พรีเมียร์ลีก

สรุปผล-ไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก นัดที่ 29 ทุกคู่ พร้อมตารางคะแนน – แมนยู, สิงห์ ดุ!

สรุปผล-ไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก นัดที่ 29 ทุกคู่ พร้อมตารางคะแนน – แมนยู, สิงห์ดุ! : พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก ล่าสุด ทุกคู่ ไฮไลท์ลิเวอร์พูล ไฮไลท์แมนยู แมนซิ ไฮไลท์เชลซี

สรุปผล-ไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก นัดที่ 29 พร้อมตารางคะแนน – การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 นัดที่ 29 ลงทำการแข่งขันไปแล้ว 9 คู่ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (คู่สุดท้ายเตะคืนวันนี้) โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้

Advertisements

*คลิกที่ผลการแข่งขันเพื่อชมไฮไลท์*

7 มีนาคม 2563
ลิเวอร์พูล 2-1 บอร์นมัธ
อาร์เซนอล 1-0 เวสต์แฮม
คริสตัล พาเลซ 1-0 วัตฟอร์ด
เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0 นอริช ซิตี้
เซาแธมป์ตัน 0-1 นิวคาสเซิล
วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-0 ไบรท์ตัน
8 มีนาคม 2563
เบิร์นลีย์ 1-1 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
เชลซี 4-0 เอฟเวอร์ตัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
10 มีนาคม 2563
เลสเตอร์ ซิตี้ 4-0 แอสตัน วิลล่า

ตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังผ่านนัดที่ 29

MATCH REPORT

ผีเข้าวิน หงส์ยินดี ! ไฮไลท์ แมนยู 2-0 แมนซิตี้, บรูโน่จ่าย-หมากยิง-น้องแม็กซัดปิดกล่อง

11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

  • แมนฯ ยูไนเต็ด: (GK) เด เคอา, ลินเดเลิฟ, แม็คไกวร์, ชอว์, วาน-บิสซาก้า, เฟร็ด, มาติช, วิลเลี่ยมส์, บรูโน่ แฟร์นันเดส, เจมส์ และ อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล
  • แมนฯ ซิตี้: (GK) เอแดร์ซอน, คันเซโล่, โอตาเมนดี้, แฟร์นานดินโญ่, ซินเชนโก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, กุนโดกัน, โฟเด้น, สเตอร์ลิ่ง และ เซร์คิโอ อเกวโร่

นาทีที่ 10 เรือใบ ได้บุกใส่ก่อน ฟิล โฟเด้น จ่ายมาเสาไกลให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษ แต่งบอลลงแล้วปั่นไปที่เสาสอง แต่ ดาบิด เด เคอา ยังบินปัดออกไปได้หวุดหวิด

นาทีที่ 16 แมนยู ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะสวนกลับเร็วของ เฟร็ด ฝากให้ บรูโน่ ก่อนแทงทะลุช่องต่อให้ แดเนียล เจมส์ หลุดเข้าไปทางฝั่งขวา ซัดมุมแคบ ทว่า เอแดร์ซอน ยังออกมาปิดมุมได้ดี

Advertisements

นาทีที่ 22 เจ้าบ้าน ทำเกมขึ้นมาจากการวางบอลของแดนหลังให้ อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล ดูดบอลลง แล้วยิงทันที โชคยังดีที่ โอตาเมนดี้ ยังบล็อคเอาไว้ได้ทัน

นาทีที่ 27 มาร์กซิยาล มาอีกครั้ง คราวนี้หลุดเข้าเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนเลือกซัดมุมแคบ ทั้ง ๆ ที่ตรงกลางมี บรูโน่ แฟร์นันเดส ยืนโล่งๆ ลูกนี้แฟนผีถึงกับปวดกบาลไปตามๆ กัน

