ข่าวดารา

แพนเค้ก เขมนิจ เล่าถึงวันที่ติดโควิด กลัวมาก ทรมานมาน

แพนเค้ก เขมนิจ และ แม่หน่อย เล่าถึงวันที่ติดโควิด กลัวมาก ทรมานมาน เผย ห่วงคุณแม่มาก แต่ยังโชคดีที่ได้อยู่ด้วยกัน

ทำเอาหลายๆคนเป็นห่วงกันสุดๆ และคงอยากถามถึงอาการของสาว แพนเค้ก เขมนิจ ที่รักษาตัวจากเชื้อโควิดอยู่ในโรงพยายบาล 14 วัน จนหายและกลับบ้านได้ ล่าสุด สาวแพนเค้ก และคุณแม่หน่อย ได้ออกมาเล่าเรื่องราวระหว่างที่อยู่ในโรงพยาบาล ผ่านรายการ คุยแซ่บShow ที่เพิ่งออกอากาศไป แถมยังเผยว่าช่วงเวลานั้ง ทั้งกลัวมาก และทรมานมาก

ถ้าหากถามถึงอาการ เธอก็ได้ตอบว่า อาการล่าสุดได้เอกซเรย์ปอดไป คุณหมอบอกว่าปอด หายเป็นปกติแล้ว คือหายแล้วแต่อาจจะมีเอฟเฟกต์คืออาจจะเพลีย อาจจะเหนื่อยง่าย ซึ่งอาการเหล่านี้ยังเป็นอยู่ ซึ่งมันจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู อาจจะทำอะไรหักโหมเหมือนเดิมไม่ได้ ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆไป และต้องคอยบริหารปอดให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ต้องคอยบริหารปอด เหมือนการฝึกหายใจ ฝึกเพื่อให้ปอดขยายไม่ให้ปอดแฟ่บ หรือแม้แต่การเดินออกกำลังกายเบาๆ สูดหายใจลึกๆ ทำสม่ำเสมอเป็นประจำ

ในตอนแรก ทุกคนในบ้านจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่มันเร็วมากใช้เวลาแค่วันสองวันเท่านั้นเอง คุณแม่ก็จะมีอาการแปลก คือเวลากลืนอะไรก็ตามจะรู้สึกเหมือนบาดแรงมาก มันผิดปกติ แล้วเสมหะจะมีมูกเลือดออกมาทันที เราก็ตกใจ แต่อาการอื่นๆ ก็ไม่มีอะไร เราไม่ได้มีไข้สูง มารู้อีกทีตอนลูกสะใภ้เช็กแล้วทราบว่าเป็น

สาวแพนเค้กยังเล่าอีกว่า อาการของคนในบ้านจะคล้ายๆ กัน แต่ของน้องสะใภ้จะไม่ได้กลิ่น คือฉีดน้ำหอมแล้วก็ยังไม่ได้กลิ่น ดมก็แล้ว ทาครีมก็แล้วก็ยังไม่ได้กลิ่น เขาก็เลยคิดว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็น เขาก็เลยรีบไปตรวจ พอรู้ผลคนที่อยู่ใกล้เขาก็ต้องไปตรวจ

ถามถึงความรู้สึกตอนเข้าโรงพยาบาล เธอก็เล่าว่า พอเข้าห้องแล้วก็ไม่ได้ก้าวออกมาอีกเลย อยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยมตรงนั้น แต่โชคดีที่ได้อยู่รวมกัน เพราะตอนนั้นห้องก็มีจำกัดมาก แล้วเราเป็นครอบครัว ก็เลยได้อยู่ร่วมกัน แพน แม่ แล้วก็น้องสาว ก็เลยอยู่ด้วยกันคุณหมอบอกว่าเชื้อโควิดมันไม่แน่นอน ตอนเราไปเราอาจจะดูปกติดี แต่พอปลายๆ อาทิตย์มันอาจจะมีอะไรแทรกซ้อนเข้ามา ที่ทำให้เราทรุดลง ซึ่งเราก็ต้องดูอาการตัวเองตลอดเวลา แล้วก็ห่วงคุณแม่ แม่จะพูดแต่ว่าแม่โอเค กินข้าวกินยานอน แต่ก็จะคอยสังเกตว่า คุณแม่ไข้ขึ้นไหม ออกซิเจนปกติไหม ความดันโอเคหรือเปล่า

