง กลายเป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรายใหม่ มีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะ 3 จำนวน 420,212 ราย ระยะ 4 จำนวน 420,212 ราย และระยะที่ 5 ที่ต้องล้างไตมากถึง 62,386 ราย
ดังนั้นในปี 2566 นี้ Thaiger มีขั้นตอน และวิธีการกิน ที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไต พร้อมแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับวิธีการกินเพื่อหลีกเลี่ยงโรคไต จะมีอะไรกันบ้างตามไปชมกัน
วิธีกินเพื่อหลีกเลี่ยงโรคไต ฉบับคนรักสุขภาพ อัปเดต 2566
รู้จัก โรคไต คืออะไร ?
โรคไต เป็นภาวะที่อวัยวะอย่าง ไต สูญเสียความสามารถในการกรองของเสียในร่างกาย ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดการสะสมของสารพิษ และของเสียในร่างกาย นำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาอย่างมากมาย โดยมีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- โรคเบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจ
- โรคอ้วน
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ประวัติครอบครัว มีคนเคยเป็นโรคไตมาก่อน
อาหาร มีส่วนสำคัญต่อการรักษาโรคไต ?
อาหารและโภชนาการ มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพไตให้แข็งแรง อาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไตและยังสามารถชะลอการลุกลามของโรคไตในผู้ที่มีอาการอยู่แล้ว
อาหารเลี่ยงโรคไตที่ดีที่สุด
อาหารจากพืช
อาหารจากพืชเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพไต มีไขมันอิ่มตัวต่ำและมีไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุสูง อาหารจากพืชที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพไต ได้แก่
- ผลไม้และผัก
- ธัญพืช
- ถั่วและเมล็ด
- พืชตระกูลถั่ว
ลีนโปรตีน
โปรตีน เป็นสารอาหารที่จำเป็น แต่ถ้ามากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อไตได้ แต่ต้แงแน่ใจว่าคุณได้รับโปรตีนเพียงพอโดยไม่ทำให้ไตทำงานหนักเกินไป การรับประทานแหล่งโปรตีนไม่ติดมัน เช่น
- ไก่
- ปลา
- ไก่งวง
- ไข่
- ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ
อาหารโพแทสเซียมต่ำ
โพแทสเซียม เป็นสารอาหารที่จำเป็น แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่เป็นโรคไตได้ ควรรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไตได้ เช่น
- แอปเปิ้ล
- ผลเบอร์รี่
- องุ่น
- กะหล่ำปลี
- กะหล่ำ
- หัวหอม
- ถั่วเขียว
อาหารโซเดียมต่ำ
การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ หรือความเค็มน้อย ๆ สามารถช่วยลดความดันโลหิต และความเสี่ยงในการเกิดโรคไตได้ อาหารโซเดียมต่ำที่ดีที่สุด ได้แก่
- ผักและผลไม้สด
- ธัญพืช
- โปรตีนลีน
- ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ
อาหารที่ควรเลี่ยงกิน เพื่อป้องกันโรคไต
อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปมีโซเดียมสูง สารกันบูด และสารปรุงแต่งอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อไต หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไตได้ เช่น
- อาหารแช่แข็ง
- มันฝรั่งทอด
- แครกเกอร์
- อาหารจานด่วน
อาหารโซเดียมสูง
อาหารที่มีโซเดียมสูงสามารถเพิ่มความดันโลหิตและทำให้ไตทำงานหนักได้ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูงเป็นวิธีที่ดีในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไต เช่น
- อาหารกระป๋อง
- เนื้อสัตว์แปรรูป
- อาหารว่าง
- เครื่องปรุงรส
อาหารโปรตีนสูง
การกินโปรตีนมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อไต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโปรตีนสูง เป็นวิธีที่ดีในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไต เช่น
- เนื้อแดง
- ผลิตภัณฑ์นมไขมันเต็ม
- เนื้อสัตว์แปรรูป
- อาหารว่างที่มีโปรตีนสูง
เคล็ดลับ วิธีกินอาหารเลี่ยงโรคไต
ดื่มน้ำให้มาก
การรักษาความชุ่มชื้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพไต การดื่มน้ำมาก ๆ ตลอดทั้งวันสามารถช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไต
จำกัดปริมาณการบริโภคเกลือ
การจำกัดปริมาณเกลือ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพไต การบริโภคเกลือในปริมาณสูงสามารถเพิ่มความดันโลหิตและทำให้ไตทำงานหนัก แนะนำให้จำกัดการบริโภคเกลือให้น้อยกว่า 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน
รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
การรับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งอุดมด้วยผลไม้ ผัก โปรตีนไม่ติดมัน และเมล็ดธัญพืช เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพของไต การรับประทานอาหารที่สมดุลสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไต และชะลอการลุกลามของโรคไตในผู้ที่มีอาการอยู่แล้ว
ลดปริมาณแอลกอฮอล์
การลด งด เลิก แอลกอฮอล์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพไต การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะไปเพิ่มความดันโลหิต และทำให้ไตทำงานหนัก แนะนำให้จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 1 แก้วต่อวันสำหรับผู้หญิง และ 2 แก้วต่อวันสำหรับผู้ชาย
โรคไตเป็นภาวะร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไต การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมด้วยอาหารจากพืช โปรตีนไม่ติดมัน โซเดียมและอาหารแปรรูปต่ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพของทุกคน ดังนั้นการป้องกันจากต้นเหตุย่อมดีกว่าการรักษาที่ปลายเหตุ จึงขอให้ทุกคนหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อรักษาสุขภาพของตัวเองกันเยอะ ๆ นะ