GOAL! นาทีที่ 30 แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ครองบอลน้อยกว่ามาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันเดส ฉวยจังหวะเล่นฟรีคิกเร็ว ยกบอลข้ามแผงหลัง เดอะ ซิติเซ่นส์ ให้ มาร์กซิยาล ได้ซัดตามน้ำบอลพุ่งต่ำๆ ผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูไปเลย เร้ดเดวิลส์ ขึ้นนำแล้ว 1-0

https://www.facebook.com/manchesterunited/photos/a.411767862745/10157391954917746/?type=3&__xts__%5B0%5D=68.ARAj9UdglOXndRpfgUNxkf44TCMSxNw7IVHCia0FUzuy-oizno7Ti06oMNOFlpFg06W8gNgb7r4CRtTEbMt7Jneqns4uE2UqwFcFFeh37M9UUd3XII1pszOSTAWwmwmoKC4p_72ZxVk7OJaJ4Zr614982EU-0IgtOANmawScC4kpxbwh8Ei1L9pTpaHtkzGwahIrox5isbngM31iV5MSACUt9dFZsehukLtXxWIXQ037wboTgHZ5un983LvyDTBO0d564OSalTq4kyzDXU1cdg2NQS1eoQKuo7zw2-Otk-q95tvUKrshjPx-1a-kcHkQa9hkYDXy4IbE1cw&__tn__=-R

 

VAR! ครึ่งหลังเริ่มมาได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น สเตอร์ลิ่ง แทงให้ กุน อเกวโร่ หลุดไปสังหารบอลผ่านมือ นายทวารลามะ แล้ว แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า สุดท้ายอาจารย์ต้องคุยกับทีมงาน VAR ผลปรากฏว่า…ล้ำหน้าจริงๆยูไนเต็ด รอดจากการเสียประตูเร็วในช่วงต้นครึ่งหลังเฉียดฉิว

นาทีที่ 48 เอแดร์ซอน ไม่รู้ไปนึกคึกอะไรในสถานการณ์แบบนั้น เมื่อเจ้าตัวได้บอลคืนหลังจากเพื่อน แต่ดันไปแต่งบอลทั้งๆ ที่มี อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล วิ่งเข้ามาบีบด้วยความเร็ว บอลหลุดไปจะถึง หมาก อยู่แล้ว แต่ยังดีที่ ผู้รักษาประตูสัญชาติบราซิเลี่ยน หวดทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาทีที่ 60 เป๊ป อยู่ไม่ได้ ต้องส่งทั้ง ริยาด มาห์เรซ และ กาเบรียล เฆซุส ลงสนามแก้เกม

นาทีที่ 75 ทีมเยือน น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากจังหวะที่ มาห์เรซ ตัวสำรองครอสเข้ากลางมาถึง สเตอร์ลิ่ง เข้าชาร์จไม่โดน เฆซุส ไปเก็บมาเล่นได้ ก่อนตัดสินใจยิงยัดเข้าไป เด เคอา ยังปัดไว้ทัน!

GOAL! ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+6 ปีศาจแดง มาได้ประตูส้มหล่นปิดท้าย จากจังหวะที่ เอแดร์ซอน พยายามจะขว้างบอลให้เพื่อนเล่นเร็ว แต่น้ำหนักเกินไปเยอะมาก ทำให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ตัดบอลมาได้ ก่อนยิงสวนตูมเดียวอย่างไกล แต่ทิศทางแม่นยำสุดๆ ปิดกล่องให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ ตามตูด “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เพียงแค่ 3 แต้มเท่านั้น!

 

ซาล่าห์-มาเน่ ช่วยซัด ! ไฮไลท์ ลิเวอร์พูล 2-1 บอร์นมัธ, หงส์แดง ฮึดแซงหืดจับ ขออีก 3 นัดแชมป์แล้ว

11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

  • ลิเวอร์พูล: (GK) อาเดรียน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจค์, มิลเนอร์, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, ซาลาห์, ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่
  • บอร์นมัธ: (GK) แรมส์เดล, สเตซี่ย์, สตีฟ คุก, อาเก้, สมิธ, บิลลิ่ง, เลอร์มา, ลูอิส คุก, สตานิสลาส, คัลลัม วิลสัน และ ไรอัน เฟรเซอร์

GOAL! แค่เพียงนาทีที่ 9 เท่านั้น แฟนบอลเจ้าถิ่นช็อกไปตามๆ กัน บอร์นมัธ ได้โต้กลับเร็วจาก ไรอัน เฟรเซอร์ จ่ายให้ วิลสัน วิ่งไปแย่ง โจ โกเมซ จากด้านหลัง ลักษณะเหมือนจะเป็นลูกฟาล์ว แต่ผู้ตัดสินปล่อยเล่นต่อ หลังจากนั้น บิลลิ่ง ส่งต่อให้ เลอร์มา วิ่งเติมมาตบให้ วิลสัน คนเดิมแปง่ายๆ สกอร์เป็น 1-0

