ข่าวข่าวธุรกิจเศรษฐกิจ

กรมการจัดหางาน ย้ำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e – Service ภายในวันที่ 17 ม.ค.

กรมการจัดหางาน ประกาศอีกครั้งถึงย้ำเส้นตาย ในการส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e – Service โดยต้องดำเนินการภายในวันที่ 17 ม.ค. 2565

กรมการจัดหางาน, e – Service – (14 ม.ค. 2565) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ตามมติครม. เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 เพื่อให้นายจ้าง/สถานประกอบการที่เสียสิทธิการรับเงินอุดหนุนในงวดเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ได้ส่งข้อมูลเงินสมทบฯ ผ่านระบบ e – Service ของสำนักงานประกันสังคมภายในกำหนด มีโอกาสได้รับเงินอุดหนุนในเดือนธันวาคม 64 และมกราคม 65 ในอัตรา 3,000 บาท ต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน

โดยนายจ้าง/สถานประกอบการจะต้องลงทะเบียนสมัครใช้บริการระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม เมื่อสมัครแล้วจะต้องนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมภายในวันที่ 17 มกราคม 2565 และรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯเพื่อมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล หากสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขภายในกำหนดเวลาจะไม่มีสิทธิรับเงินอุดหนุนดังกล่าว

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า

“สำหรับเงื่อนไขที่ได้รับการพิจารณาปรับเปลี่ยน มีดังนี้

1. นายจ้างที่เข้าร่วมโครงการหากเคยนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 จนถึงก่อนวันที่ 16 ธันวาคม 2564 จะได้รับเงินอุดหนุน จำนวน 2 เดือน (ธ.ค. 64 – ม.ค. 65)

2. นายจ้างที่เข้าร่วมโครงการแต่มีการนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม หลังวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ที่ได้นำส่งข้อมูลฯ ภายในวันที่ 17 มกราคม 2565

จึงจะได้รับเงินอุดหนุน จำนวน 2 เดือน (ธ.ค. 64 – ม.ค. 65) หากปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง และรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ จะมีสิทธิรับเงินอุดหนุน งวดเดือนธันวาคม 2564 และเดือนมกราคม 2565”

 

แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย

สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button