เช็กด่วน!! 8 อาการโควิด โอมิครอน ร้ายกาจยิ่งขึ้น ติดง่ายกว่าเดิม อึดถึกทนจนเราต้องระวังตัวให้รัดกุม วันนี้ทีมงาน The Thaiger ประเทศไทย จะพาผู้อ่านทุกท่านไปดูกันว่าอาการโควิด โอมิครอน นั้นมีอะไร และสามารถป้องกันอย่างไรได้บ้าง พร้อมอัปเดตข่าวโควิดล่าสุด
อัปเดตยอดผู้ติดเชื้อโควิด ล่าสุด
อัปเดตยอดผู้ติดเชื้อโควิด ล่าสุด วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565 เวลา 12.30 น. สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ
อัปเดตยอดผู้ติดเชื้อโควิด ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
ผู้ป่วยรายใหม่ 27,024 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,227,545 ราย หายป่วยแล้ว 1,017,558 ราย เสียชีวิตสะสม 2,881 ราย
อัปเดตยอดผู้ติดเชื้อโควิด ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563
ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,450,980 ราย หายป่วยแล้ว 3,186,052 ราย เสียชีวิตสะสม 24,579 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 23 มีนาคม 2565 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 127,862,740 โดส
อัปเดตยอดผู้ติดเชื้อโควิด วันที่ 23 มีนาคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน
เข็มที่ 1 จำนวน 71,997 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 19,010 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 113,164 ราย
8 อาการโควิด โอมิครอน เช็คให้ไว อาการนี้ติดหรือยังนะ ?
โควิด โอมิครอน คืออะไร ?
ก่อนที่เราจะไปดูอาการโควิดโอมิครอน กันนั้น ก็ต้องมารู้จักกับโควิด โอมิครอนกันซะก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ให้มากขึ้น นั่นเอง
เชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (B.1.1.529) เชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นสายพันธุ์ระดับที่น่ากังวล (Variants of Concern: VOC) สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด ถูกพบครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้ในปี 2021 ปัจจุบันพบว่ามีการระบาดแล้วในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
เชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ มีต้นกำเนิดมาจาก SARS-CoV-2 ที่เป็นตัวก่อโรคโควิด-19 โดยเชื้อได้กลายพันธุ์เป็น โควิดสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่มีตำแหน่งการกลายพันธุ์ของยีนมากถึง 50 ตำแหน่ง ชี้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงที่จะทำให้คนที่เคยติดเชื้อ สามารถกลับมาติดซ้ำได้อีกรอบ
นอกจากนี้ยังพบการกลายพันธุ์ที่ส่วนตัวรับ (Receptor-binding Domain) ซึ่งเป็นส่วนที่ไวรัสใช้จับยึดกับเซลล์ของมนุษย์มากกว่า 10 ตำแหน่ง ในขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา (Delta) มีการกลายพันธุ์ในส่วนนี้เพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งจะทำให้อาจหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าจะเป็นภูมิจากวัคซีนแล้วก็ตาม
ความน่ากลัวของโควิดโอมิครอน นั่นก็คือผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน เบื้องต้นยังสามารถได้กลิ่น ลิ้นรับรสได้ดี ไม่ค่อยมีไข้ ในบางรายไม่แสดงอาการใด ๆ เลยเป็นเหตุให้ผู้ที่มีเชื้อแต่ไม่รู้ตัว ออกไปชใช้ชีวิตตามปกติ แล้วส่งต่อเชื้อไปยังบุคคลอื่น ๆ ต่อได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการเฝ้าดูอาการ อาการโควิดโอมิครอน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราเอง และคนรอบข้าง
เช็คด่วน 8 อาการโควิด โอมิครอน อาการอย่านี้ใช่ใช่มั้ย ?
