พลิกประวัติศาสตร์! คนผิวดำคนแรกของอังกฤษ DNA ชี้ ไม่ใช่คนดำ

พลิกประวัติศาสตร์! ผลดีเอ็นเอชี้ ‘Beachy Head Woman’ ไม่ใช่คนผิวดำคนแรกของอังกฤษ แต่เป็นสาวท้องถิ่นเมืองอีสต์บอร์น
ปริศนาเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของโครงกระดูกยุคโรมันที่มีชื่อเสียงในนาม “Beachy Head Woman” (หญิงแห่งบีชชีเฮด) ได้รับการไขกระจ่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีพันธุกรรม ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า เธอไม่ได้มีเชื้อสายแอฟริกันตามที่เคยเข้าใจกันมานานนับทศวรรษ ผ่านสารคดี BBC แต่แท้จริงแล้วเธอคือหญิงสาวท้องถิ่นจากทางตอนใต้ของอังกฤษ
โครงกระดูกนี้ถูกค้นพบในกล่องเก็บของ ณ ศาลาว่าการเมืองอีสต์บอร์น เมื่อปี 2555 ระบุที่มาว่าพบที่แหลมบีชชีเฮดในช่วงทศวรรษ 1950 จากการวิเคราะห์กะโหลกศีรษะในอดีต นักมานุษยวิทยานิติเวชเคยลงความเห็นว่า เธอมีลักษณะโครงสร้างใบหน้าแบบชาวแอฟริกันแถบซับซาฮารา

ข้อสันนิษฐานนี้ทำให้เธอกลายเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ สื่อและสารคดีต่างนำเสนอเรื่องราวในฐานะ “คนผิวดำคนแรกของอังกฤษ” (First Black Briton) มีการสร้างภาพจำลองใบหน้าเป็นหญิงผิวเข้ม ผมหยิก ตาสีน้ำตาล และถึงขั้นมีการติดตั้งป้ายอนุสรณ์สถานเพื่อสดุดีในปี 2559
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้เริ่มถูกตั้งข้อสงสัยเมื่อการตรวจดีเอ็นเอเบื้องต้นในปี 2560 บ่งชี้ว่าเธออาจมีเชื้อสายไซปรัส แต่ผลการทดสอบในขณะนั้นยังไม่สมบูรณ์เนื่องจากดีเอ็นเอเสื่อมสภาพ
ล่าสุด ทีมวิจัยนำโดย ดร.เซลินา เบรซ จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติลอนดอน ได้ใช้เทคโนโลยีการหาลำดับดีเอ็นเอขั้นสูงที่เรียกว่า “Capture Arrays” ซึ่งช่วยให้สามารถดึงข้อมูลพันธุกรรมคุณภาพสูงออกมาได้สำเร็จ
ผลการวิเคราะห์ชี้ชัดว่า เธอมีความใกล้ชิดทางพันธุกรรมกับประชากรท้องถิ่นในอังกฤษตอนใต้ยุคโรมัน ลักษณะทางกายภาพของเธอ น่าจะมี ดวงตาสีฟ้า ผมสีอ่อน และสีผิวโทนขาวถึงคล้ำเล็กน้อย ซึ่งตรงกันข้ามกับภาพจำลองเดิมที่เป็นหญิงผิวเข้มอย่างสิ้นเชิง
ดร.เบรซ กล่าวว่า “เธอผ่านการเดินทางมาอย่างยาวนาน จากการถูกยกย่องให้เป็นบุคคลสาธารณะ วันนี้เธอได้กลายเป็นเครื่องพิสูจน์ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์… แท้จริงแล้ว เธอเป็นเพียงเด็กสาวท้องถิ่นที่เติบโตในอีสต์บอร์นเท่านั้น”
ข้อมูลจากการตรวจอายุคาร์บอนกัมมันตรังสีระบุว่า เธอมีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 129 ถึง 311 ซึ่งตรงกับยุคที่โรมันยึดครองเกาะอังกฤษ เสียชีวิตขณะมีอายุประมาณ 18-25 ปี ส่วนสูงราว 152 เซนติเมตร

ร่องรอยบนกระดูกบ่งบอกว่าเธอเคยได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ขาแต่รักษาหายแล้ว นอกจากนี้ การวิเคราะห์สารอาหารในกระดูกยังพบว่า อาหารหลักที่กินคือสัตว์ทะเล ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ชายฝั่งทะเล
แม้การค้นพบครั้งนี้จะลบล้างสถานะ “คนผิวดำคนแรก” ในประวัติศาสตร์ แต่ทีมนักวิจัยยืนยันว่า นี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่ต้องคืนให้กับเจ้าของร่าง เพื่อให้เรื่องราวชีวิตจริงของเธอได้รับการจดจำอย่างถูกต้องตามข้อเท็จจริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เผยความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษคนไทยลดลง อยู่ที่อันดับ 116 ของโล
- ประธานสอบซูนึง ประกาศลาออก รับผิดชอบข้อสอบอังกฤษยากไป
- ครูอังกฤษถูกไล่ออก เหตุเตือนเด็กมุสลิมล้างเท้าในอ่างล้างหน้า “ที่นี่คือเมืองคริสต์”
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





