จำได้ไหม! 10 อันดับการซื้อนักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตลาดเดือนมกราคม
“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากฟอร์มการเล่นผีเข้าผีออก แม้ว่า โซลชา AKA “น้าลูกอม” จะพาลูกทีมกลบคำด่าด้วยการโชว์ผลงานระดับพระกาฬเวลาเจอ “บิ๊ก 6” ด้วยกัน แต่หลังจากที่พวกเขาพ่ายให้กับ อาร์เซนอล 2-0 ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะย่ำแย่อีกครั้ง
เมื่อปรายตามองไปที่บรรดานักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ หลายคนถึงกับต้องเบือนหน้าหนี เพราะไม่เห็นผู้เล่นคนใดที่จะสร้างความแตกต่างให้กับสโมสรได้เลย แถมซูเปอร์สตาร์อย่าง ปอล ป็อกบา ก็ดันมาเจ็บเพิ่มไปอีกเสียอย่างนั้น นี่ยังไม่นับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่อุตส่าห์เร่งฟอร์มขึ้นมาจนยึดตำแหน่งตัวจริงได้ ในขณะที่ ไบญี่, โรโฮ, โฟซูเมนซ่าห์ และ ทวนเซเบ้ ก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับมาลงสนามในเร็วๆ นี้
ณ ตอนนี้ หนทางเดียวที่จะพา เร้ดเดวิลส์ กลับมาสร้างผลงานอันยอดเยี่ยม และดิ้นรนติดอันดับท็อปโฟร์ เพื่อลงเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คงหนีไม่พ้นการเสริมทีมในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม – ถ้าไม่ติดที่ว่าพอเช็คประวัติการเซ็นสัญญาของพวกเขาในหน้าหนาวแล้ว กลับพบว่า มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สร้างอิมแพคกับทีม และกลายเป็นผู้เล่นมหัศจรรย์ใน “โรงละครแห่งความฝัน”
The Thaiger ประเทศไทย ขอพาคุณไปย้อนรำลึกถึง 10 อันดับการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม ใครจะติดใครจะหาย ใครจะกลายมาเป็นนักเตะระดับตำนานของ “ปีศาจแดง” นั่งไทม์แมชชีน ไปดูกันได้เลย!
อันดับที่ 10 – วิลฟรีด ซาฮา
เปิดอันดับที่ 10 ด้วย วิลฟรีด ซาฮา แฟนบอล แมนฯ ยู ก็คงพอรู้ชะตากรรมของทีมตัวเองแล้วว่า ไม่ค่อยมีใครเปรี้ยงปร้างจากการย้ายมาในช่วงมกราฯ เสียเท่าไร! ปีกไอวอรี่โคสต์ คือการเซ็นสัญญาครั้งสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ แต่โชคร้ายเหลือเกินที่พอเปลี่ยนผ่านสู่ยุค เดวิด มอยส์ (ฤดูกาล 2013-2014) เจ้าตัวกลับได้รับโอกาสลงสนามแค่เพียง 4 ครั้งเท่านั้น
ซาฮา และ มอยส์ มาเยือนประเทศไทย เมื่อปี 2013
หลังเสียคนกับ “The Chosen One” (ผู้ถูกเลือก) ซาฮา รีเทิร์นกลับไปเป็นตัวหลักให้กับ คริสตัล พาเลซ เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในปีกที่ทำผลงานได้ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก เมื่อมองย้อนกลับไป – หาก “เฟอร์กี้” อยู่กับผีต่ออีกสักหนึ่งฤดูกาลละก็ ไม่แน่ ซาฮา อาจกลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีมไปแล้ว ก็…เป็น…ได้
อันดับที่ 9 – ริทชี่ เดอ ลาต
เดอ ลาต เคยลงสนามในถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด ไป 6 นัด ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายร่วมทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2012 แถม เดอ ลาต ยังเป็นหนึ่งใน ขุนพลเลสเตอร์ฯ ชุดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในปี 2016 อีกด้วย – ความทรงจำที่ดีที่สุดของ “ผีแดง” กับ ปราการหลังรายนี้ คือ เจ้าตัวกลายมีชื่อลงสนามในช่วงเวลาที่ แมนฯ ยู มีปัญหาขาดแคลนกองหลัง ในเดือนพฤศจิกายน 2009
ปัจจุบัน ริทชี่ เดอ ลาต ค้าแข้งอยู่กับ รอยัล อันท์เวิร์ป ทีมบ้านเกิดในลีกสูงสุดเบลเยี่ยม
อันดับที่ 8 – อเล็กซิส ซานเชซ
คงไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับ ปีกทีมชาติชิลี รายนี้ ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวกับ ยูไนเต็ด เข้าขั้นห่วย แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ในช่วงเดือนมกราคม ต้องบอกว่า ซานเชซ ยังมีประโยชน์กับสโมสรอยู่มากโข
