ข่าวดารา

ปู แบล็กเฮด เผยข้อความสุดท้าย เนม บิ๊กกัน ยังคงคิดถึงอดีต คิดถึงภาพเก่า ๆ

ปู แบล็กเฮด เผยข้อความสุดท้าย เนม บิ๊กกัน เขายังคิดถึงวันเวลาเหล่านั้น คิดถึงภาพเก่า ๆ ที่เราเคยมีกันมาตั้งแต่สมัยที่อยู่เสม็ด

ปู แบล็กเฮด เผยข้อความสุดท้าย กับเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อไม่นานมานี้ เนม บิ๊กกัน หรือ เนม ครองพงศ์ วัชรานันท์ นักร้องนำวงเฮฟวีเมทัล บิ๊กกัน ได้เสียชีวิต หลังเข้ารับการรักษาอยู่ในห้องไอซียูตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดทางด้าน ปู แบล็กเฮด หรือ ปู อานนท์ สายแสงจันทร์ นักร้องนำวง แบล็กเฮด เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทที่รู้จักและผูกพันกับ เนม บิ๊กกัน ได้ออกมาเผยถึงช่วงเวลาสุดท้ายของเพื่อนคนนี้ และเรื่องราวความทรงจำเมื่อครั้งวันวานที่ทั้งสองเคยมีร่วมกันให้เราได้ฟังว่า

“เนมเสียเมื่อประมาณปลาย ๆ อาทิตย์ที่แล้ว คือจริงๆ เขาเป็นโรคตับอ่อนไม่ผลิตน้ำตาล ฉะนั้นมันจึงคล้าย ๆ กับเบาหวาน และก็ต้องคอยฉีดอีซูลินอะไรต่างๆ ตลอดเวลาคือนานหลายปีแล้วเหมือนกันครับ จนกระทั่งท้ายที่สุดอวัยวะภายในของเขามันก็เริ่มรวนไปเรื่อย ๆ และมันทำให้เขาทรุดจนต้องเข้าโรงพยาบาลในที่สุด ซึ่งทางคุณหมอก็ปั๊มหัวใจไปหลายรอบเหมือนกันครับ ประมาณ 3-4 รอบ ซึ่งรอบสุดท้ายมันก็ประมาณ 24 นาที ที่เขาไม่ได้สติ ไม่หายใจ”

“หลังจากที่ปั๊มหัวใจในรอบนั้นทุกอย่างมันก็ตายหมดแล้ว สมองตาย ขยับร่างกายไม่ได้ แต่ยังลืมตาได้นะครับ เหมือนเขายังรับรู้ ผมกับเพื่อนคนๆ อื่นเลยเข้าไปสวดมนต์ไปให้กำลังใจเขา แต่ในขณะเดียวกันตัวเขาเองก็ไม่สามารถตอบสนองได้นอกจากการหายใจ คือเราจะรู้แค่ว่าถ้าเขาหายใจแรง ๆ คือเขารับรู้ เพราะเขายังลืมตา และเวลาที่เราสวดมนต์เขาก็จะหลับตาน้ำตาไหล แต่พอผ่านมาประมาณ 2-3 วัน เพื่อนเขาก็คงตัดสินใจแล้วว่าไปดีกว่า”

ตัวเราเองรับรู้อาการป่วยของเพื่อนมาตลอดใช่ไหม ?
“เราสนิทกันมากครับ เนมเป็นเหมือนน้องคนสุดท้องในครอบครัวผม เวลามีเรื่องอะไรก็แล้วแต่เราก็จะคอยให้กำลังใจกันเสมอ หรือเวลาเขาเป็นอะไรเขารู้สึกอะไรเขาก็จะนำมาถ่ายทอดสู่ครอบครัวเราเสมอ แต่ก็เป็นมานานแล้วแหละครับ และผมก็คิดว่าเขาคงเหนื่อยมากพอแล้ว”

ก่อนหน้านี้เขาได้มีโอกาสสั่งเสียหรือพูดคุยกับเราเป็นครั้งสุดท้ายบ้างไหม ?
“ครั้งสุดท้ายที่ได้พูดคุยกันหรือส่งข้อความหากันก็คือ “เดี๋ยวรอแป๊บหนึ่ง แข็งแรงขึ้นแล้วจะเข้าไปหา และเรามานั่งสนทนานั่งดื่มนั่งอะไรกันหน่อยนะ” คือเขาดื่มไม่ได้หรอก เขาชอบมานั่งดู แต่ที่สุดแล้วมันก็มีจดหมายที่เขาเขียนเข้ามาคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กผมมากกว่า คือเขาบอกกว่า เอ่อ…คิดถึงความรู้สึกเก่า ๆ คิดถึงความรู้สึกดี ๆ ที่เราเคยมีกันมาตั้งแต่สมัยที่ผมอยู่เสม็ด ตอนนั้นเขาไปตามผมกลับบ้าน หรือแม้กระทั่งตอนที่ผมไปเล่นดนตรีที่พัทยา เขาก็เป็นคนที่ไปหาผมสม่ำเสมอ คือเขายังคิดถึงวันเวลาเหล่านั้น คิดถึงภาพเก่า ๆ ซึ่งตัวผมเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่านั่นจะเป็นข้อความสุดท้ายที่เราได้พูดคุยกัน”

แสดงว่าก่อนหน้านี้เราก็ยังมีความหวังว่าเขาจะกลับมาหายเป็นปกติ ?
“จริง ๆ แล้วมีเพียงร่างกายที่ทรุดโทรมนะครับ แต่เขายังเดินเหินได้ กำลังได้ยังดี ยังคุยสนุกสนานกับเพื่อน เวลาเพื่อนไปเล่นคอนเสิร์ตเขาก็ตามไปดู คือไม่มีวี่แววอะไรบอกได้เลยว่าเพื่อนกำลังจะลา และที่สำคัญคือเขาสู้ กำลังใจเขาดีมาก ๆ ครอบครัวเขาให้กำลังใจ เพื่อน ๆ ให้กำลังใจ”

ปกติแล้วเราไปมาหาสู่กันตลอดไหม ?
“ก็ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันเลยครับ ตั้งแต่สมัยมัธยม คือเราเจอกันเกือบทุกวัน จนช่วงหลัง ๆ นี่แหละครับที่เขาป่วย เพราะผมเองก็งานเยอะเช่นกัน แต่ถ้าหากมีวันว่างหรือมีวาระพิเศษเราก็จะได้เจอกันเสมอ”

ที่ผ่านมาเราเคยแอบทำไว้บ้างไหม ?
“ผมไม่เคยคิดแม้แต่ทำใจเลยด้วยซ้ำไป คือผมคิดอย่างเดียวว่าเดี๋ยวต้องดีขึ้น เพราะใจเขาสู้ เขายังเดินไปไหนมาไหนได้ปกติ ยังมีกำลังใจ ยังไปมาหาสู่เพื่อน ๆ เรียกว่าเป็นมนุษย์สายปาร์ตี้เลยก็ว่าได้ เพราะเขาชอบให้เพื่อน ๆ มาหาที่บ้าน”

มีอะไรที่เราอยากจะทำให้เขาอีกไหม ?
“จริง ๆ เนมกับผมเราเล่นดนตรีด้วยกันมาตลอด ผมเลยคิดว่าสิ่งเดียวที่ผมทำได้ก็คือ เล่นดนตรีไปเรื่อย ๆ และก็บอกเขาเรื่อย ๆ บอกว่าผมทำเพลงเสร็จแล้วนะ”

 

ที่มา : sanook

 

ไทยเกอร์นิวส์

นำเสนออัปเดตข่าวสารบ้านเมือง ข่าวล่าสุด มั่นใจว่าคุณจะทันทุกสถานการณ์ ไม่ว่า สังคมเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง เรื่องร้อนออนไลน์ ดราม่าดารา อัปเดตบันเทิง ซีรีส์ หนัง เพลง ท่องเที่ยว กีฬา ตรวจหวย เลขเด็ด พร้อมเสิรฟ์ทุกเรื่องยาก ๆ ย่อยให้คุณเข้าใจง่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button