แพทย์ทางเลือก คืออะไร มีหัตถการไหนน่าสนใจบ้าง
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วงการแพทย์มีการพัฒนาและแตกแยกสาขาออกไปมากมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อการวินิจฉัยรักษาโรคและพัฒนาเทคนิคการรักษาโรคแต่ละกลุ่ม หนึ่งในนั้นเป็น แพทย์ทางเลือก คือการแพทย์อื่น ๆ ที่มีวิธีการไม่เหมือนกับการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่นำไปใช้เสริมหรือใช้ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันในการรักษาหรือป้องกันโรค หรือแปลได้อีกอย่างว่าเป็นการแพทย์ที่สามารถนำไปใช้ทดแทนการแพทย์แผนปัจจุบันได้นั่นเองค่ะ
แพทย์ทางเลือก คือการรักษาโรคแนวทางใหม่ อีกหนึ่งความก้าวหน้าวงการแพทย์
การแพทย์ทางเลือก (Complementary and Alternative Medicine) คืออะไร
ความหมายของ แพทย์ทางเลือก ในเบื้องต้นสามารถแบ่งได้ตามนี้
- Complementary Medicine – การแพทย์ที่นำไปใช้เสริมหรือใช้ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน
- Alternative Medicine – การแพทย์ที่สามารถนำไปใช้ทดแทนการแพทย์แผนปัจจุบันได้ โดยไม่ต้องอาศัยการแพทย์แผนปัจจุบัน
นอกจากนี้ เมื่อปี ค.ศ. 2005 ยังมีการจำแนกกลุ่มการแพทย์ทางเลือกโดยหน่วยงานจาก National Center of Complementary and Alternative Medicine (NCCAM) ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
- Alternative Medical Systems มีวิธีการตรวจรักษาวินิจฉัยและการบำบัดรักษาหลากหลายวิธีการ ทั้งด้านการให้ยา การใช้เครื่องมือมาช่วยในการบำบัดรักษาและหัตถการต่าง ๆ เช่น การแพทย์แผนจีนโบราณ (Traditional Chinese Medicine) และการแพทย์แบบอายุรเวชของอินเดีย เป็นต้น
- Mind-Body Interventions คือ วิธีการบำบัดรักษาแบบใช้กายและใจ เช่น การใช้สมาธิบำบัด โยคะ และชี่กง เป็นต้น
- Biologically Based Therapies คือ วิธีการบำบัดรักษาโดยการใช้สารชีวภาพ สารเคมีต่าง ๆ เช่น สมุนไพร วิตามิน Ozone Therapy Chelation Therapy หรือแม้กระทั่งการรับประทานอาหารสุขภาพ เป็นต้น
- Manipulative and Body-Based Methods คือ วิธีการบำบัดรักษาโดยการใช้หัตถการต่าง ๆ เช่น การนวด การดัด การจัดกระดูก หรือ Osteopathy Chiropractic เป็นต้น
- Energy Therapies คือ วิธีการบำบัดรักษาที่ใช้พลังงานในการบำบัดรักษา โดยในการบำบัดรักษาอาจสามารถวัดได้หรือไม่สามารถวัดได้ เช่น การสวดมนต์บำบัด พลังกายทิพย์ พลังจักรวาล เรกิ โยเร เป็นต้น
การแพทย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยม ปี 2023
ปัจจุบันมีคลินิกและโรงพยาบาลมากมายที่ให้บริการแพทย์ทางเลือกสำหรับการรักษาโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาการบาดเจ็บ หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยจะเห็นได้จากจำนวนคลินิกที่เปิดให้การรักษาแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น สำหรับการแพทย์ทางเลือกที่น่าสนใจในปี ค.ศ. 2023 นี้จะมีอะไรบ้าง เรามาดูคำตอบด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ
1. การแพทย์แผนจีน
ฝังเข็มสุขภาพ
เป็นการฝังเข็มเพื่อรักษาอาการต่าง ๆ เช่น ฝังเข็มไมเกรน ฝังเข็มนอนไม่หลับ เครียด ฝังเข็มรักษาภูมิแพ้ แพ้ฝุ่น ไซนัสอักเสบ หอบหืด ฝังเข็มออฟฟิศซินโดรม ปวดเมื่อยตามร่างกาย ฝังเข็มโรคหมอนรองกระดูก กระดูกทับเส้น และฝังเข็มข้อหรือกล้ามเนื้ออักเสบ พังผืด เป็นต้น
👉🏼 จองดีลฝังเข็ม คลิก
รมยาสมุนไพรจีน