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม ปี 2018 แฟนบอล “ปีศาจแดง” ดีใจกันเนื้อเต้น หลังได้เห็นวิดีโอเปิดตัวสไตล์ “นักเปียโน” ของ อเล็กซิส ก่อนที่คลิปดังกล่าวจะกลายมาเป็นฉายาที่ถูกล้อเลียน…ตลอดไป
ซานเชซ ลงสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด 45 นัด ทำไปได้ 5 ประตูรับค่าเหนื่อย 500,000 ปอนด์/สัปดาห์
อันดับที่ 7 – อันเดอร์ส ลินเดการ์ด
หากใครยังจำได้ดี ลินเดการ์ด (หรือนี้คือลูกชายลับๆ ของ ลินเดเลิฟ และ ลินการ์ด !?) นายทวารเดนมาร์ก เข้ามาเป็น “คู่แข่ง” เร่งฟอร์มให้ ดาบิด เดเคอา ในช่วง 2 ฤดูกาลแรกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
เจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามในฐานะตัวจริงอยู่บ้างในฤดูกาล 2011-2012 และ 2012-2013 แต่พอ มือกาวลามะ เข้าที่เข้าทางจนกลายเป็นผู้รักษาประตูอันดับหนึ่งของโลก ลินเดการ์ด ก็ต้องระเห็ดระเหินไปอยู่กับ เวสต์บรอมฯ และ เบิร์นลีย์ ในช่วงเวลาถัดมา และล่าสุดคือโกลมือหนึ่งคนปัจจุบันของ เฮลซิงบอร์ก
อันดับที่ 6 – เฮนริค ลาร์สสัน (ยืมตัว)
กองหน้าจอมเก๋าชาวสวีดิช เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ต้องพูดถึงอย่างไร้ข้อแม้ ถึงเจ้าตัวจะเป็นการเซ็นสัญญาแบบ “ยืม” แต่ก็ต้องหาอันดับสอดแทรกให้เข้ามาอยู่ในลิสต์นี้ให้ได้…
เฟอร์กูสัน ขออนุญาต กลาสโกว์ เซลติก พา เฮนริค ลาร์สสัน มาลุย พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบสั้นๆ ในเดือนมกราคม ปี 2007 และเจ้าตัวก็ตอบแทนให้แฟนแมนฯ ยู ได้ชื่นอกชื่นใจกันสุดๆ ใช้เวลาไม่ถึงฤดูกาลก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้นำ” ของทีม แถมพัง 13 ประตู กลายเป็นที่โปรดปรานของ เร้ดเดวิลส์ ทุกหมู่เหล่า…
คงมีแฟนผีไม่น้อยที่แอบเสียดาย และหวังว่า ลาร์สสัน จะอยู่กับทีมตั้งแต่แรก
อันดับที่ 5 – พอล สโคลส์
ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้หรือไม่…ตอนที่ พอล สโคลส์ มิดฟิลด์ “หัวแดงเพลิง” ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า เขาจะเลิกแขวนสตั๊ดชั่วคราว และกลับมาช่วย “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง!
“ผีแดง” ในเวลานั้น เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักหน่วง ทำให้ “สโคลซี่” ซึ่งกำลังเรียนรู้การเป็นโค้ชอยู่ในอคาเดมี่ ต้องตัดสินใจรีเทิร์นช่วยสโมสร แถมเกมแรกที่เจ้าตัวลงสนามยังเป็นการทำศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย
เจ้าตัวพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า อายุเป็นเพียงตัวเลข ด้วยวัย 37 ปี สโคลส์ บัญชาการเกมตรงกลางของ แมนฯ ยู อย่างกับเด็กหนุ่มไฟแรง สุดท้ายพาต้นสังกัดเถลิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ – ก่อนที่ เจ้าตัวจะรีไทร์ (จริงๆ เสียที) หลังจบฤดูกาล ด้วยสถิติลงสนาม 718 นัดในทุกรายการ
ชูถ้วยอีกครั้งหลังแขวนสตั๊ดรอบสอง
อันดับที่ 4 – หลุยส์ ซาฮา
มาถึงอันดับที่ 4 จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก หลุยส์ ซาฮา อดีตกองหน้าเฟรนช์แมน เจ้าของฉายา “ไอ้หน้าปลาดุก” ซึ่งย้ายจาก ฟูแล่ม มาค้าแข้งใน “โรงละครแห่งความฝัน” ช่วงเดือนมกราฯ ปี 2004
ซาฮา ลงสนามให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 124 นัดใน 5 ฤดูกาล ถล่มประตูได้ถึง 42 ลูก ดูเผินๆ เหมือนจะไม่เยอะ เมื่อเทียบกับศูนย์หน้าคนอื่นๆ ของ แมนฯ ยู แต่หากเทียบกับ “อาการบาดเจ็บ” ของเจ้าตัวที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกต้องบอกว่านี่คือสถิติการทำประตูที่มหัศจรรย์สุดๆ ของนักเตะ “กระดูกยุง”
หลุยส์ ซาฮา คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับต้นสังกัดได้ 2 สมัย ลีกคัพ 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 1 สมัย ก่อนย้ายไปอยู่กับ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในปี 2008
อันดับที่ 3 – ฆวน มานูเอล มาต้า
