
- วันนี้ตลาดมองกรอบ USD/THB แถว 31.00–31.20 (อีกมุมให้กว้าง 30.90–31.30) ช่วงปลายปีสภาพคล่องบาง ทำให้มีโอกาสผันผวนได้สองทางถ้ามีโฟลว์ก้อนใหญ่เข้ามา
- แม้ GDP สหรัฐไตรมาส 3 โตแรง 4.3% แต่ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นออกมาผสมกัน ทำให้ดอลลาร์แกว่งแบบ sideway มากกว่าจะเดินหน้าแข็งต่อ นี่เป็นตัวแปรหลักที่กด-หนุนเงินบาทระยะสั้น
- รายงานการค้าไทยมีสิทธิ์ทำให้เงินบาท “แกว่งแรงขึ้น” ถ้าออกมาต่างจากที่ตลาดคาด ขณะเดียวกันฝั่งสหรัฐให้ดู ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และสต็อกน้ำมัน EIA เพราะจะกระทบทั้งดอลลาร์ บอนด์ยีลด์ และสินทรัพย์เสี่ยง
บาทเช้านี้แข็งค่าเปิด 31.10 บาท! ตลาดจับตาตัวเลข “ส่งออก-นำเข้า” พ.ย. กูรูให้กรอบแกว่งตัว 31.00-31.20 สวนทางสหรัฐฯ ดอลลาร์อ่อนค่า รับข่าวเฟดจ่อลดดอกเบี้ยปีหน้า
ตลาดเงินบาทเช้านี้เปิดการซื้อขายที่ระดับ 31.10 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 31.12 บาทต่อดอลลาร์ สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนกำลังลง ท่ามกลางการรอคอยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในประเทศอย่างยอดการส่งออกและนำเข้า
ฝั่งสหรัฐ ตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2568 ที่ขยายตัว 4.3% ช่วยประคองมุมมองว่ากิจกรรมเศรษฐกิจยังเดินได้ดี โดยเฉพาะการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น 3.5%
อย่างไรก็ดี ตลาดยังจับตาสัญญาณฝั่งข้อมูลเศรษฐกิจชุดถัดไป เพราะเมื่อข้อมูลบางรายการออกมาอ่อนลง ผู้เล่นมักกลับไปถือสถานะเดิมเรื่อง “ดอกเบี้ยมีโอกาสลด” ส่งผลให้ดอลลาร์แกว่งตัวแบบไร้ทิศทางชัดเจนมากกว่าจะเดินหน้าแข็งค่าต่อเนื่อง
Krungthai GLOBAL MARKETS เล่าโทนตลาดในคืนที่ผ่านมาไปในทางเดียวกัน โดยระบุว่าเงินบาทเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์แถวแนวรับ 31.10 บาทต่อดอลลาร์ และแกว่งอยู่ราว 31.09–31.17 บาทต่อดอลลาร์ เพราะดอลลาร์และทองคำก็แกว่งในกรอบใกล้เคียงกัน

เมื่อดอลลาร์ย่อตัว ราคาทองคำรีบาวด์กลับขึ้นมาเหนือโซน 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ทำให้แรงหนุนเงินบาทยังพอมี แต่ยังไม่แรงพอจะพาให้หลุดกรอบไปไกลในช่วงปลายปีที่สภาพคล่องบางลง
บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังโน้มไปทางเปิดรับความเสี่ยง ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากหุ้นธีม AI/เซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะ Nvidia ที่ปรับขึ้นเด่น ทำให้ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดบวก
ขณะที่ตลาดยุโรปขยับขึ้นเช่นกัน โดย Novo Nordisk พุ่งแรงหลัง FDA อนุมัติยาลดน้ำหนักชนิดเม็ด ด้านตลาดบอนด์ สหรัฐเห็นบอนด์ยีลด์ 10 ปีแกว่งแถว 4.16% มีจังหวะยกขึ้นทดสอบ 4.20% แล้วถอยลงตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาผสมกัน
สำหรับวันนี้ โฟกัสของตลาดในไทยอยู่ที่รายงาน “ส่งออก-นำเข้า” เดือนพฤศจิกายนจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินแกว่งแรงขึ้นได้ในช่วงสั้น โดยเฉพาะถ้าตัวเลขต่างจากที่ตลาดตั้งสมมติฐานไว้มาก
ฝั่งต่างประเทศ ตลาดยังรอตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐ และสต็อกน้ำมันดิบ EIA เพื่อประเมินทิศทางดอลลาร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม
ด้านกรอบค่าเงิน ttb ให้กรอบ USD/THB วันนี้ที่ 30.90–31.30 ส่วน Krungthai GLOBAL MARKETS มองกรอบใกล้กว่าอยู่ที่ 31.00–31.20 และย้ำความเสี่ยง “สองทาง” ในช่วงปลายปี เพราะปริมาณธุรกรรมลดลงทำให้โฟลว์ก้อนใหญ่เพียงด้านเดียวผลักราคาแกว่งได้ง่ายขึ้น
ภาพใหญ่ Krungthai GLOBAL MARKETS ยังให้น้ำหนักกับแนวโน้มเงินบาทแข็งค่าในช่วงต้นปี 2026 หากดอลลาร์อ่อนลงเป็นระยะและทองคำยังยืนสูง แต่ตลาดยังต้องจับตาจังหวะผันผวนจากข่าวและตัวเลขเศรษฐกิจที่จะเข้ามาสลับกันตลอดทาง
ข้อมูลจาก
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