เป็นการเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเอาชนะโรคต่าง ๆ ได้โดยใช้การกระตุ้นและความร้อนในขีดต่างกันตรงจุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย มีสรรพคุณคือ สามารถให้ความอบอุ่นแก่เส้นลมปราณ เกิดการไหลเวียนของเลือด ขับความชื้นและความเย็นในร่างกาย ลดอาการบวม ให้ความอบอุ่น ลดปวดประจำเดือน โรคประจำเดือนผิดปกติ วัยทอง และช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกายให้ดีขึ้น เป็นต้น
ครอบแก้ว พร้อมเคลื่อนแก้ว
ประโยชน์ของการครอบแก้วใช้ได้ในหลายโรค เช่น ไอ หอบหืด หลอดลมอักเสบ ลมพิษ โรคปวดเมื่อย ไม่ว่าจะปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเข่า เป็นต้น
👉🏼 จองดีลครอบแก้ว คลิก
2. คลินิกเวชกรรมและกายภาพบำบัด
โปรแกรม ดึง ดัด ปรับโครงสร้างกระดูก
เป็นการรักษาด้วยการใช้มือ ดึง ดัด จัดกระดูก และข้อต่อต่าง ๆ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการปรับโครงสร้างข้อต่อกระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นประสาทให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
👉🏼 จองดีลปรับโครงสร้างกระดูก คลิก
โปรแกรมคลายกล้ามเนื้อ แก้ปวดเมื่อยจากการทำงาน
เป็นโปรแกรมเริ่มต้นสําหรับกลุ่มคนวัยทํางาน ที่มีอาการปวดเมื่อยรบกวน มีวิธีการรักษาโดยใช้อุปกรณ์พิเศษคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่มีอาการ เช่น คอ บ่า ไหล่ เป็นต้น
โปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ในผู้ป่วยกลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง,ไขสันหลังบาดเจ็บ,ได้รับบาดเจ็บทางสมอง
เป็นการยืดกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นการสั่งการของกล้ามเนื้อให้กลับมาโดยเร็วที่สุด รวมทั้งฝึกการเคลื่อนไหวบนเตียง และการเคลื่อนไหวที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นการยืนและการเดิน
การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy)
รักษาอาการปวดเรื้อรัง กลไกจะเป็นการใช้พลังงานจากคลื่นกระแทกกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ (Re-injury) ในบริเวณที่อักเสบเรื้อรัง เพื่อตัดวงจรอักเสบเรื้อรังและกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ นอกจากนี้ยังกระตุ้นการหลั่งสารลดปวดทำให้บริเวณที่ปวดดีขึ้นได้
👉🏼 จองดีล Shockwave Therapy คลิก
การรักษาด้วยไฟฟ้า (Electrotherapy)
การกระตุ้นไฟฟ้ากายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เช่น ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ลดปวด ลดบวม คลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นชั้นลึก และช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมแผลให้หายเร็วขึ้น เป็นต้น
3. บำบัดรักษาโดยการใช้สารชีวภาพ
ทำคีเลชั่น (Chelation Therapy)
ช่วยกำจัดสารพิษ และโลหะหนักในเลือด ด้วยการฉีดผ่านเส้นเลือด แล้วขจัดออกทางปัสสาวะ
ดริปวิตามินฟื้นฟูร่างกาย
ดริปวิตามินด้วยสูตรต่าง ๆ ช่วยในการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและรักษาอาการของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด โรคปวดกล้ามเนื้อ อาการเมื่อยล้า และไมเกรน
👉🏼 จองดีล ดริปวิตามิน คลิก
แม้ว่าเราจะทราบกันแล้วว่า แพทย์ทางเลือก คืออะไร อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณาเลือกใช้การแพทย์ทางเลือก ควรคำนึงถึงหลัก 4 อย่างคือ ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย การมีประสิทธิผลหรือมีข้อมูลยืนยันได้ว่าทำแล้วได้ผล และความคุ้มค่า เพื่อไม่ให้เงินที่ใช้ในการรักษาสูญเปล่าหรือทำให้อาการเจ็บป่วยแย่กว่าเดิม ก่อนเลือกเข้ารับบริการ สามารถสอบถามหาคลินิกที่ปลอดภัยหรือใกล้บ้านได้ที่ >>> INBOX <<<
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม