สุขภาพและการแพทย์

โควิด-19 1 เม.ษ. ไทยติดเชื้อเพิ่ม 120 สะสม 1,771 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2

สถานการณ์โควิด-19 1 เม.ษ. ไทยติดเชื้อเพิ่ม 120 รวมสะสม 1,771 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2

โควิด-19 วันที่ 1 เมษายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 120 ราย รวมเป็นผู้ป่วยสะสม 1,771 ราย รักษาอยู่ใน รพ. 1,417 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 12 ราย (ที่มา) แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 51 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 1 ราย, สถานบันเทิง 11 ราย, สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 38 ราย และงานบุญมาเลเซีย 1 ราย

Advertisements

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 39 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ แบ่งเป็น เป็นคนไทย 6 ราย, คนไทยที่ไปร่วมพิธีกรรมทางศาสนา ที่อินโดนีเซีย 16 ราย, ต่างชาติ 2 ราย, กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 14 ราย และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย

กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 30 ราย

ผู้เสียชีวิตรายที่ 11 เป็นชาย อายุ 79 ปี อาศัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ไตวายเรื้อรัง มีประวัติเดินทางไปงานแต่งที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 20 มี.ค. ต่อมาวันที่ 23 มี.ค.เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยนอก จนวันที่ 29 มี.ค. เข้ารักษาในโรงพยาบาล พบมีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และมีอาการปอดอักเสบ จนเสียชีวิตในวันที่ 31 มี.ค.

ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 12 เป็นชายไทยอายุ 58 ปี เป็นนักธุรกิจที่เดินกลับจากประเทศอังกฤษ วันที่ 12 มี.ค. มีอาการป่วย เดินทางถึงไทยวันที่ 14 มี.ค. เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เสียชีวิตในวันที่ 31 มี.ค.

ทางศบค. ยืนยันว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่รายงานในแต่ละวันนั้น เป็นตัวเลขที่แท้จริง โดยตอนนี้ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล สามารถตรวจได้วันละประมาณ 10,000 เคส และยังมีอีกหลายแห่งที่สามารถตรวจได้ถึงวันละประมาณ 10,000 เคสเช่นกัน

Advertisements

P. Wanutch

อัพเดททุกความบันเทิง ทั้งไทย ต่างประเทศ K-pop รีวิวหนัง เพลง คอนเสิร์ต พร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและหลากหลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button