แก้มกี้ บิวตี้บล็อกเกอร์สาว ชี้แจงประเด็นตรวจโควิดแต่ปกปิดไทม์ไลน์

Vanrasa J.เผยแพร่: 09 เม.ย. 2564 11:54 น.| อัปเดต: 09 เม.ย. 2564 12:40 น.

103 2 minutes read

‘แก้มกี้’ บิวตี้บล็อกเกอร์ โพสต์ชี้แจงประเด็นการตรวจ โควิด แต่ปกปิดไทม์ไลน์ เผย จะปกปิดทำไม ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวโพสต์คลิปว่าไปพื้นที่เสี่ยงมา

แก้มกี้ โควิด – เมื่อวันพุธที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ทางบิวตี้บล็อกเกอร์สาว ‘แก้ม กชวรรณ สัจจา’ หรือ ‘แก้มกี้’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ เผย เจ้าตัวติดโควิด-19 หลังเดินทางไปผับดังย่านรัชดา

ต่อมา (8 เม.ย.) บางสื่อและสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์เรื่องราวของ ‘บิวตี้บล็อกเกอร์’ ท่านหนึ่งบนโลกโซเชียลฯ โดยระบุว่า บล็อกเกอร์คนดังกล่าวเข้ามาตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาล แต่ปกปิดข้อมูล แจ้งว่าไม่ได้ไปเที่ยวผับ หมอจึงให้นอนดูอาการที่แผนกทั่วไป จนผลตรวจจากโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ที่เจ้าตัวได้ไปตรวจแจ้งว่า ‘ติดโควิด-19’ ทำให้สร้างความปั่นป่วนไปทั้งแผนก

ล่าสุด (8 เม.ย.) ทางสาวแก้มกี้ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง โดยระบุว่า

“แก้มขอมาชี้แจงความจริงทั้งหมด ที่เกิดขึ้น เพราะข่าวที่แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง. . . มันกระทบถึงแก้ม และทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวแก้ม

แก้มจะเล่าเหตุกาณ์ เป็นลำดับ อย่างละเอียดต่อจากนี้ให้ฟัง เพื่อปกป้องตัวแก้มเองนะคะ และรบกวน เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ช่วยแก้มแชร์ต่อให้ไปถึงคนที่เข้าใจผิดด้วยนะคะ รบกวนด้วยนะคะ ** หลักฐานใบชี้แจงจากโรงพยาบาล BNH Hospital แก้มแนบไว้อยู่รูปสุดท้ายนะคะ **

1. แก้มไปพื้นที่เสี่ยงมาคือ ผับ TOPONE รัชดา และ ไป คลับที่ชื่อ DUBAI CLUB

2. วันจันทร์ ที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา แก้มได้รับข้อความจากเพื่อนที่อยู่โต๊ะเดียวกันว่า คนในโต๊ะแก้มมีคนติดโควิด หลายคน และบางส่วนเริ่มมีอาการ แต่รอผล

3. หลังจากทราบข่าว แก้มจึงรีบไปตรวจหาเชื้อโควิด ที่ รพ. รามคำแหง เดี๋ยวนั้นตอนนั้น หลังจากรับข่าวทันที

4. เย็นวันจันทร์ที่ 5 เมษายน ผลจาก รพ. รามคำแหง ออกมาว่า “ไม่พบเชื้อ”

5. หลังจากนั้นแก้มก็กลับบ้าน กักตัว เพราะเราคือกลุ่มเสี่ยงอยู่ดี

6. เที่ยงวันอังคารที่ 6 เมษายน ได้ขับรถส่วนตัวไปตรวจโควิด ครั้งที่ 2 ที่ รพ. สมิติเวช เพื่อความชัวร์ เพราะเราเป็นกลุ่มเสี่ยงมาก (มีการทักทาย พูดคุย ดื่มแก้วเดียวกันกับคนที่มีเชื้อ)

7. แต่เนื่องจากผลของ รพ.สมิติเวช ต้องรอนานถึง 24 ชม. แก้มจึงตระเวนหาตรวจโควิด รพ. อื่นๆ ที่ผลออกเร็วกว่า (ร้อนใจ และกังวล จึงไม่สามารถนิ่งนอนใจได้จริงๆ)

