กลายเป็นดราม่าเดือดข้ามประเทศทันที ภายหลังจากที่สื่อใหญ่ประเทศออสเตรเลีย หนังสือพิมพ์ Sydney Morning Herald เขียนบทความวิจารณ์นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา หรือที่รู้จักในชื่อ “หมอเหรียญทอง” เกี่ยวกับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายขวา โจมตีผู้เห็นต่างทางการเมือง
ต่อมาบทความดังกล่าวได้รับความนิยมมากจนถึงเป็นงานที่มียอดผู้อ่านสูงสุดต่อวัน ล่าสุด หมอเหรียญทองได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเตายมฟ้องสื่อดังกล่าว โดยอ้างว่าบทความที่เขียนเป็นเรื่องเท็จ บิดเบือน ทำให้เสียชื่อเสียง
Thaiger จะมาขอสรุปที่มาที่ไปดราม่านี้ว่าหมอเหรียญทองไปมีงิวาทะเดือดข้ามประเทศได้อย่างไร
1. เรื่องราวเริ่มต้นจากเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย. 2565 หมอเหรียญทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เผยว่าตนเองเตรียมตัวเกษียณและย้ายชีวิตบ้านปลายไปอยู่ประเทศออสเตรเลีย คาดจะไปใช้ชีวิต ริมชายทะเลเมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์น
2. เมื่อสื่อหลายสำนักรายงานข่าวนี้ อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รองศาสตราจารย์ประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ได้แสดงท่าทีตอบโต้พร้อมดำเนินการคัดค้านการบ้ายมาอยู่ประเทศออสเตรเลียของหใอเหรียญทองทันที โดยสาเหตุจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองของหมอเหรียญทองที่มีต่อผู้เห็นต่างทางการเมืองและผู้ลี้ภัยทางการเมือง
3. เกิดการเคลื่อนไหวรณรงค์จากกลุ่มฝ่ายซ้ายบางส่วนเพื่อกดดันรัฐบาลออสเตรเลีย ไม่ให่หมอเหรียญทองได้เดินทางหรือมาพักอาศัยในออสเตรเลีย
4. วันที่ 5 ธันวาคม 2565 สื่อหลายสำนักของประเทศออสเตรเลีย นำโดย Sydney Morning Herald และ The Age เขียนบทความถึง พล.ต.นพ.เหรียญทอง อ้างว่าเป็นผู้นำขบวนการล่าแม่มดบุคคลต่างๆ ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือ
5. หมอเหรียญทองหลังจากที่ทราบเรื่องบทความดังกล่าว ก็โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนทนายทั้งที่ไทยและออสเตรเลียให้ฟ้องสื่อเหล่านี้ อ้างว่าบทความที่เขียนเป็นความเท็จ ทำให้เสียชื่อเสียง
“ได้รับคำแนะให้ฟ้อง หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ (Sydney Morning Herald) ของออสเตรเลีย หลังตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของผู้ลี้ภัยทางการเมือง นำโดย นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ล่ารายชื่อ เรียกร้องให้ออสเตรเลียปฏิเสธการเข้าประเทศ
ได้รับคำแนะนำ จากเพื่อนทนายความชาวออสเตรเลีย ให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากกรณีที่ นายคริส บาร์เร็ตต์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ เขียนบทความหมิ่นประมาท ให้ร้าย ใส่ความเท็จ ลงในหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีการเผยแพร่ออกมาในช่วงเช้าของวันที่ 5 ธ.ค. จนกว่าบทความนี้จะถูกถอดถอนอย่างเป็นทางการตามกฎหมาย
บทความข่าวหมิ่นประมาทให้ร้ายดังกล่าวโดย นายคริส บาร์เร็ตต์ นั้น กฎหมายต่างประเทศไม่ได้ให้สิทธิเสรีภาพต่อสื่อสารมวลชนที่จะกระทำการใดตามอำเภอใจ ละเมิดสิทธิโดยการกล่าวเท็จที่ไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้
ตนได้รับคำแนะนำจากทนายความฝ่ายไทย แนะนำให้ดำเนินคดีอาญาต่อศาลไทย ต่อผู้กระทำความผิดทั้ง นายคริส บาร์เร็ตต์ ผู้เขียนบทความ รวมถึง นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์, นายกฤตนัย เทพใส และนายพิศาล ธนถาวรลาภ ที่แสดงความคิดเห็นในบทความดังกล่าว ”
6. หมอเหรียญทองได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า “ฝากบอกนักข่าวฝรั่งหน้าโง่ด้วยว่าผมมีหลายชื่อ
1] ชื่อรัสเซียของผม คือ วลาดิเมียร์ ปูทอง
2] ชื่นจีนของผม คือ สี จิ้นทอง
3] ชื่อเยอรมันของผม คือ รูดอล์ฟ เหรียญ
4] ชื่อไทยของผม คือ พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผู้มีสมญาว่า “ไอ้ตี๋ หัวลำโพง” หรือ “เหรียญทองน้อย ศิษย์หัวลำโพง”
ฝากไปบอกนักข่าวฝรั่งหน้าโง่ หาเรื่องไร้สาระมาเขียนบทความ ไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไร ขอแนะนำให้เขียนเรื่องสร้างสรรค์ “ปฏิบัติการ รพ.สนามพลังแผ่นดินเพื่อมนุษยชาติ” สิโว้ย
วลาดิเมียร์ ปูทอง
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ…จอมโหดของไอ้ฝรั่งหน้าโง่!
5 ธ.ค.65 เวลา 19.31 น.”
7. และโพสต์สุดท้าย ณ เวลานี้มีว่า “โพสต์ก่อนหน้านี้ ผมฝากไปบอกไอ้นักข่าวฝาหรั่งหน้าโง่ว่า ผมมีชื่อรัสเซีย-จีน-เยอรมัน-ไทย ของผม แต่ลึมบอกชื่อ ‘ไทยโบราณ’ ของผมซึ่งมีชื่อว่า ‘ออกหลวงเหรียญสุวรรณ’ ขอรับ
ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไม ‘ออกหลวงอินทรภักดี’ จึงไม่ไว้วางใจไอ้พวกฝาหรั่ง…ขณะนี้ ‘ออกหลวงเหรียญสุวรรณ’ ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน …อาจจะเป็นด้วยสาเหตุที่ผมไม่ใช่ทาสฝาหรั่งกระมังขอรับ
ขอลาไปดู ‘ลายกินรี’ ก่อนนะขอรับ
ออกหลวงเหรียญสุวรรณ
คุณหมอจอมโหดของไอ้นักข่าวฝาหรั่งหน้าโง่
5 ธ.ค.65 เวลา 20.35 น.”
ดราม่าหมอเหรียญทองกับสื่ออสเตรเลียจะจบลงเช่นไรต้องติดตามต่อไป