1. ไอ อาการโควิด โอมิครอน
อาการ ไอ เป็นหนึ่งในอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด 19 เนื่องจากเชื้อไวรัสตัวนั้นนั้นติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจ ทำให้เชื้อไวรัสส่วนใหญ่ไปอยู่ที่บริเวณลำคอซึ่งเป็นทางผ่านของอากาศ ส่งผลให้เกิดอาการคันคอ จนต้องมีการไอออกมาเป็น เป็นระบบสัญชาตญานของมนุษย์นั่นเอง โดยบางคนนั้นอาจมีอาการไอฉับพลันอย่างต่อเนื่อง
2. เจ็บคอ อาการโควิด โอมิครอน
เหตุผลเดียวกับอาการไอเลยคือการที่เชื้อไวรัสเดินทางเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ โดยมีคอเป็นตัวเชื่อม ทำให้เชื้อเข้าไปแทรมซึมผ่านกล่องเสียงเกิดเป็นเสมหะ และอาการไอ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเจ็บคอนี้เช่นกัน
3. มีไข้ อาการโควิด โอมิครอน
มีไข้ หรือตัวร้อนจัด เป็นอีกหนึ่งอาการที่ยังคงอยู่ตั้งแต่เชื้อไวรัสโควิด 19 เดิม เป็นอาการเบื้องต้น ของคนที่ติดเชื้อ ในผู้ป่วยบางรายอาจถึงขั้นรุนแรงขนาดที่มีอาการช็อกได้ ในบางครั้งผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัว เพราะมีไข้คลายกับเป็นไข้หวัดทั่วไป การที่อุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.8 องศาเซลเซียส
4. ปวดกล้ามเนื้อ อาการโควิดโอมิครอน
อาการปวดกล้ามเนื้อนี้ จะไม่เหมือนกับการปวดกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย หรือทำงานหนักแบบทั่วไป เพราะจะเป็นการปวดกล้ามเนื้อที่มีความอ่อนเพลีย ร่างกายเหนื่อยล้า เป็นความรู้สึกที่ผิดปติอย่างชัดเจน ในบางรายนั้นถึงขนาดที่ไม่สามารถลุกขึ้น หรือหยิบจับสิ่งของได้เลย
5. มีน้ำมูกอาการโควิดโอมิครอน
เป็นอาการที่มักจะมาพร้อม ๆ กับมีไข้ เป็นอาการที่เสี่ยงแพร่เชื่อพอสมควร เพราะน้ำมูกและเสมหะนั้น เป็นแหล่งรวมเชื้อไว้รัสไว้มากมายที่ร่างกายกำจัดออกมาในรูปแบบของสารคัดหลั่ง เมื่อสั่งน้ำมูกออกมาแล้วไม่ได้รับการกำจัด หรือฆ่าเชื้อที่ถูกวิธี ก็มีโอกาสที่เชื้อโควิดโอมิครอน จะแพร่กระจายต่อไปได้
6. ปวดศีรษะ อาการโควิดโอมิครอน
เป็นอีกหนึ่งอาการเฉียบพลันที่จะมาควบคู่กับการมีไข้ นั่นคืออาการปวดศรีษะ ในบางรายอาจมีอาการปวดขั้นรุ่นแรงจนต้องเข่ารับการรักษาอย่างด่วนที่สุด
7. เสียความสามารถในการได้กลิ่น / รส
การสูญเสียความสามารถดังกล่าว คืออาการที่ชัดเจนของผู้ป่วยโควิด-19 เพราะเชื้อไวรัสจะไปทำลายระบบรับสัมผัสในร่างกายมนุษย์ ส่งผลให้ประสาทรับรู้รส และกลิ่นนั้นเสื่อมสภาพไปในที่สุด แต่หลังจากหายดีแล้วร ระบบรับสัมผัสทั้งหมดจะค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติดังเดิม
8. หายใจลำบาก อาการโควิดโอมิครอน
อาการหายใจลำบาก เป็นสัญญาที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับผู้ป่วยโควิดโอมิครอน เพราะเนื่องจากหมายถึงเชื้อไวรัสได้ลงปอดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในกรณีนี้นั้นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร็วที่สุด ก่อนที่เชื้อจะเข้าไปทำลายปอด ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ในผู้ป่วยบางราย อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมาเสริม
ในปัจจุบันมีรายงานผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์โควิดโอมิครอนนี้แล้ว ถึงแม้ว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจะมีอาการไม่รุนแรงหรือหรือในบางรายอาจไม่มีอาการเลย แต่ก็ยังควรต้องเฝ้าสักเกตุ อาการโควิดโอมิครอน และดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์นี้อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และใครที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แนะนำให้รีบไปรับวัคซีนป้องกันโควิดโดยเร็ว
เรื่อง : สิทธิโชติ ลังกากาศ
บรรณาธิการ : ทศพล ถิรเจริญสกุล
- ใกล้ล้มละลาย? Sberbank อ่วม! เตรียมถอนตัวจากยุโรป หลังถูกคว่ำบาตรเละ
- รัสเซีย เดินหน้ายิงขีปนาวุธใส่ ยูเครน ต่อเนื่อง เผยเกิดระเบิดสี่ครั้งในเคียฟ (คลิป)
- EU คว่ำบาตรรัสเซีย สั่งอายัดทรัพย์สินรัสเซียใน EU ทั้งหมด
