คลินิกความงามสปอนเซอร์สุขภาพและการแพทย์

รวม 10 ข้อควรรู้ก่อนทำ Hifu คืออะไร ? ทำตำแหน่งไหน ? ใช้กี่ไลน์ ?

เรื่องควรรู้ก่อนทำ Hifu

Hifu เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิว ปรับหน้าเรียว V-Shape พร้อมกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไฮฟู่เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันค่ะ

สำหรับหลาย ๆ คน ที่กำลังตัดสินใจทำ Hifu มักเกิดข้อสงสัยว่า Hifu คืออะไร ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ไลน์ถึงจะเห็นผล ? หรือทำแล้วเจ็บไหม ? บทความนี้ได้รวบรวม 10 สิ่งสำคัญก่อนทำ Hifu ที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้เข้าใจ Hifu มากขึ้น ติดตามอ่านพร้อมกันได้เลยค่ะ

1. รู้จักนวัตกรรม Hifu คืออะไร ? มีหลักการทำงานอย่างไร ?

Hifu (ไฮฟู่) หรือ High Intensity Focused Ultrasound คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งพลังงานลงไปยังชั้นผิวลึกระดับ SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า

หลักการทำงาน Hifu
การทำงานของ Hifu จะส่งพลังงานแบบเฉพาะจุดลงสู่ผิวชั้น SMAS

หลักการทำงาน Hifu จะปล่อยพลังงานเป็นจุดเล็ก ๆ คล้ายจุดไข่ปลา ส่งพลังงานแบบเฉพาะจุด (Focused Point) ลงสู่ผิวชั้น SMAS โดยทำให้เกิดความร้อนประมาณ 65–70 องศาเซลเซียส ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นหดตัวทันที พร้อมกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผิวค่อย ๆ แน่นขึ้น ยกกระชับขึ้น และเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังทำเพียงไม่นานค่ะ

2. Hifu มีกี่รุ่น ? แตกต่างกันอย่างไร ?

ปัจจุบัน Hifu มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เครื่องไฮฟู่มีหลายรุ่น สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงาม มีอยู่ 2 รุ่นหลัก ได้แก่ Hifu Ultraformer III และ Hifu Ultraformer MPT ซึ่งใช้หลักการทำงานเดียวกัน แต่มีแตกต่างกันดังนี้ค่ะ

Hifu มีกี่รุ่น

1) Hifu Ultraformer III

Hifu Ultraformer III เป็นเครื่อง Hifu รุ่นยอดนิยมจากประเทศเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท Classys Inc. ได้รับความไว้วางใจจากคลินิกเสริมความงามจำนวนมาก ด้วยประสิทธิภาพด้านการยกกระชับ และกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี

Hifu Ultraformer III

จุดเด่นของ Hifu Ultraformer III ได้แก่

  • สามารถส่งพลังงานได้หลายระดับความลึก เช่น 1.5, 2.0, 3.0 และ 4.5 มิลลิเมตร ครอบคลุมตั้งแต่ผิวชั้นตื้นไปจนถึงชั้น SMAS
  • ใช้ยกกระชับได้หลายบริเวณ ทั้งใบหน้า กรอบหน้า แก้ม เหนียง รอบดวงตา รวมถึงลำตัว เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และเอว
  • พลังงานสม่ำเสมอ ช่วยลดความเจ็บระหว่างทำ
  • มีหัวยิงพิเศษ Cherry Pink ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า เห็นผลไว เจ็บน้อยลง
  • เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
  • ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
  • ค่าใช้จ่ายเข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำ Hifu ค่ะ

2) Hifu Ultraformer MPT

Hifu Ultraformer MPT

จุดเด่นของ Ultraformer MPT ได้แก่

  • มีโหมด MP Mode ปล่อยพลังงานแบบต่อเนื่อง ทำให้ใช้เวลาทำน้อยลง และช่วยลดความรู้สึกไม่สบายขณะทำ
  • ปล่อยพลังงานได้ 3 แบบในเครื่องเดียวทั้ง Dot, Liner และ Circle
  • มีหัวยิงให้เลือกหลายระดับความลึก รวมสูงสุดถึง 7 ระดับ ครอบคลุมทุกปัญหาผิว
  • หัวยิง Ultraboost สำหรับงานผิวโดยเฉพาะ สามารถยิงพลังงานได้ 2 รูปแบบ
  • สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้า เหนียง แก้ม กรอบหน้า ไปจนถึงบริเวณลำตัว
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับ และดูแลผิวไปพร้อมกันในครั้งเดียว

ทั้ง Hifu Ultraformer III และ Hifu Ultraformer MPTมีจุดเด่นต่างกัน การเลือกใช้เครื่องรุ่นใด ควรผ่านการประเมินจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวางแผนการทำ Hifu ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายของแต่ละคน จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคุ้มค่ามากที่สุดค่ะ

