จุรินทร์ ต้อนรับ ทูตสหรัฐ และคณะ เดินทางร่วมถกสถานการณ์ทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศ เผยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบ “จุรินทร์” หลัง “ประชาธิปัตย์” ประกาศส่งเป็นแคนดิเดดนายกฯ โดยทั้งสองได้พูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองทั้งในและต่างประเทศกันอย่างชื่นมื่น
ทางพรรคระบุว่า ” ที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานคณะทำงานด้านการต่างประเทศของพรรค ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ และ น.ส. จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันให้การต้อนรับ นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และคณะที่เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์
นายจุรินทร์กล่าวว่า ในการมาเข้าพบที่พรรคครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนประเด็นที่ได้มีการพูดคุยกันนั้น ก็เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ ซึ่งมีความเห็นสอดคล้องต้องกัน พร้อมกับได้เรียนให้ท่านทูตทราบว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ถือว่าสหรัฐอเมริกาเป็นมิตรประเทศที่ดีสุดประเทศหนึ่งของไทยเสมอ ส่วนเรื่องการเมืองระหว่างประเทศนั้น เราถือหลักจุดยืนในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศ เพื่อขับเคลื่อนโลกไปสู่สันติภาพ
“ท่านทูตก็แจ้งให้ทราบว่าท่านสนใจติดตามสถานการณ์ทางการเมือง และเราก็มีท่าทีที่ดีเช่นเดียวกันต่อระบอบประชาธิปไตยที่เราต้องการเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดยืนสำคัญของประชาธิปัตย์คือ เราสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งก็ได้ย้ำไปชัดเจน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังเพิ่มเติมอีกว่า ทูตสหรัฐฯ ได้แจ้งเรื่องทางเศรษฐกิจที่สำคัญด้วยว่า ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ สหรัฐอเมริกา จะนำคณะเอกชนชุดใหญ่ที่สุด มาเยือนประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ กลับทั้งสองฝ่าย
ทางเอกชนอเมริกาให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นพิเศษ ซึ่งตนได้เรียนให้ท่านทูตทราบว่า ประเทศไทยยินดีต้อนรับ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฐานะรองนายกรัฐมนตรี และฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ยินดีต้อนรับ และถ้ามีโอกาสก็จะได้พบปะเจรจาในเรื่องที่จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายต่อไป”