นาทีที่ 14 ทีมเยือน ได้ลุ้นอีก จากจังหวะเตะมุม อาเก้ ได้ขึ้นโขกเหน่งๆ ติดซูเปอร์เซฟของ อาเดรียน

นาทีที่ 17 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ เทรนท์ อาร์โนลด์ จ่ายตัดแนวรับ บอร์นมัธ ไปให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลุดไปซัดในกรอบเขตโทษ ทว่า แรมส์เดล ก็ยังเซฟเอาไวได้หวุดหวิด

GOAL! นาทีที่ 25 แจ็ค ซิมพ์สัน สำรองที่เพิ่งลงมาแทน สตีฟ คุ้ก (มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว) ไปเล่นยากในแดนตัวเอง เจอ ซาดิโอ มาเน่ ตัดบอลไปได้ ก่อนจ่ายให้ ซาล่าห์ ที่เติมขึ้นมาทางซ้าย แต่งบอลยิงที่เสาแรกลอดขาแนวรับทีมเยือนเข้าไปเลย ลิเวอร์พูล ตีเสมอเป็น 1-1

GOAL! นาทีที่ 33 บอร์นมัธ พลาดเองอีกแล้วไปจ่ายบอลกันไม่ดีกลางสนาม เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ ตัดบอลได้แล้วแทงให้ มาเน่ ทะลุแนวรับไปดวล 1-1 กับ แรมส์เดล แล้วสังหารเข้าไปสกอร์เป็น 2-1

https://www.facebook.com/ThailandLiverpoolFC/photos/a.242962765861812/1574615862696489/?type=3&theater

ครึ่งหลังมานาทีที่ 60 บอร์นมัธ ได้ทำเกมขึ้นมาบ้าง บิลลิ่ง กระดกบอลข้ามหัวแนวรับ ลิเวอร์พูล แล้วเป็น ไรอัน เฟรเซอร์ หลุดเดี่ยวไปยกข้ามหัว อาเดรียน บอลกำลังจะย้อยข้ามเส้นเข้าประตูแต่… เจมส์ มิลเนอร์ ที่สปีดกลับมาเคลียร์ไว้ได้แบบเหลือเชื่อ!

ช่วงเวลาที่เหลือ ลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นฝ่ายครองบอลบุกอย่างข้างเดียว สุดท้ายหมดเวลา 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิด แอนฟิลด์ เฉือน บอร์นมัธ อย่างเหนื่อย 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 82 แต้ม ทิ้งห่างอันดันที่ 2 อย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็น 25 คะแนน

 

VAR ถูกต้องค่ะ! ไฮไลท์ อาร์เซนอล 1-0 เวสต์แฮม : พรีเมียร์ลีก – โปนนิ่ง ลากายิง

11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

  • อาร์เซนอล: (GK) เลโน่, โซคราติส, ดาวิด ลุยซ์, ปาโบล มารี, ซาก้า, ชาก้า, เซบายอส, โอซิล, เปเป้, เอ็นเคเทียห์ และ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง
  • เวสต์แฮม: (GK) ฟาเบียนสกี้, เอ็นกาเกีย, ดิย็อป, อ็อคบอนน่า, เครสเวลล์, โนเบิ้ล, ไรซ์, ฟอร์นัลส์, โบเว่น, อันโตนิโอ และ เซบาสเตียน ฮัลแลร์

เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที กรานิท ชาก้า ไปออกบอลพลาดในแดนตัวเอง จาร์เรด โบเว่น ขโมยมาตะบันไกลติดปลายมือของ แบรนด์ เลโน่ นิดๆ บอลไปชนเสา อาร์เซนอล เกือบเสียประตูเร็วตั้งแต่ต้นเกม

นาทีที่ 11 ปาโบล มารี ขึ้นมาตัดบอลสูง แต่เจอชิงจังหวะโดนแทงทะลุไปที่ อันโตนิโอ ตบกลับเข้ามาให้ เซบาสเตียน ฮัลแลร์ โล่งๆ ดันยืนตำแหน่งไม่ดี บอลย้อนหลังไป ปืนใหญ่ เกือบเสียประตูอีกแล้ว