3. Hifu เหมาะกับใครบ้าง ?

Hifu สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการยกกระชับผิวและปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้นค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวในลักษณะต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
  • ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่คอลลาเจนเริ่มลดลง
  • ผู้ที่มีริ้วรอยเล็กน้อย เช่น ร่องใต้ตา หรือร่องแก้มที่ยังไม่ลึกมาก
  • ผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด อยากปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย V-Shape
  • ผู้ที่ต้องการให้หน้าดูเด็กลง ยกกระชับผิวพร้อมกระตุ้นคอลลาเจน
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
  • ผู้ที่มีเวลาจำกัด ไม่มีเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถใช้หน้าได้ตามปกติ

4. Hifu ทำตำแหน่งไหน ? ช่วยอะไรได้บ้าง ?

เครื่อง Hifu เป็นหัตถการยกกระชับที่สามารถทำได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้าหรือร่างกาย โดยแพทย์จะประเมินปัญหาผิวและโครงสร้างใบหน้าเป็นรายบุคคล เพื่อเลือกหัวยิง และระดับพลังงานให้เหมาะสม ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนค่ะ

ตำแหน่งที่นิยมทำ Hifu และผลลัพธ์ที่ช่วยได้ ได้แก่

  • รอบดวงตา/ใต้ตา : ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบ ดวงตา และลดความหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา
  • คิ้ว/หางตา : ช่วยยกคิ้ว ยกหางตา แก้ปัญหาหนังตาตก
  • ใบหน้า/แก้ม : ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย แก้มห้อยให้กระชับขึ้น
  • ร่องแก้ม/มุมปาก : ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น ร่องลึกดูตื้น ใบหน้าดูสดใสขึ้น
  • กรอบหน้า : ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว ปรับรูปหน้าให้ชัดขึ้น
  • คาง/ลำคอ : ช่วยลดเหนียง กระชับผิวบริเวณลำคอให้ดูเรียบเนียนขึ้น

โดยรวมแล้ว Hifu เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย และฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบเนียน แน่นกระชับขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนานค่ะ

5. Hifu ควรใช้กี่ไลน์ (Line) ถึงเห็นผลจริง ?

การทำ Hifu ให้เห็นผลชัดเจน จำนวนไลน์ (Line) ที่ใช้เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะแต่ละตำแหน่งมีความหย่อนคล้อย ปริมาณไขมัน และสภาพผิวที่ต่างกัน การใช้จำนวนไลน์ที่เหมาะสมจึงช่วยให้ผิวยกกระชับได้ตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า

Hifu แต่ละจุดใช้กี่ไลน์

จำนวนไลน์ Hifu ที่แนะนำในแต่ละตำแหน่ง

  • Hifu รอบดวงตา / ใต้ตา : ประมาณ 100–300 Line
  • Hifu หน้าผาก : ประมาณ 100–200 Line
  • Hifu คิ้ว / หางตา : ประมาณ 100–150 Line
  • Hifu ร่องแก้ม / มุมปาก : ประมาณ 300 Line
  • Hifu เฉพาะแก้ม : ประมาณ 100–300 Line
  • Hifu เฉพาะเหนียง / คาง : ประมาณ 100–300 Line
  • Hifu ต้นแขน / ต้นขา : ประมาณ 700–1,000 Line
  • Hifu หน้าท้อง / เอว / สะโพก : *จำนวน Line ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์

การเลือกจำนวนไลน์ให้เหมาะสมมีผลต่อผลลัพธ์โดยตรงค่ะ หากน้อยเกินไปอาจเห็นผลไม่ชัดเจน แต่ถ้ามากเกินไปอาจสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น ก่อนทำ Hifu จึงควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวางแผนการยิง Hifu ให้เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ

6. หลังทำ Hifu กี่วันเห็นผล ? ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน ?

หลังทำ Hifu สามารถเห็นผลได้ทันทีประมาณ 20% จากการหดตัวของชั้นผิว ทำให้รู้สึกว่าผิวตึงกระชับขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่วันแรกค่ะ จากนั้นจะเห็นผลเต็มที่ในช่วงประมาณ 2-3 เดือนหลังทำ ผิวจะดูแน่น กระชับขึ้น จากการสร้างคอลลาเจนใหม่ของผิวค่ะ

สำหรับระยะเวลาของผลลัพธ์ โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานที่ใช้ จำนวนไลน์ที่ยิง ระดับความเจ็บที่ทนได้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำ หากดูแลผิวอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้นค่ะ

7. Hifu ราคาเท่าไหร่ ? คุ้มค่าไหม ?

ราคาการทำ Hifu ในปัจจุบันมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลายหมื่นบาท โดยจะแตกต่างกันตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ยี่ห้อและรุ่นของเครื่องที่ใช้ จำนวนไลน์ที่ยิง ตำแหน่งที่ทำ ประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำหัตถการ รวมถึงโปรโมชันของแต่ละคลินิกค่ะ

