ข่าวข่าวการเมือง

‘รัชดา’ โพสต์ปม ‘อานุภาพ ธารทอง’ ชี้คุกคามทางเพศ ไม่ควรเป็นเรื่องแค่ในองค์กร

รัชดา รองโฆษกสำนักนายก จากพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ คุกคามทางเพศ ไม่ควรเป็นเรื่องแค่ในองค์กร กรณี อานุภาพ ธารทอง ถูกแจ้งความ

น.ส. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กว่าด้วยเรื่องการคุกคามทางเพศของนักการเมือง กรณีที่ อานุภาพ ธารทอง อายุ 38 ปี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ

น.ส. รัชดา ระบุว่า ขออย่ามองว่าเป็นเพียงเรื่องของการเมือง หรือเรื่องภายในองค์กร และควรจะสร้างไกลกางสังคมและสร้างทัศนคติที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำ “คุกคามทางเพศ ของนักการเมือง (อีกแล้ว) อย่าให้เป็นเพียงเรื่องการเมือง

วันนี้มีคดีกล่าวหาคุกคามทางเพศเกิดขึ้นกับส.ก.พรรคก้าวไกล และหากจำกันได้ ช่วงกลางเดือนของเมษายน ที่ผ่านมา ก็มีเรื่องลักษณะเดียวกันกับอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งนั้นเป็นข่าวกันโด่งดังรายวัน ยาวเป็นสัปดาห์กว่าจะจางลง เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ไม่ว่าจะเป็นการถูกกล่าวหาของคนในพรรคใดก็ตาม และความจริงจะเป็นอย่างไร ที่แน่นอนที่สุดคือ การคุกคามทางเพศ มันเป็นปัญหาสังคม สามารถเกิดได้ในทุกค์องกรและทุกชนชั้น ที่สำคัญ ทั่วโลก! UNWOMEN ได้เคยประมาณการตัวเลขว่า ทุกๆ 1ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลก เคยถูกคุกคามทางเพศ โดยอาจเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ

มันเป็นปัญหาสังคม ที่ผู้คุกคามอาจคิดว่าทำได้เพราะเป็นคนใหญ่โต มีอำนาจ มีชื่อเสียง หลงตัวเอง สำคัญผิดไปเอง หรือบางที ก็อาจอยู่ในสังคมที่ไม่รู้ว่าพฤติกรรมที่เป็นอยู่มันคือการคุกคาม ไม่ใช่เรื่องขำขัน ที่เล่าแล้วสนุกปาก ขณะที่ผู้ถูกคุกคาม หลายครั้งอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถจะนำตัวเองหลุดพ้นมาได้ เช่นการถูกคุกคามจากผู้มีอำนาจ เจ้านาย หรือสภาพแวดล้อมที่ต้องจำยอม แต่ก็มีบางครั้งที่ไม่กล้าทั้งๆที่จะกล้าก็ได้ หรือทนยอมๆมันไป จะได้ไม่มีปัญหา..

สังคมที่ไม่ได้ถูกหล่อหลอมให้คนเข้าใจคำว่าเคารพในเนื้อตัวผู้อื่น เคารพในศักดิ์ศรีตนเอง เคารพในการการตัดสินใจ และกระบวนการลงโทษทางกกฎหมาย การลงโทษทางสังคมที่เบาเหลือเกินกับคนไม่ดี เราก็จะเห็นคนมีเงิน มีอำนาจ มีกำลัง รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าอย่างไม่จบสิ้น

เมื่อครั้ง ที่เป็นประเด็นกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคน้อมรับเสียงตำหนิ และจะแก้ไขในส่วนที่เป็นข้อบกพร่อง และได้หยิบยกเรื่องนี้ว่า ขออย่ามอง การคุกคามทางเพศ เป็นเรื่องแค่ภายในองค์กร เพราะมันใหญ่โตกว่านั้น แต่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในองค์กรไหน องค์กรนั้นก็ต้องรับผิดชอบในขอบเขตที่จะทำได้ แต่สังคมต้องไม่จบแค่การออกมาจับจ้องเป็นเคสเดียวแล้วจบกันไป แต่ควรถือเป็นความรับผิดชอบที่เราต้องช่วยกันสร้างทัศนคติให้ถูกต้อง สร้างกลไกทางสังคม เพื่อป้องกันไม่ให้คนใกล้ตัวเราต้องตกเป็นผู้เสียหาย หรือตัวเราเป็นผู้ไม่หลงผิดประพฤติตัวคุกคามผู้อื่น ..ย้ำกันไว้นะคะ ไม่ว่าเราจะอาชีพใด มียศฐานบรรดาศักดิ์ใด ก็คุกคามผู้อื่นไม่ได้ เพราะมันผิดกฎหมาย”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button