หมอแล็บ เตือนภัยเงียบยุคดิจิทัล จอประสาทตาเสื่อมก่อนวัย
หมอแล็บแพนด้า โพสต์เตือนภัยเงียบยุคดิจิทัล โรคจอประสาทตาเสื่อม ก่อนวัยอันควร ความเสี่ยงที่มากับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ อาการพบบ่อย แพ้แสง เห็นจุดดำกลางดวงตา
วันนี้ (8 ธ.ค.64) เฟซบุ๊กแฟนเพจ หมอแล็บแพนด้า ออกมาโพสต์เตือนภัยแก่ผู้คนที่กำลังใช้ใชีวิตในโลกยุคดิจิทัลกันอย่างเมามันส์ โดยเฉพาะสายที่เพ่งหน้าจอจนเกินพอดี อาจเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควร
โดยข้อความจากโพสต์ของหมอแล็บฯ ระบุว่า “โรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควร ภัยเงียบที่มากับวิถีชีวิตรูปแบบใหม่”
ทุกวันนี้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัยไปมาก เมื่อก่อนแม่ผมเล่นแต่ไลน์ ตอนนี้จะขอประชุม zoom เรื่องแมวที่บ้านไม่ยอมกินอาหาร 55555 อินเตอร์เน็ตก็มีความไวสูง ทำให้เราต้องใช้ชีวิตติดหน้าจอ เพื่อการเรียน การทำงาน การติดต่อสื่อสาร เล่นโซเชียล ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม หรือค้นหาพิกัดแฟนว่าอยู่ตรงไหน
ทั้งหมดนี้ทำให้เราใช้เวลาบนหน้าจอเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ถ้าเป็นแค่ช่วงสั้นๆก็คงไม่มีผลอะไรมากมายต่อร่างกาย แต่ถ้าเราใช้ชีวิตติดหน้าจอเป็นเวลายาวนาน โรคจอประสาทตาเสื่อมมันจะมาเยือนก่อนเวลาอันควรอย่างแน่นอนครับ นอกจากการติดจอยังมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้จอประสาทตาเสื่อม เช่น อายุ กรรมพันธุ์ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน ตาได้รับแสงแดดอย่างเรื้อรัง สูบบุหรี่ กินเหล้า ขาดอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่
โรคจอประสาทตาเสื่อมนั้นมีทั้งหมด 2 ชนิด คือ
1. ชนิดเปียก หรือแบบเร็ว มักจะสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็วทันที เพราะจุดกลางรับภาพจอประสาทตาบวม มีหลอดเลือดผิดปกติที่งอกขึ้นใหม่ในผนังลูกตา หรือมีเลือดออกที่จอประสาทตา อาจตาบอดได้
2. ชนิดแห้ง เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด โดยเซลล์จอประสาทตาจะค่อยๆ เสื่อมไปอย่างช้าๆ การมองเห็นจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น โอยยย น่ากลัว มีทั้งเปียกและแห้งเหมือนขยะเลยเนาะ
อาการที่มักจะเจอ ได้แก่ แพ้แสง เห็นภาพเบี้ยว ตาพร่ามัว เห็นจุดดำกลางดวงตา เห็นสีผิดเพี้ยน ซึ่งมักเจอในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันเราพบโรคนี้ในผู้ที่มีอายุน้อยลง เนื่องจากการใช้ชีวิตติดหน้าจอที่มากเกินไปยังไงล่ะครับ
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีรายงานการป้องกันโรคนี้อย่างแน่ชัด แต่การพักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะ หมั่นตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ งดการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หมั่นออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือรังสี UV เป็นระยะเวลานาน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ก็สามารถใช้เป็นแนวทางช่วยชะลอการเกิดโรคประสาทตาเสื่อมก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดีครับ
เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่เปราะบางและต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เริ่มต้นดูแลดวงตาวันนี้ ลดความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควรกันดีกว่าครับ
ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลจากโรงพยาบาลราชวิถี โรคจอประสาทตาเสื่อมแม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่สามารถป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้โดย หมั่นตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หรือมีประวัติบุคคลในครอบครัวมีภาวะจอประสาทตาเสื่อม งดสูบบุหรี่ เลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ผักใบเขียว และผลไม้ เป็นต้น จะสามารถป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้