8. เย็นวันเดียวกัน (อังคารที่ 6 เมษายน) ก็ไปตรวจโควิด รอบที่ 3 ที่โรงพยาบาลตำรวจ (ทางโรงพยาบาลบอก จะใช้เวลาประมาณ 6-10 ชั่วโมง กว่าจะรู้ผล)

9. ด้วยความที่ตอนนั้นมีไข้สูงแล้ว (37.6 องศา) แก้มเลยเดินทางไปขอแอดมิดรอผล ที่ รพ. BNH (เพราะโรงพยาบาลตำรวจห้องเต็มค่ะ)

10. ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าเราเป็นอะไร ทำไมไข้ขึ้นสูง ทั้งๆที่ผลโควิดออกมาเป็น negative

11. แก้มได้เข้าพบคุณหมอประจำการณ์ และเล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ว่าไป TOPONE และ DUBAI CLUB ที่เป็นสถานที่เสี่ยงมา รวมไปถึงเรื่องที่ ตรวจโควิดมาแล้ว 3 ครั้ง > ครั้งแรกผลออกมาว่าไม่พบเชื้อ และ อีก สองครั้ง ผลยังไม่ออก

12. คุณหมอยังแซวและถามเราว่า ทำไมไปตรวจเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่รออีกสักวันสองวันค่อยตรวจใหม่

13. คุณหมอได้ขอดูผลตรวจจากผลตรวจโควิดครั้งแรก(ของรพ.รามคำแหง) แก้มก็ยื่นใบรับรองแพทย์ที่ได้จากโรงพยาบาลรามคำแหงให้ และเราก็มีการถามย้ำกับคุณหมอว่า ผลมัน 100% ไหม ทำไมเราถึงมีไข้

14. คุณหมออ่านผล และแจ้งกลับมาว่า ผลที่มาจากการตรวจแบบ PCR จะมีความแม่นยำค่อนข้างสูง 98% แล้ว เพราะเป็นการตรวจละเอียด จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผลค่อนข้างตรง

15. คุณหมอ ถามอาการเพิ่มเติม เราแจ้งไปว่า ไม่มีไอ ไม่เจ็บคอ และไม่มีน้ำมูก มีแค่ไข้สูงเท่านั้น

16. คุณหมอจึงสันนิฐานว่า เราอาจจะเป็นไข้อย่างอื่น และยกตัวอย่างให้เราฟังว่า อาจจะเป็น ไข้เลือดออก หรือ ไข้ฉี่หนู และถามเราว่า ได้ไปย่ำเดินบนน้ำที่ไหนหรือเปล่า

17. หลังจากนั้นหมอก็ให้เราแอดมิด เจาะเลือด ตรวจไข้เลือดออก และไข้อื่นๆอีก20 โรค

18. คืนนั้น (อังคารที่ 6 เมษา) เราไข้ขึ้นสูงถึง 39 องศา เราจึงขอยาลดไข้ที่แรงขึ้น แต่คุณหมอแจ้งว่า ให้ไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเป็นไข้เลือดออก อาจจะเกิดเลือดออกในกระเพาะได้

19. เมื่อผลตรวจไข้เลือดออก ออก คุณหมอเข้ามาแจ้งผลกับเราโดยตรงว่า เราไม่ได้เป็นไข้เลือดออก และให้รอฟังผลโควิดจาก อีก 2 รพ. ที่เราไปตรวจ ว่าผลว่าอย่างไร ให้นอนรอดูอาการ

20. เราถามคุณหมอว่า เราควรตรวจโควิดอีกรอบที่ รพ.นี้ไหม คุณหมอตอบกลับว่า ให้รอฟังผลที่ไปตรวจมาจากอีก 2 รพ. ก็พอ ไม่ต้องแล้ว

