ศบค. ปรับมาตรการเข้าไทย เริ่ม 16 ธ.ค. สกัดโอมิครอน
หมอทวีศิลป์ เผยที่ประชุม ศบค. ปรับมาตรการเข้าไทย เริ่ม 16 ธ.ค. สกัดการแพร่ระบาดของโควิดโอมิครอน เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. เป็นต้นไป
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ออกมากล่าวถึงผลประชุมของ ศบค.ชุดใหญ่ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุม
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับมาตรการเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยปรับนโยบายดังนี้
1. การปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร จากมติ ศบค. วันที่ 26 พ.ย. 64 เนื่องจากการพบสายพันธุ์โอมิครอน และสถานการณ์บางประเทศพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ปรับดังนี้
1.1 การพำนักในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox Programme) และการเข้ากักตัว (Quarantine Facilities) กรณีได้รับวัคซีนปรับจาก 7 เป็น 5 วัน ขอปรับระยะเวลาพำนัก/กักตัว เป็น 7 วันตามเดิม
1.2 การปรับการตรวจหาเชื้อสำหรับ Test and Go และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ปรับจาก RT-PCR เป็น ATK ขอปรับเป็น RT-PCR ครั้งที่ 1 ตามเดิม และยังคงตรวจ ATK ด้วยตนเองครั้งที่ 2
2. การปรับกลุ่มประเภทบุคคล ประเทศ เงื่อนไข และมาตรการเข้าราชอาณาจักร
2.1 การจัดกลุ่มประเภทบุคคล เป็น 6 กลุ่ม ได้แก่
1) Test and Go
2) Sandbox
3) กักตัว
4) ผู้ขนส่งสินค้า ทางบก เรือ
5) ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือ เจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ
6) ผู้มีเหตุยกเว้น หรือได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขเฉพาะ
2.2 การแบ่งกลุ่มประเทศ เป็น 4 กลุ่ม
1) กลุ่มประเทศ Test and Go
2) กลุ่มทุกประเทศ
3) กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ
4) กลุ่มประเทศเสี่ยงสูง
2.3 เงื่อนไขการเข้าราชอาณาจักร : การได้รับวัคซีน, การตรวจหาเชื้อ, ช่องทาง, ระยะเวลาในการนัก/กักตัว การกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
2.4 การปรับเงื่อนไขการเดินทาง Test and Go (จังหวัดที่เดินทางได้) และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (กรณีมีความยากในการกำกับการเข้าออกของคนในประเทศ ให้เน้นย้ำมาตรการ COVID Free Setting)
2.5 การกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง สามารถกักในโรงแรมเดิมได้ ตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด