อดีตรองผบช.ภ.8 ทำไม ศาลสั่งยึดทรัพย์ 136 ล้าน เปิดปมรวยผิดปกติ ซุกลูกเมีย
ศาลสั่งยึดทรัพย์ 136 ล้าน พล.ต.ท.สมชาย อดีตรองผบช.ภ.8 เปิดปมโดนเอาผิดอ่วม เซ่นกรณีรวยผิดปกติ แอบซุกลูกเมีย
ทำเอาวงการสีกากีมีรอยด่างพร้อยอีกครั้ง หลังจากเที่ยวล่าสุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ออกมาแถลงยึดทรัพย์ พล.ต.ท.สมชาย นิตยบวรกุล หรือ “อ่วมถนอม” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 (รองผบช.ภ.8)
ภายหลังการตรวจสอบพบว่า อดีตรองผบช.ภ.8 มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติจริง ทำให้ต่อมา ป.ป.ช.ได้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวนเอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อยื่นคำร้องให้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ สั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน
กระทั่งต่อมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2565 ความแพ่ง เรื่องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
คดีหมายเลขดำที่ พท 1/2564 คดีหมายเลขแดงที่ พท 1/2565 ระหว่าง อสส. ผู้ร้อง กับพล.ต.ท.สมชายที่ 1 ผู้ถูกกล่าวหา นางเกศินี นิตยากุล ที่ 2 ภริยาผู้ถูกกล่าวหา และ น.ส.ปาณิสรา หรืออัญชิสา นิตยบวรกุล ที่ 3 บุตรสาวผู้ถูกกล่าวหา ผู้คัดค้าน
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวในที่แถลงข่าว โดยศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ 1 ที่เป็นทรัพย์สินในชื่อของผู้คัดค้านที่ 1, ที่เป็นทรัพย์สินในชื่อของผู้คัดค้านที่ 2 และที่เป็นทรัพย์สินในชื่อของผู้คัดค้านที่ 3 ที่ถือครองแทน รวม 136,276,311 บาท
พร้อมด้วยดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตกเป็นของแผ่นดิน และให้ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ส่งมอบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สิน 136,276,311 บาท พร้อมดอกผลตามคำร้องแก่แผ่นดินโดยกระทรวงการคลัง
หากผู้คัดค้านทั้ง 3 ไม่สามารถโอนทรัพย์สินให้แก่แผ่นดินได้ ให้ผู้คัดค้านที่ 1 ใช้เงินจำนวน 136,276,311 บาท หรือให้โอนทรัพย์สินอื่นของผู้คัดค้านที่ 1 ตามสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ขาดอยู่แก่แผ่นดินแทนจนครบถ้วน และหากไม่โอน ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา และให้ผู้คัดค้านที่ 1 ชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้อง จำนวน 10,200 บาท
สำหรับทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย เนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 136,276,311 บาท จำนวน 14 รายการ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวที่ศาลมีคำพิพากษา ตรงกับที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทุกรายการ
รายละเอียด ทรัพย์สินในชื่อ พล.ต.ท.สมชาย อดีตรองผบช.ภ.8 ประกอบด้วย
- ที่ดินโฉนดเลขที่ 37531 พร้อมบ้านพัก หมู่ที่ 7 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 5,600,000 บาท
- เงินฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จังหวัดชุมพร จำนวน 13,361,526 บาท
- ทุนเรือนหุ้น ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ประเภทสามัญ จำนวน 2,000,000 บาท ทรัพย์สินในชื่อนางเกศินี ประกอบด้วย 1.ที่ดินโฉนดเลขที่ 37530 พร้อมบ้านพัก หมู่ที่ 7 ต.หินเหล็กไฟ มูลค่า 4,000,000 บาท 2.ที่ดิน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 3 ก (นส.3 ก.) รวม 10 แปลง ต.ทับใต้ มูลค่า 13,950,000 บาท 3.ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 16167 พร้อมอาคารพาณิชย์ (ตึกแถว 2 ชั้น) ต.ทับใต้ มูลค่า 800,000 บาท
- ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 16171 พร้อมอาคารพาณิชย์ (ตึกแถว 2 ชั้น) หมู่ที่ 2 ต.ทับใต้ มูลค่า 500,000 บาท
- ห้องชุด ชั้นที่ 7 อาคารชุด คอนโดวีว่าคอนโด สาธร ตากสิน แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กทม. มูลค่า 2,705,048 บาท
- เงินฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร จำนวน 54,662,500 บาท
- เงินฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร จำนวน 8,450,000 บาท
- ทุนเรือนหุ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร สมาชิกสมทบ จำนวน 19,233,000 บาท
- สิทธิเรียกร้องในเงินกู้ ระหว่างนางเกศินี ผู้ให้กู้ กับนายนพดล นิตยากุล ผู้กู้ จำนวน 2,100,000 บาท