นาทีที่ 22 จากจังหวะเตะมุมเร็วของ เจ้าบ้าน – เซบายอส ครอสกลับมาให้ เปเป้ ทางซ้าย ได้แทงให้ โอบาเมยอง หลุดไปสุดเส้น แล้วยกให้ โซคราติส ได้โขกเต็มกบาลบอลชนคานดังสนั่น

นาทีที่ 38 เปเป้ ได้บอลหลุดไปทางฝั่งขวา โชว์สกิลหลอกแบบดิจิตอล หลบ 3 ผู้เล่นของ เวสต์แฮม ไปได้แบบถูๆ ไถๆ แต่ เอ็นเคเทียห์ ดันไปแย่งเล่นทำให้กลายเป็นจังหวะล้ำหน้าไปซะงั้น

นาทีที่ 40 อันโตนิโอ ได้กระชากตรงริมเส้นฝั่งซ้าย หาจังหวะครอสเข้าไปแบบได้ลุ้น โชคยังดีที่ ดาวิด ลุยซ์ โขกทิ้งไว้ได้ทัน และจากจังหวะเตะมุมต่อเนื่อง มาร์ค โนเบิ้ล โยนมาถึงศีรษะของ ดิย็อป บอลหล่นมาถึง อันโตนิโอ ได้พลิกตัวยิงระยะเผาขน…ออกหลัง!

ช่วงท้ายครึ่งแรก อาร์เซนอล ได้ล้นจุดโทษ จากจังหวะที่ โบเว่น โหม่งสกัดไม่ดี บอลเข้าทาง เอ็นเคเทียห์ แตะบอลหนี เอ็นกาเกีย ไปแล้วก่อนทิ้งตัวล้ม ผู้ตัดสินทำสัญญาณบอกลูกนี้ไม่ใช่จุดโทษ สุดท้ายหมด 45 นาทีแรก ปืนใหญ่ เสมอกับ ขุนค้อน 0-0 ต้องไปว่ากันใหม่ในครึ่งหลัง

นาทีที่ 60 ปืน ต้องส่ง ลากาแซตต์ มาแทน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่เริ่มไม่มีบทบาทในเกมรุก

ช่วงนาทีที่ 60-65 ทีมเยือน ทำได้ดีเลยทีเดียว หาจังหวะกดดันใส่ อาร์เซนอล แบบเป็นชุดๆ โดยฝากความหวังไว้ที่จอมแข็งแกร่งอย่าง อันโตนิโอ แต่ก็ยังขาดๆ เกินๆ กันไปเยอะ ทำให้สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0

นาทีที่ 75 เวสต์แฮม น่าได้สุดๆ โนเบิ้ล ยกให้ ฟอร์นัลส์ ได้ยิงกระดอนพื้นไม่ผ่านมือของ เลโน่!

 

VAR! นาทีที่ 78 ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง ที่วันนี้ต้องขยับไปเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้าย ได้ล็อคเข้าขวายิงแฉลบแนวรับของ เวสต์แฮม บอลไปเข้าทาง เมซุต โอซิล จ่อๆ หน้าประตู เจ้าตัวโหม่งกลับเข้ามาให้ ลากาแซตต์ ยิงจ่อๆ ฟาเบียนสกี้ หมดสิทธิ์รับ แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าอย่างน่าเสียดาย

พอดูจากภาพช้าแล้ว ถือว่าก้ำกึ่งสุดๆ ทำให้ผู้ตัดสินต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ในการเช็ค VAR

GOAL! เช็คอยู่ชั่วครู่ ปรากฏว่า ไม่ล้ำหน้า! เท้าของ โอซิล อยู่ในระนาบเดียวกับ อ็อคบอนน่า

ช่วงท้ายเกม เวสต์แฮม พยายามครองบอลกดดันใส่ เดอะ กันเนอร์ส อย่างหนักหน่วง และเกือบได้ประตูจากจังหวจิ้มเผาขนของ ฮัลแลร์ แต่ว่า นายทวารสัญชาติเยอรมัน อย่าง แบรนด์ เลโน่ ก็ยังเป็นฮีโร่ป้องกันเอาไว้ได้อีก ทำให้หมดเวลา 90 นาที ปืนใหญ่ เล่นไม่ดีมากแต่เอาชนะ เวสต์แฮม 1-0 รั้งอันดับที่ 9 ตามหลัง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ไปพลาดท่าเสมอแค่แต้มเดียวเท่านั้น แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button