ถามว่ากลัวไหม มันกลัวอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าตอนนั้นอยู่ในการกำลังรักษา ก็ต้องรีบพยายามฟื้นตัว และทำตัวเองให้แข็งแรงให้เร็วที่สุด เพราะก็ไม่รู้ว่าเราจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ จะดีขึ้นไหม หรือปอดเราจะแย่ลงหรือเปล่า ซึ่งเราก็ตอบไม่ได้ และคุณหมอก็ไม่ได้มีเวลามาตอบเราว่ากี่วันหาย เราไม่รู้ตรงนั้น มันอยู่ที่ตัวเราที่จะต้องรีบทำตัวให้แข็งแรงให้เร็วที่สุด

มีชอตที่เราพีก คือกลางคืนคุณหมอมาปลุกเพื่อฉีดยาด่วนให้แพนกับคุณแม่ คือคุณหมอบอกว่าเขาได้ดูผลเอกซเรย์ แล้วเห็นว่ามันมีจุดที่น่ากลัวมาก ในลิ่มเลือดตรงนั้น ซึ่งก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้เลย ตอนที่ฉีดเข้าสะดือตอนนั้นกลัวมาก แต่ก็นิ่งมาก ส่วนแพนเขาก็อยู่ในช่วงงงๆ คุณแม่ก็บอกว่าเราต้องสู้เพื่อให้รอดไปด้วยกันให้ได้ แล้วพี่หมีเขาก็ส่งข้อความมาว่าเขาจะไม่ทิ้งใครไว้ที่นั่น เขาจะเอาพวกเรากลับบ้านให้หมด คือเขาทรมานยิ่งกว่าเรา เราอยู่ด้วยกัน เรายังรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาไม่รู้เลย กับหลวงพ่อก็กำลังบวช ท่านก็กังวลมาก ว่าจะรวบรวมสมาชิกกลับบ้านกันได้มากแค่ไหน

แพนเค้กเสริมว่า มีเฟซไทม์สวดมนต์ ก็เป็นกำลังใจ ให้กันและกัน คือเราอยู่กัน 3 ห้อง แต่คนละฟากคนละตึก จะเห็นหน้ากันได้ก็คือเฟสไทม์อย่างเดียว เราก็สวดมนต์กันไป อย่างน้อยก็ให้เรามีกำลังใจซึ่งกันและกัน คือพอเราก้าวเข้าห้องแล้วเราจะไม่มีโอกาสก้าวออกไปอีกเลย ยกเว้นเปิดประตูไปรับข้าวเข้ามา จนกว่าเราจะหาย

แม่หน่อยเผยว่า ใจทรมานมาก แต่ตอนที่เราอยู่ แม่แพน มิกิ อยู่ในกรุ๊ปเดียวกัน ส่วนหลานอยู่อีกกรุ๊ปหนึ่ง หลานแม่ก็อยู่อีกกรุ๊ปหนึ่ง เป็นเด็กเล็กก็จะอยู่อีกกรุ๊ปหนึ่ง ตอนนั้นที่ป่วยพร้อมกันหมด ใจจะขาด เพราะว่าไม่เคยเป็นอะไรที่เราจะมาเป็นรวมกันขนาดนี้ แต่แม่ก็ต้องทำใจ เมื่อหลานอยู่กับแม่เขาแล้วนั่นก็คือแม่เขา แม่ก็ต้องให้เขาดูแลจนถึงที่สุด ส่วนเราก็ต้องห่วงตัวเรา เพราะเราอยากอยู่กับลูกดังนั้นเราต้องอยู่ให้ได้ และวิธีไหนที่จะทำให้เราอยู่ได้ ก็คือกำลังใจ

ซึ่งสาวแพนเค้กก็บอกว่า อยู่โณงพยาบาลทั้งหมด 14 วัน ตอนที่คุณหมอบอกว่าให้กลับบ้านได้ก็ดีใจมากๆจนกรี๊ดเลย แล้วก็ได้กำลังใจพี่หมีเยอะมากๆ ทั้งซัพพอร์ทตลอดอีกด้วย

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Math Navanarisa

หญิงสาวผู้สนใจคอนเทนต์สายบันเทิง ดารา หนัง ซีรีส์ ไลฟ์สไตล์ ผู้หญิง อัปเดตเทรนด์ที่เป็นกระแสขณะนี้ด้วยเนื้อหาน่าสนใจ เข้าใจง่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button