ฟุตบอลไทย

งานหนักรออยู่! “ทีมชาติไทย” จ่ออยู่โถ 3 จับสลากคัดบอลโลก 2026

สาวกทัพช้างศึกมีปาดเหงื่อ เมื่อล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ฟุตบอลทีมชาติไทย แทบจะการันตีการอยู่ในโถที่ 3 ในการจับสลาก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก หลังยกเลิกฟีฟ่า เดย์ ของเดือนมีนาคม 2566

อย่างที่ทราบกันว่าศึกฟุตบอลโลก 2026 จะมีการเพิ่มทีมเข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้ายจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีม ทำให้ทวีปเอเชียได้โควต้าเพิ่มจากเดิม 4.5 ทีมเป็น 8.5 ทีม

Advertisements

ส่วนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชียจะมีการแข่งขันในรอบแรก วันที่ 12 กับ 17 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นทีมอันดับ 26-47 ของเอเชียที่ทำการแข่งขัน จากนั้นรอยคัดเลือกรอบ 2 หรือรอบ 36 ทีมสุดท้ายจะเตะนัดแรกวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 โดยที่ทีมชาติไทย ที่อยู่มในอันดับที่ 21 ของเอเชีย (ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565) จะเริ่มลงเล่นในรอบนี้

 

การเตะรอบที่สองนี้จะมีการจับสลากแบ่งสายในเดือนตุลาคม 2566 โดยจะแบ่งเป็น 9 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และคัดเลือกแชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มเข้ารอบ 18 ทีมสุดท้ายเพื่อชิงตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งการจัดสรรทีมวางจากถูกคัดจากอันดับโลก แบ่งเป็นอันดัย 1-8 ของทวีปจะอยู่ที่โถที่ 1, อันดับที่ 9-18 จะอยู่ในโถที่ 2, อันดับที่ 19-27 จะอยู่ในโถที่ 3 และอันดับที่ 28-36 จะอยู่ในโถที่ 4

นั่นหมายความว่า ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันอยู่ในโถที่ 3 จำเป็นต้องทำอันดับโลกขึ้นมาเพื่อขยับไปอยู่ในโถที่ 2 ให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอกับทีมใหญ่อย่าง อุซเบกิสถาน, จีน, จอร์แดน, บาห์เรน, ซีเรีย, ปาเลสไตน์, คีร์กิสถาน, เลบานอน และเวียดนามที่อยู่ในโถที่ 2 (ทีมในโถเดียวกันจะไม่เจอกันเอง)

เดิมที ไทย หวังทำผลงานในเอเชี่ยนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ออกมาให้ดีที่สุด เพื่อเก็บคะแนนสะสมและมีลุ้นขยับขึ้นไปอยู่โถ 2 ทว่าเอเชี่ยนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ถูกเลื่อนออกไปเตะต้นปี 2567

Advertisements

นั่นหมายความว่า ไทย จะหาเกมที่มีคะแนนสะสมเยอะๆ ไม่ได้อีกแล้ว นอกจากอุ่นเครื่องกับทีมที่มีอันดับโลกสูงๆ หลายเท่า แต่ก็เป็นไปได้ยากมากๆ ซึ่งการคิดคะแนนอันดับโลกมีค่าสัมประสิทธิ์แตกต่างกัน ดังนี้

5 – โปรแกรมอุ่นเครื่องนอกปฏิทินฟีฟ่าเดย์
10 – โปรแกรมอุ่นเครื่องในปฏิทินฟีฟ่าเดย์
25 – ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ระดับทวีป
35 – ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย
40 – ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย (ตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไป)

ขณะเดียวกัน จากการประชุมสโมสรสมาชิก ปรับปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลลีกฯ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.65 ปรากฎว่า ทีมชาติไทย ยกเลิกโปรแกรมอุ่นเครื่องในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ เดือน มี.ค.66 เพื่อให้ไทยลีกได้ทำการแข่งขัน

ดังนั้น ทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมให้แข่งขันเหลือเพียงศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 ปลายปี 65 จำนวน 8 นัด (หากเข้าถึงรอบชิงฯ), อุ่นเครื่องในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ มิ.ย.66 จำนวน 2 นัด, อุ่นเครื่องนอกปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ก.ค.66 จำนวน 2 นัด (ถ้ามี), อุ่นเครื่องในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ก.ย.66 จำนวน 2 นัด และอุ่นเครื่องในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ต.ค.66 จำนวน 2 นัด เท่านั้น

สรุปก็คือจากเดิมที่เอเชี่ยนคัพ 2023 รอบสุดท้าย เลื่อนออกไป โอกาสของ ทีมชาติไทย ในการขยับจากโถ 3 ไปอยู่โถ 2 ค่อยข้างยากแล้ว แต่การยกเลิก ฟีฟ่าเดย์ ในเดือน มี.ค.66 ทำให้โอกาสที่ “ช้างศึก” จะขึ้นไปอยู่โถ 2 แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะนอกจากจำนวนแมตช์ที่น้อยลงและตัวคูณคะแนนสะสมไม่สูง อีกทั้งชาติอื่นๆ ก็เตะอุ่นเครื่องด้วยเช่นกัน (มีโอกาสสะสมคะแนนเพิ่มได้อีก) จึงแทบการันตีการอยู่โถ 3 ของ ไทย

นั่นหมายความว่าทัพช้างศึกจะเจอกับงานยากอย่างแน่นอนในการจับสลากแบ่งสาย ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button