ข่าวการเมือง

“ชูวิทย์” เล่าเจอหน้า “ไอซ์-โรม” รับที่ด่าพรรคส้มไม่ได้โกรธ แต่ผิดหวัง

ชูวิทย์ เล่าเจอหน้า สส.ไอซ์ กับ รังสิมันต์ โรม รับที่ด่าพรรคส้มไม่ได้โกรธ แต่ผิดหวัง เล่าเลือกพรรคส้มมาถึง 2 ครั้ง ถ้าไม่รักจะทำไมถึงเขียนถึงทุกวัน

นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “จับเบอร์หาเสียง เช้านี้ (28 ธ.ค. 68) วันจับหมายเลขพรรค ผมได้พบรังสิมันต์ โรม และไอซ์ รักชนก ทั้งสองบอกผมว่า “ด่าพรรคส้มน้อยๆ หน่อย“ จึงขอชี้แจงแถลงไขให้เข้าใจ ผมเลือกพรรคส้มมาถึง 2 ครั้ง ย่อมมีสิทธิ์จะตำหนิบ้าง มิได้โกรธแค้น เพียงแต่ผิดหวัง คนเลือกย่อมมีสิทธิจะตำหนิเพื่อปรับปรุงแก้ไข พูดกันซื่อๆ ตรงๆ สไตล์เดียวกันกับ ”คนพรรคส้ม”

อย่าไปแยกคนหนุ่มคนแก่ เพราะมีหลายกลุ่มหลายวัยที่ให้โอกาสคนหนุ่มสาว ทำให้ได้คะแนนถึง 14 ล้านเสียง อย่าไปคิดว่า ”ตำหนิกันไม่ได้ “ต้องเชียร์กันตะพึดตะพืออย่างเดียว หากจะเรียกอีกอย่างคือ ”ติเพราะรัก เตียนเพราะคิดถึง” หากคนไม่รักไฉนจะโพสต์เขียนถึงทุกวัน

เมื่อได้เบอร์ประจำพรรคก็จะเข้าสู่เทศกาลหาเสียง เรื่องนี้ต้องยกให้พรรคส้ม แต่ไม่อยากให้ไปขีดเส้น “แบ่งเขาแบ่งเรา“ อย่างการเมืองเก่าทำ การเมืองเป็นเรื่องของประชาชนที่โหวตเลือกได้เพียงหมายเลขเดียว เมื่อนักการเมืองมีปัญหากัน จบด้วยการยุบสภา ภาระค่าจัดการเลือกตั้งเกือบ 10,000 ล้าน มาจากภาษีของประชาชน ไม่ใช่ของถูกของฟรี

การยุบสภาครั้งนี้หาใช่เกิดจากระบบประชาธิปไตยในสภา แต่เกิดจาก 2 พรรค คือ น้ำเงินกับส้มไปร่วมจับมือแล้วแตกคอกันเองจนเลิกคบกัน นำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ใครผิดใครถูกไปว่ากันที่ผลการเลือกตั้ง

ผมขอทำหน้าที่ “การเมืองภาคประชาชน” ในช่วงนี้ เมื่อวันนี้มีโอกาสพบโรม และไอซ์ ในระยะเวลาสั้นๆ ต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก ย่อมนำมาถึง ”ความเข้าใจ สื่อความหมายที่พวกเขายอมรับฟัง“ ถือเป็น ”นักการเมืองรุ่นใหม่“ ที่เราฝากความหวังในอนาคต และมีอีกหลายพรรคที่เสนอตัวให้ประชาชนเลือก ผมจึงยืนยันว่าการวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิของประชาชนต่อนักการเมือง

ยิ่งช่วงนี้นักการเมืองยิ่งต้องฟังเสียงประชาชนให้มาก เป็นการสื่อสารสองทาง ดังนั้นเมื่อสื่อมวลชนให้ ”พรรคการเมือง“ มาดีเบตบนเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ก็ควรให้ประชาชนมาแสดงความเห็นว่านโยบายของใครดีไม่ดีอย่างไร? แน่นอนตอนนี้นโยบายอะไรที่ติดไว้บนเสาไฟฟ้าก็ดูสวยหรูไปหมด

แต่คนที่ทำได้ย่อมต้องเป็น ”รัฐบาล“ เท่านั้น ส่วน ”ฝ่ายค้าน“ ทำหน้าที่ได้แค่ตรวจสอบ อย่าไปหลงกลให้ฝ่ายรัฐบาลไปเรียกว่าเป็น ”ฝ่ายค้ำ“ แทน “ฝ่ายค้าน” อีกแล้วกัน

อย่างนี้ผมก็น้อยใจเหมือนกันในฐานะ “ด้อมส้มแก่””

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button