โดยรวมถือว่าเป็นหัตถการที่ คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลค่อนข้างชัดเจน แพทย์จะเป็นผู้ประเมินจำนวนไลน์ให้เหมาะกับปัญหาผิวและงบประมาณของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสมค่ะ

โปรโมชันทำ Hifu ราคาสุดพิเศษ ที่ V Square Clinic

ราคา Hifu Ultraformer III

ราคา Hifu Ultraformer MPT

หมายเหตุ : ราคาข้างต้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรโมชันในแต่ละช่วง แนะนำให้สอบถามกับทางคลินิกอีกครั้งก่อนเข้ารับการบริการ

8. ทำ Hifu เจ็บไหม ? รู้สึกอย่างไรระหว่างทำ ?

การทำ Hifu จะรู้สึกเจ็บในระดับหนึ่ง แต่เป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ค่ะ ขณะทำจะรู้สึกปวดตึงลึก ๆ ใต้ชั้นผิว แต่ไม่แสบร้อน ความรู้สึกนี้แสดงว่าคลื่นเสียงถูกส่งลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นสำคัญของการยกกระชับผิว ยิ่งถ้าใครทนความเจ็บได้ ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้นค่ะ

แต่ถ้าหากทำ Hifu ไม่เจ็บเลย คือไม่ได้ผลนะคะ เพราะอาจเกิดจากการใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการตั้งค่าพลังงานต่ำเกินไป

9. หลังทำ Hifu ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

ดูแลตัวเองหลังทำ Hifu

หลังทำ Hifu ผิวจะอยู่ในช่วงฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวดีขึ้น และคงผลลัพธ์ได้นานยิ่งขึ้นค่ะ

  • งดการนวด ถู หรือกดใบหน้าแรง ๆ ในบริเวณที่ทำ
  • ทาครีมบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
  • ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเป็นประจำ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
  • หากมีอาการปวดตึงหรือระบมเล็กน้อยหลังทำ ถือเป็นเรื่องปกติ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดจัดในช่วงกลางวัน ประมาณ 1–2 สัปดาห์หลังทำ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง

10. เลือกทำ Hifu ที่ไหนดี ? รู้ทริคเลือกคลินิก ปลอดภัย เห็นผลจริง

การเลือกคลินิกทำ Hifu ที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ค่ะ

  • คลินิกได้มาตรฐาน มีใบอนุญาต 11 หลัก เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ใช้เครื่อง Hifu แท้ ได้มาตรฐาน มีเอกสารรับรองชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้จริง
  • แพทย์ที่ทำหัตถการต้องมีประสบการณ์ด้านการยกกระชับ เพื่อความแม่นยำและปลอดภัย
  • มีการประเมินใบหน้าเป็นรายบุคคลก่อนทำทุกเคส เพื่อกำหนดจำนวนไลน์ที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงคลินิกที่โฆษณาเกินจริง เช่น ราคาถูกผิดปกติหรือไม่จำกัดไลน์
  • มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง พร้อมภาพก่อน–หลังที่ไม่ผ่านการตกแต่งเกินจริง

การทำ Hifu ที่ V Square Clinic ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้เป็นหลัก ทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ และผ่านการฝึกอบรมเฉพาะด้านการใช้เครื่อง Hifu ให้คำปรึกษา และวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างละเอียด เพื่อประเมินจำนวนไลน์ที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและตรงกับความต้องการมากที่สุด

นอกจากนี้ ทุกสาขาของ V Square Clinic เลือกใช้เฉพาะเครื่อง Hifu แท้ รุ่น Ultraformer III และ Ultraformer MPT ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการความงามว่าเป็นเครื่องที่มีคุณภาพสูง ให้พลังงานแม่นยำ ปลอดภัย และคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจน โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่จำเป็นต้องพักฟื้นค่ะ

สรุปส่งท้ายก่อนทำ Hifu ตัวช่วยกระชับหน้าเรียว

การทำ Hifu เป็นหัตถการที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยหลังทำจะเริ่มเห็นผลทันทีประมาณ 20% และชัดขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจทำ Hifu ควรเข้ารับการประเมินกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุดค่ะ

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

sorrawit

นักเขียนข่าวกีฬาประจำ Thaiger มีความสนใจในด้านกีฬาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรืออเมริกันฟุตบอล รวมไปถึงชื่นชอบเกมและอนิเมะเป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันสั่งสมประสบการณ์เขียนบทความกีฬาออนไลน์ มากกว่า 4 ปี หัวข้อที่เชี่ยวชาญคือเรื่องกีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล ช่องทางติดต่อ gig@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button