การเงิน

#เรียกเงินคืนโครงการรัฐ เราชนะทำพิษ ผิดเงื่อนไขเรียกเงินคืน ยอดสูงสุด 17 ล้าน

แฮชแท็ก เรียกเงินคืนโครงการรัฐ ทำวุ่น หลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเรียกเงินคืนจากผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าข่ายทำผิดเงื่อนไข โครงการเราชนะ ผู้ค้าหลายพันรายโดนแล้ว

หลังจากก่อนหน้านี้ #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ เป็นที่วิจารณ์จนติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ หลังผู้ประกอบการร้านค้าหลายรายโดนหมายเรียกจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ให้คืนเงินโครงการเราชนะ โดยยอดที่โดนเรียกคืนสูงสุดตอนนี้คือ 17 ล้านบาท

ที่มาของเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีผู้นำหนังสือจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งแจ้งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะให้คืนเงิน ไปโพสต์ไว้บนทวิตเตอร์ เมื่อวานนี้ (10 ต.ค.64) โดยระบุเหตุผลว่า “เนื่องจากทางผู้ประกอบการมีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ และไม่ได้จัดส่งเอกสารชี้แจงโต้แย้งมาภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามความยินยอมที่ได้ให้ไว้ขณะเข้าร่วมโครงการฯ ให้คืนเงินภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือนี้”

ทั้งนี้ หากไม่เห็นด้วย สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วัน โดยหนังสือของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ลงวันที่ 14 กันยายน 2564 ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายก็จะถูกเรียกเงินในจำนวนที่แตกต่างกันไป แต่ที่น่าตกใจ คือ หนังสือของผู้ที่โพสต์รายหนึ่งยอดเรียกเงินคืนสูงสุดถึงกว่า 17 ล้านบาท

สำหรับโครงการเราชนะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมอบเงินเยียวยาจำนวน 3,500 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม รวมเป็นเงิน 7,000 บาท ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์เราชนะ จะไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ แต่ให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สำหรับชำระค่าสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม และบริการต่างๆ

อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ของร้านค้าที่โดนเรียกเงินคืนจะเป็นกลุ่มร้านที่รับแลกเงินสดและร้านค้าออนไลน์

โดยความเห็นในโลกออกนไลน์ก็วิจารณ์กันหลายประเด็น ทั้งเคสแลกเป็นเงินสดก็เพราะแต่ละคนมีความจำเป็น บางรายก็มองว่า ที่เข้าข่ายทำผิดกฎ ก็ต้องยอมรับว่าผิด ทว่ากรอบเวลาในการคืนเงิน ภายใน 30 วัน หลายคนก็มองว่าเป็นกรอบเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป

 

ภาพ : ทวิตเตอร์ @Gulfsensei

อ่านข่าวเพิ่มเติม :

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button