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ปี 2014 ใครจะเชื่อว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จะยอมปล่อย กองกลางจอมเทคนิค รายนี้ มาร่วมทีม “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มาต้า แสดงให้แฟนแมนยูเห็นถึง “คลาส” ของเขาทั้งในและนอกสนาม แม้เจ้าตัวจะไปสามารถสร้างสรรค์ผลงานระดับ “สุดยอด” แบบที่เคยทำได้กับ “สิงห์บลูส์” แต่ก็ต้องยอมรับว่า ความสามารถของเจ้าตัวนั้นเหลือล้นและสร้างประโยชน์ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างมหาศาล
แฟนผียังจำเกมในฤดูกาล 2014-2015 ที่ แมนฯ ยู บุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ณ สนามแอนฟิลด์ ได้หรือไม่? … ผลงานของ มาต้า ในแมตช์ดังกล่าวแค่เพียงแมตช์เดียวก็เพียงพอที่จะพาให้เจ้าตัวขึ้นมาติดในอันดับที่ 3 แบบไร้ขอกังขา จนเป็นที่มาของฉายา ฆวนฟิลด์ (Juanfield)
อันดับที่ 2 – ปาทริซ เอฟร่า
เอฟร่า ประเดิมสนามนัดแรกในสีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก มีส่วนกับการเสีย 3 ประตูจนพ่ายคู่ปรับร่วมเมืองไปในขณะนั้น
ภาพจาก Twitter @ManUTD
แต่หลังจากฝันร้ายดังกล่าว แบ็คซ้ายสัญชาติฝรั่งเศส กลายมาเป็น แบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยู อย่างไม่เป็นทางการ ด้วยผลงานในระดับสุดยอดซึ่งยากจะหาใครเทียบ
เจ้าตัวลงสนามรับใช้ “ปีศาจแดง” ไปมากถึง 379 นัด และทำไปได้ 10 ประตู คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 5 สมัย เอฟเอคัพ อีก 4 สมัย และถ้วย “บิ๊กเอียร์” อีก 1 สมัย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ พาทริซ เอฟร่า รู้ซึ้งดีถึง “ความหมาย” ของการเป็นนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด …
อันดับที่ 1 – เนมานย่า วิดิช
เดินทางมาถึงอันดับที่หนึ่งเสียที และเชื่อว่า แฟนผีตัวจริง คงเดาได้ไม่ยาก – เนมานย่า วิดิช เจ้าของฉายา “คนเหล็ก” หนึ่งในหัวใจสำคัญของเกมรับ แมนฯ ยู ในช่วงปี 2006-2014 ไม่ว่าศูนย์หน้าจากทีมใดก็ต้องกลัวยามเมื่อเจ้าตัวจับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ จนกลายเป็นตำนาน 2 ดูโอ้ ที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก
หลัง แกรี่ เนวิลล์ แขวนรองเท้า เจ้าตัวก็กลายมาเป็นกัปตันทีมอย่างเป็นทางการในฤดูกาล 2010-2011 พาสโมสรคว้าถ้วยต่างๆ มาประดับตู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก (2006-2007, 2007-2008, 2008-2009, 2010-2011, 2012-2013) ลีกคัพ (2005-2006, 2008-2009, 2009-2010) คอมมูนิตี้ ชิลด์ (2007, 2008, 2010, 2011, 2013) ยูซีแอล ฤดูกาล 2007-2008 รวมถึง สโมสรโลก ในปี 2008 ด้วย
พอมองย้อนกลับไปดูความแข็งแกร่งของปราการหลังอย่าง เนมานย่า วิดิช และ ความสำเร็จในอดีตแล้ว เร้ดเดวิลส์ หลายๆ คนคงแอบมีเศร้ากันไปบ้าง และได้แต่ภาวนาให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าของค่าตัวสูงเป็นประวัติกาล สร้างผลงานให้คุ้มกับเม็ดเงินเสียที อย่าปล่อยให้แฟนผีต้องนั่งละเหี่ยใจกันแบบนี้…
นักเตะคนอื่นๆ ที่คุณอาจลืมไปแล้ว
- ตง ฟาง โจว ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม ปี 2004 ลงสนามไปเพียงไม่กี่นัด จนมีเครื่องหมายคำถามว่า เจ้าตัวเป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาดหรือไม่ – มีข่าวลือว่า ตง ฟาง โจว ถึงกับต้องทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าเป็นคนใหม่ เพื่อหลีกหนีการถูกบุลลี่-ล้อเลียนเรื่องชีวิตของเขากับ “ปีศาจแดง”
- โซรัน โทซิช เซ็นสัญญาร่วมทีมในเดือนมกราคม ปี 2009 ลงสนามไปเพียง 5 นัด ภายใต้การคุมทีมของ “ท่านเซอร์”
- บิคตอร์ บัลเดส อดีตนายทวารบาร์เซโลน่า ที่ถูกเซ็นสัญญามาเป็นแบ็คอัพของ เดเคอา – ลงสนามไปเพียง 2 นัดในฤดูกาล 2014-2015 ก่อนถูก ฟานกัล ตะเพิดออกจากห้องแต่งตัว
เรียบเรียงจาก Givemesport