พงศกร แปยอ ผงาดคว้าทองที่ 3 ให้ตัวเองในศึก พาราลิมปิก เกมส์ จากที่ วีลแชร์เรซซิ่ง 800 ม. ชาย คลาส ที53 สปีดเข้าเส้นชัยด้วยสถิติ 1.31.07 น. ทำลายสถิติพาราลิมปิกเกมส์ที่ หลี่ หูเสา จากจีนทำเอาไว้ในพาราลิมปิกเกมส์ปี 2008 และเป็นสถิติสูงสุดของนักกีฬาพาราไทยที่สามารถคว้า เหรียญทอง ถึง 3 เหรียญ
ด้านเหรียญเงินเป็นของ เบรนต์ ลากาตอส จากแคนาดา ทำเวลา 1.36.32 น. เหรียญทองแดง ปิแอร์ แฟร์แบงค์ จากฝรั่งเศส ทำเวลา 1.39.67 น. ส่วนสองนักกีฬาไทย พิเชษฐ์ กรุงเกตุ ทำเวลา 1.40.09 น. จบอันดับ 5 และ มะสบือรี อาแซ ทำเวลา 1.42.09 น. จบอันดับ 7
จากผลงานอันยอดเยี่ยม ของ เจ้ากร พงศกร แปยอ ยอดนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง วัย 24 ปี จากจังหวัดขอนแก่น ซึ่งคว้ารวม 3 เหรียญทอง ในการแข่งขันวีลแชร์เรซซิ่ง ระยะ 100 ม. / 400 ม. /800 ม. คลาส ที 53 ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักกีฬาคนพิการคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทย ที่คว้าถึง 3 เหรียญทอง ใน พาราลิมปิก เดียว พร้อมกันนี้ พงศกร ยังกลายเป็นนักกีฬาคนพิการไทย ที่จะได้รับเงินโบนัสอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมากที่สุดในทีมชุดนี้ ด้วยจำนวน 21,600,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ของกองทุนฯ ที่จะมอบให้กับนักกีฬาคนพิการในอัตรา เหรียญทอง ละ 7,200,000 บาท
หลังเกม พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย เจ้าของ 3 เหรียญทอง “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” เปิดใจว่า มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ที่คว้าเหรียญทอง ในรายการ 800 ม.มาครองได้อีกเหรียญ และเป็นเหรียญที่ 3 ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าก่อนมาผมไม่ตั้งความหวังไว้ว่าจะได้มากขนาดนี้ เพราะก่อนมาผมตั้งเป้าหมายไว้แค่ต้องการเหรียญทอง และขอทำลายสถิติโลก รายการ 400 ม. ซึ่งเป็นรายการความหวังของผมแค่นั้นก็พอ แต่มาได้ถึง 3 เหรียญทองต้องบอกว่ามั่นคุ้มค่ามากๆ กับการฝึกซ้อมมานานเป็นปี
“การฝึกซ้อมที่ยาวนานต่อเนื่องทำให้ผมมีความรู้สึกอัดอั้นมากๆเพราะฝึกซ้อมอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปแข่งขันในรายการต่างประเทศเลยในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่ามีความกระหายอยากที่ลงแข่งขันและอยากชนะในทุกๆ รายการที่ลงแข่งขัน ทำให้ครั้งนี้เลยมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าทุกครั้ง แต่อย่างไรก็ดีคนที่ทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้คือ โค้ช,พี่ๆ น้องๆ ทีมวีลแชร์เรซซิ่ง รวมถึงครอบครัวผม ที่เป็นกำลังใจให้กับผมมาตลอด และที่ขาดไม่ได้คือ สิงห์ คอร์เปอชั่น พาราลิมปิกไทย, สมาคมกีฬาคนพิการฯ รวมไปถึงแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้พวกเรามาตลอด”
