ข่าวการเมือง

เพื่อไทย ชู ‘ยศชนัน’ นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 มั่นใจถึงเป้า 200 ที่นั่ง

พรรคเพื่อไทย ชู “ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ย้ำจุดยืนปกป้องอธิปไตยจากปมกัมพูชา พร้อมมั่นใจฐานเสียงพาสู่ชัยชนะ 200 ที่นั่ง

ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ได้แก่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ โดยนายจุลพันธ์ประกาศอย่างชัดเจนว่า พรรคมีมติเสนอชื่อ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 เนื่องจากมีความเหมาะสมในการนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า แม้ตนจะเป็นหน้าใหม่ในสนามการเมืองระดับผู้นำ แต่มีความพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชน โดยจะเน้นการลงพื้นที่รับฟังปัญหาและนำความต้องการของประชาชนมาแปรเป็นนโยบาย สำหรับประเด็นที่ถูกมองว่าเป็นทายาทตระกูลการเมือง ตนมองว่าเป็นจุดแข็งที่ทำให้ได้รับโอกาสเรียนรู้และมีมุมมองที่กว้างไกลขึ้น ยืนยันว่าสามารถตัดสินใจและทำงานได้อย่างอิสระร่วมกับกรรมการบริหารพรรค

นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย
FB/ พรรคเพื่อไทย

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. ได้ถึง 200 ที่นั่ง แม้จะมีอดีต ส.ส. บางส่วนย้ายพรรคไป แต่เชื่อว่านโยบายที่ทำสำเร็จในอดีตและกลยุทธ์การหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียที่เข้มข้นขึ้น จะทำให้ประชาชนยังคงให้การสนับสนุน ส่วนประเด็นความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ทางพรรคยืนยันจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ โดยเน้นการตอบโต้ตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและการสื่อสารที่ถูกต้องในเวทีโลก

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ กล่าวเสริมถึงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งว่า พรรคเพื่อไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ทั้งการยุบพรรคและการรัฐประหาร แต่ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้เพราะมีประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือด ทั้งเรื่องกระสุนและอำนาจรัฐ แต่พรรคเพื่อไทยไม่หวั่นไหว เพราะมั่นใจในฐานเสียงกว่า 10 ล้านคน ที่พร้อมสนับสนุนนโยบายที่จับต้องได้

สำหรับยุทธศาสตร์ในช่วง 2 เดือนก่อนการเลือกตั้ง นายจุลพันธ์ ระบุว่า พรรคจะเร่งลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงนโยบายใหม่ๆ โดยเปรียบเทียบกับสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีเวลาหาเสียงเพียง 40 กว่าวันแต่ก็คว้าชัยชนะมาได้ ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีการปรับกระบวนทัพใหม่ ทั้งการสื่อสารและนโยบายที่ทันสมัย จึงมั่นใจว่าแคนดิเดตทั้ง 3 คน จะนำทัพเพื่อไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน

นายยศชนัน ย้ำทิ้งท้ายถึงประเด็นการเป็นทายาททางการเมืองว่า การมีครอบครัวที่เป็นนักการเมืองรุ่นเก่าถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างประสบการณ์ของคนรุ่นเก่ากับแนวคิดของคนรุ่นใหม่ เปรียบเสมือนตนเป็นคนตัวเล็กๆ บนมือยักษ์ใหญ่ใจดี ทำให้มองเห็นปัญหาและโอกาสได้กว้างไกลกว่า พร้อมยืนยันว่ามารดา นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จะไม่เข้ามาครอบงำการทำงาน เพราะนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ต้องตัดสินใจเพื่อคนทั้งประเทศ

ในส่วนของวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี นายสุริยะ มองว่าโลกยุคปัจจุบันต้องแข่งขันกันด้วยเทคโนโลยี ซึ่งนายยศชนัน มีความรู้ความสามารถในด้านนี้อย่างโดดเด่น แตกต่างจากแคนดิเดตคนอื่นๆ ที่เน้นการบริหารแบบเดิมๆ การนำเทคโนโลยี AI และความรู้สมัยใหม่มาปรับใช้ จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากผู้นำประเทศคนใหม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button