21. ประมาณ ตี 3 เช้าวันพุธ ที่ 7 เมษายน 2564 แก้มลองโทรสอบถามผลตรวจ แต่ทาง รพ แจ้งว่าไม่สามารถแจ้งทางโทรศัพท์ได้จะต้องเอาสำเนาบัตรประชาชนมาที่ รพ ตำรวจ จึงจะสามารถให้ผลตรวจได้ หลังจากนั้นแก้มก็ให้พี่บุญยืน นำสำเนาบัตรประชาชนแก้ม ไปที่ รพ ตำรวจ เพื่อรับผลตรวจและ ผลตรวจโควิดจากโรงพยาบาลตำรวจได้ออกมา ผลคือ “พบเชื้อ แก้มเป็นโควิด”

22. เรารีบต่อสายตรงหา เพื่อแจ้งผลกับคุณหมอ(ที่รพ.BNH) และได้คุยเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษา และได้ย้ายไปพักในโซนผู้ป่วยติดเชื้อทันที

23. ต้องขอบคุณโรงพยาบาล BNH มาก ที่ดำเนินการย้ายห้องพัก จัดหาห้องให้เรา ได้พักรักษาตัวอยู่ที่นี่ ไม่ต้องเคลื่อนย้ายไป รพ.อื่น ให้ลำบาก เพราะตอนนั้นไข้เราสูงมาก

24. แก้มก็พักรักษาตัวอยู่ที่ BNH และรีบโพสต์ TIMELINE แจ้งถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ลง social ของตัวเอง

25. จนกระทั่ง เช้าวันที่ 8 เมษายน ก็มีคนส่งข่าว ของไทยรัฐ ที่นำแชทจาก คนที่อ้างว่าเป็นพยาบาลในโรงพยาบาล BNH ซึ่งพูดถึงแก้มในทางที่เป็นความเท็จ ไม่ใช่เรื่องจริง

26. แก้มรีบเข้าไปอ่านข่าวตามลิงก์

27. แก้มเสียใจมาก ถึงในข่าวจะไม่ได้ระบุชื่อแก้ม แต่คำว่า “บิวตี้บล็อคเกอร์ ชื่อดัง ที่ติดโควิด” ใครอ่าน ก็เข้าใจว่าเป็นแก้ม ในคอมเม้น ก็พิมชื่อกันชัดเจน

28. ยิ่งแก้มเปิดทามไลน์ มันยิ่งตรงกับสิ่งที่เค้า สื่อสารออกมา

29. ถ้าเป็นพยาบาลในรพ. จริง เราจะยิ่งเสียใจมาก เพราะเค้าไม่มีจรรยาบรรณในหน้าที่เลย เค้ารู้ไม่จริง เค้าเข้าใจผิด แล้วเค้ายังเอาเรื่องความเป็นความตายเรา ไปโพสต์ลงสื่อ

30. สุดท้ายแล้วแก้มอยากถามเพื่อนๆว่า ถ้าในวันนี้แก้มไม่มีหลักฐาน หรือป่วยหนัก จนไม่สามารถออกมารวบรวมชี้แจงได้ ผลกระทบที่ตามมาที่จะเกิดขึ้นกับแก้มจะเป็นอย่างไรบ้าง แก้มจะไม่โทษหรือโกรธคนที่มาคอมเม้นเลยเพราะแก้มเข้าใจว่าเขาก็ตีความจากที่เห็นในข่าวเลยพิมแบบนั้น อันนี้แก้มเข้าใจได้ อยากให้ทางผู้ที่เกี่ยวข้องรับเรื่องตรงนี้ไปปรับปรุงแก้ไขด้วยนะคะ

ในระหว่างนี้แก้มกำลังดำเนินการติดต่อกับทางทีมโรงพยาบาล เพื่อให้ชี้แจงขอเท็จจริงที่เกิดขึ้น และทำความเข้าใจกับบุคลากรท่านนั้น และขอความร่วมมือให้ทางร.พ.ออกหนังสือชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงตามความจริงกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ความเข้าใจผิดนี้ทำให้แก้มได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงและความรู้สึก

ปล. แก้มจะปกปิดทามไลน์ทำไมคะ ทั้งๆที่แก้มก็ได้มีการโพสต์คลิป ผ่านทาง IG ตัวเองไว้อยู่ ว่าแก้มไปพื้นที่เสี่ยงมา ลิ้ง”