ข่าวการเมือง

สว.ชงรัฐบาลแจกหัว 500 บาท ไปเลือกตั้งได้เงิน-เห็นด้วยไหม

สมาชิกวุฒิสภาเสนอรัฐบาลแจกเงินหัวละ 500 บาท ค่าเดินทางไปเลือกตั้ง ใช้งบ 2 หมื่นล้านบาท ให้คนไทย 40 ล้านคน รู้สึกประชาธิปไตยกินได้

ภายหลังจากเมื่อวันที่ 23 ม.ค.2566 การประชุมวุฒิสภา ได้มีการพิจารณารายงานการศึกษาแนวทางการส่งเสริมและการพัฒนาการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธาน กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว

โดยเนื้อหาสาระหลังผลการประชุมของ สว. นั้น ได้ลงความเห็นชอบไปในแวทางเดียวกัน กับการเสนอ ให้ กกต. หรือภาครัฐ จ่ายค่าเดินทางผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคนละ 500 บาท

นายวงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี ส.ว. ในฐานะเลขานุการ กมธ. ชี้แจงถึงค่าเดินทางไปเลือกตั้งที่จาดกรายงานต้องใช้งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ถึงสาเหตุที่จำเป็นต้องมีการจ่ายค่าเดินทางไปออกสิทธิ์ออกเสียงก็เนื่องมาจาก การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาพบการซื้อเสียงทุกพื้นที่ อีกทั้งยังทำแบบแยบยลมากขึ้น ปัญหารับเงินซื้อเสียงมาจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ

ดังนั้นจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 40 ล้านคน การให้ค่าเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 4 ปีมีครั้ง เลขานุการ กมธ. จึงมองว่าจะทำให้ประชาชนตอบแทนคุณแผ่นดิน เลือกคนดี ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ทำให้ประชาชนรู้สึกประชาธิปไตยกินได้ ตั้งแต่วันออกมาใช้สิทธิ

ทั้งนี้ ภายหลังการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยไม่มี ส.ว. คนไหนคัดค้านรายงานฉบับดังกล่าว ถือว่าที่ประชุมเห็นชอบ ให้นำเสนอต่อรัฐบาลนำไปพิจารณาต่อไป โดยนอกจากเรื่องของค่าเดินทางไปเลือกตั้ง 500 บ.แล้ว ยังมีประเด็น “แก้ระบบเลือกตั้ง” โดยการเลือก ส.ส.เขตให้ใช้บัตรใบเดียว ไม่ต้องมี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใครได้คะแนนสูงสุดลำดับ 1 เป็น ส.ส.เขต

ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่แพ้เลือกตั้งแต่ได้คะแนนสูงสุดในบรรดาผู้ที่ไม่ได้รับเลือก ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรียงลำดับไปจนครบจำนวนที่กำหนดจะได้ ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อจากผู้ได้รับคะแนนสูงสุดจากประชาชน รวมอยู่ในผลการประชุมวุฒิสภาครั้งนี้ด้วย

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button