งูกับเชือกกล้วย ! ไฮไลท์ เชลซี 0-2 แมนยู, VAR ทำพิษสิงห์โดนริบประตู-บรูโน่แอสซิสต์แล้ว
เกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 26 ซูเปอร์บิ๊กแมตช์คืนวันจันทร์ ระหว่าง เชลซี อันดับ 4 เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับอันดับ 9 โดยเกมแรกที่พบกันเป็น ผีแดง ที่เอาชนะได้ 4-0
แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาในระบบ 4-3-3 สามแนวรุกใช้ มิชี่ บาตชูอายี่ ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบหลายปี โดยจะล่าตาข่ายร่วมกับ วิลเลี่ยน และเปโดร โรดริเกซ ส่วนแดนกลางนั้นได้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์มดงานกลับมาประจำการณ์
ส่วนทางฝั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกมนี้ใช้หลัง 3 โดยส่ง เอริค ไบยี่ ที่ลงเล่นเป็นนัดแรกของซีซั่น ยืนร่วมกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ลุค ชอว์ โดยมีตัวปั้นเกมอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่วน โอเดียน อิกาโล่ มีชื่อเป็นตัวสำรอง
เริ่มเกมมา 6 นาทีแรก เชลซี มาได้ลุ้นจากจังหวะที่ มาเตโอ โควาซิซ ป้ายออกขวาให้ รีซ เจมส์ ก่อนจะแต่งเข้าขวาแล้วกด บอลเฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 9 เจ้าบ้านบุกต่อเนื่องจากจังหวะที่ เปโดร จ่ายบอล วิลเลี่ยน ก่อนเลี้ยงจี้แนวรับ ปีศาจแดง แล้วตัดเข้าในและปั่นด้วยซ้ายหวังเข้าสามเหลี่ยมเสาสอง แต่บอลยังโค้งไม่พอ
ถัดมานาทีที่ 12 ลูกทีมของ โซลชา ได้ลุ้นบ้าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส จ่ายให้ เฟร็ด ซัดด้วยหัวเกือกขวาบอลพุ่งไปติดบล็อค อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ออกหลังไป
นาทีที่ 13 งานเข้า เชลซี เมื่อ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวก่อน แลมพาร์ด จะตัดสินใจส่ง เมสัน เมาท์ ลงมาเล่นแทน
ต่อมานาทีที่ 26 เปโดร แทงบอลสวยให้ เมสัน เมาท์ หลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนหักเข้ากลางให้ มิชี่ บาตชูอายี่ ได้แปด้วยซ้าย แต่ยิงหลุดกรอบไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 31 ทีมเยือนตอบโต้ขึ้นมาบ้างจาก แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ จ่ายเข้ากลางให้ บรูโน่ แฟร์นัลด์ส ได้กดด้วยขวา แต่ยังไม่ตรงกรอบ
GOAL !!! แม้ว่า เชลซี จะหาโอกาสได้มากกว่า แต่เป็น แมนยู ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อารอน วาน-บิสซาก้า เติมเกมขึ้นมาฝั่งขวาก่อนหลอกล่อเอาชนะ วิลเลี่ยน และเปิดเข้าเขตโทษให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้โหม่งสะบัดเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม
ช่วงทดเจ็บ นาที 45+4 สิงโตน้ำเงินคราม น่าได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ บาตชูอายี่ ได้ยิงด้วยขวาหลุดกรอบออกไปไม่ได้ลุ้นอีก และหมดเวลาครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ที่ เชลซี ตามหลัง แมนยู 0-1
เริ่มครึ่งหลังมา สิงห์บลูส์ ทำการเปลี่ยนตัวทันที ด้วยการส่ง คูร์ท ซูม่า ลงไปคุมหลังแทน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ที่มีอาการเจ็บ
VAR !!! นาที 55 วิลเลี่ยน ได้เปิดมุมเข้าไป บอลเลยมาถึง คูร์ท ซูม่า ที่เพิ่งลงมาได้ส่งบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินได้รับสัญญานจากห้องควบคุม วีเออาร์ และริบประตูคืน เนื่องจากว่า เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ไปผลัก แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ จากด้านนหลัง ก่อนที่จะมีการทำประตู สกอร์ยังคง 0-1
นาที 64 ปีศาจแดง มาได้ลูกฟรีคิก ระยะน่าลุ้น เยื้องไปทางขวา และเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่รับหน้าสังหาร ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ยังไปชนเสาอย่างจัง
GOAL !!! แฟนผีเฮลั่น เมื่อมาได้ประตู 2-0 จากจังหวะที่ได้เตะมุมฝั่งซ้ายเปิดโดย บรูโน่ แฟร์นัด์ส บอลไปเข้าหัว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เทคตัวโขกเต็ม ๆ ไปที่เสาสองเป็นประตูของทีมเยือน
VAR !!! นาที 77 เมสัน เมาท์ เปิดไปหน้าประตูให้ ชิรูด์ โขกผ่านตัว เด เคอา ไปได้แล้ว แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR ปัดไม่ให้ประตูอีกเนื่องจากเท้าของอดีตหอกปืนใหญ่ล้ำหน้าทำให้ชวดได้ประตูตีไข่แตก ทำให้สกอร์เจ้าถิ่นยังตาม ผีแดง 0-2 เหมือนเดิม
นาที 89 เจ้าบ้านยังชวดได้ประตูตีไข่แตก หลัง เมสัน เมาท์ ซัดฟรีคิกนอกกรอบบอลโค้งข้ามกำแพงแต่ไปชนเสาแรกกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเจ็บ แมนยู ส่งทางด้าน โอเดียน อิกาโล่ ศูนย์หน้าป้ายแดงลงมาเล่นแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แถมมีโอกาสเกือบได้ซัดประตูแรก จากจังหวะจ่ายของ เฟร็ด แต่ยังติดเซฟของ วิลลี่ กาบาเยโร่
หมดเวลา 90 นาทีเป็นเจ้าบ้าน เชลซี พ่ายคาบ้านให้ แมนยู 0-2 ผีแดง เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 38 คะแนน ขึึ้นมารั้งอันดับ 7 และมีคะแนนตามหลัง สิงห์บลูส์ อยู่เพียง 3 คะแนนเท่านั้น
ไฮไลท์ เชลซี 0-2 แมนยู
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (4-3-3) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น (คูร์ท ซูม่า น.46), อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า – เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เมสัน เมาท์ น.13), จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิซ – วิลเลี่ยน, มิชี่ บาตชูอายี่ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.68), เปโดร โรดริเกซ
แมนยู (3-5-2) : ดาบิด เด เคอา – เอริค ไบยี่, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – อารอน วาน-บิสซาก้า, เนมานย่า มาติช ,เฟร็ด, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ – บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ดีโอโก้ ดาโลต์ น.90+2) – แดเนียล เจมส์ (อันเดรียส เปเรยร่า น.80), อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (โอเดียน อิกาโล่ น.90+1)