ข่าวข่าวภูมิภาค

สธ. เผยพบ ผู้ป่วยโควิดเข้าข่าย BA.2.2 แล้ว 4 ราย

หมอศุภกิจ เปิดเผยว่าในขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยโควิดที่เข้าข่าย BA.2.2 แล้ว 4 ราย ชี้ยังยืนยังไม่ได้ว่าโควิดชนิดนี้ ติดเชื้อและเสียชีวิตมากขึ้นหรือไม่

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ออกมารายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 5-11 มี.ค.2565 จำนวน 1,967 ราย

พบว่า เหลือสายพันธุ์เดลตาเพียง 6 ราย คิดเป็น 0.3% ที่เหลือเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 1,961 ราย คิดเป็น 99.7% เมื่อจำแนกสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน ยังไม่พบเจอสายพันธุ์ย่อย BA.3

โดยเจอสายพันธุ์ย่อย BA.1 จำนวน 610 ราย และสายพันธุ์ย่อย BA.2 จำนวน 1,272 ราย คิดเป็น 67.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่พบ 52% เมื่อแยกเฉพาะการติดเชื้อภายในประเทศ 1,383 ตัวอย่าง พบเป็น BA.2 ถึง 971 ตัวอย่าง คิดเป็น 70.2% พิจารณาจำนวน BA.2 รายสัปดาห์พบว่าสัดส่วน BA.2 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีการกระจายทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ

ซึ่งเกือบทุกเขตสุขภาพมีสัดส่วน BA.2 เกินครึ่งหนึ่ง ยกเว้นเขตสุขภาพที่ 1 และ 11 ที่ยังมีสัดส่วนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ย่อย BA.2 เริ่มเบียด BA.1 แล้ว เพราะแพร่เร็วกว่า 1.4 เท่า

สำหรับสายพันธุ์ย่อย BA.2 นั้น พบว่ามีสายพันธุ์ย่อยลงไปอีกทั้ง BA.2.1 , BA.2.2 และ BA.2.3 ซึ่งขณะนี้ GISAID ยังไม่ได้กำหนดชื่อสายพันธุ์ BA.2.2 อย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดอย่างกรณีของ “เดลตาครอน” จากไซปรัสที่เป็นการปนเปื้อนของเชื้อ คาดว่าอีก 2-3 วันน่าจะมีความชัดเจน เบื้องต้นมีการส่งข้อมูล BA.2.2 เข้ามาใน GISAID 68 ราย คือ มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งสไปก์โปรตีน I1221T

โดยข้อมูลที่ซับมิทเข้ามายังน้อยกว่าที่ตรวจพบในฮ่องกงที่พบ 386 ราย และอังกฤษ 289 ราย ซึ่งเป็นคนละสายกัน และยังพบน้อยกว่าสายพันธุ์ย่อยอื่น BA.2.1 จำนวน 532 ราย และ BA.2.3 จำนวน 1,938 ราย

“ส่วนกรณีฮ่องกงที่พบ BA.2.2 และมีปรากฏการณ์พบจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูง ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเกิดจาก BA.2.2 เพราะการเสียชีวิตวันนี้คือการติดเชื้ออย่างน้อย 7-8 วันก่อน หรือเป็นเดือนหากมีการรักษายาวนาน เพื่อยื้อการเสียชีวิต ขณะที่โอมิครอน BA.2 ทั่วไปก็ติดเชื้อเร็วอยู่แล้ว

หากติดเร็วมากและระบบการแพทย์รองรับไม่ได้ ก็อาจทำให้การเสียชีวิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังไม่พบหลักฐานทำให้เกิดพยาธิสภาพที่ปอดมากขึ้นหรือทำลายอวัยวะมากขึ้น จึงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ขณะที่อังกฤษที่พบ BA.2.2 ก็ไม่ได้มีปรากฏการณ์ที่พบติดเชื้อหรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากเดิม” นพ.ศุภกิจ กล่าว

 

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button